7 เหตุผลที่ทำให้โรงเรียนในฟินแลนด์เจ๋งที่สุดในโลก ที่หลายประเทศไม่อาจเลียนแบบได้

ฟินแลนด์เป็นหนึ่งในประเทศที่ประสบความสำเร็จในด้านการศึกษามากที่สุด แน่นอนว่าพวกเขาคงจะมีเคล็ดลับดีๆ ที่หลายประเทศอยากรู้ เพื่อเป็นแนวทางในการพัฒนาการศึกษาบ้าง

ทางเว็บไซต์ Businessinsider จึงได้รวบรวมเหตุผลที่ทำให้โรงเรียนในประเทศฟินแลนด์นั้น มีความเจ๋งที่สุดในโลก ถึงแม้ว่าหลายประเทศจะพยายามทำตามแล้ว แต่ก็ไม่อาจทำในระดับที่เทียบเท่าได้เลย จะเป็นเพราะอะไรบ้าง เรามาดูกันเถอะ!!

 

1. โรงเรียนและศูนย์ชุมชน Kastelli ตั้งอยู่ในเมือง Oulu ประเทศฟินแลนด์ ก่อตั้งเมื่อปี 2014 สามารถรองรับนักเรียนได้ 1,500 คน

 

นอกจากเป็นโรงเรียนแล้วและศูนย์ชุมชนแล้ว Kastelli ยังเป็นที่พักผ่อนและศูนย์สุขภาพสำหรับผู้ใหญ่ด้วย แต่วัตถุประสงค์หลักของสถานที่แห่งนี้ก็คือ เป็นแหล่งเรียนรู้สำหรับเด็กและผู้ใหญ่

ทีมสถาปนิก Lahdelma & Mahlamäki จึงได้ออกแบบทางเดินและลานกิจกรรมเพื่อให้เด็กๆ ได้ใช้ให้เกิดประโยชน์สูงสุด และเช่นเดียวกันสำหรับพื้นที่ด้านนอก ก็จะเป็นลานกิจกรรมสำหรับคนอีกช่วงอายุหนึ่ง

 

2. ภายในจะมีทางเดินที่ทอดยาวและพื้นที่ว่าง สำหรับให้นักเรียนได้พบปะ พูดคุยกับเพื่อนได้ตามสะดวก

 

Reino Tapaninen หัวหน้าของทีมสถาปนิกกล่าวว่า แม้จะมีพื้นที่ว่างสำหรับให้นักเรียนพูดคุยกัน แต่ด้วยการออกแบบที่พิเศษ จะช่วยลดเสียงของพวกเขาไม่ให้ดังเกินไปจนสร้างความรำคาญให้คนอื่น

นอกจากนี้ภายในอาคารก็จะมีเก้าอี้นุ่มๆ เบาะขนาดใหญ่ เก้าอี้โยก โซฟา ผนังที่สามารถเลื่อนได้ และที่กั้น สำหรับให้นักเรียนคุยกันแบบเป็นส่วนตัวได้

 

3. ครูไม่จำเป็นต้องสอนตามหลักสูตรที่กำหนดไว้ แต่สามารถเลือกสิ่งที่ต้องการสอนได้อย่างอิสระ

 

ในประเทศฟินแลนด์ ครูจะถูกมองว่าเป็นอาชีพที่สูงส่ง เทียบเท่ากับแพทย์หรือทนายความ และครูส่วนใหญ่ก็มักจะจบการศึกษาสูงๆ ส่งผลทำให้มีมีรายได้สูงด้วย

และในการสอนนั้นครูแทบจะไม่มีบทบาทในการออกแบบหลักสูตรเลย แต่ผู้ปกครองและนักเรียนจะเป็นปัจจัยหลักที่กำหนดว่าครูควรจะสอนอะไรให้กับพวกเขา

 

4. ที่ Kastelli มีการเรียนการสอนที่เหมาะสมกับความสนใจและระดับความรู้ของนักเรียน

 

ปกติแล้วฟินแลนด์จะใช้ระบบการสอนแบบแยกรายวิชา เช่น คณิตศาสตร์ วิทยาศาสตร์ ฟิสิกส์ แต่เมื่อกี่ปีที่ผ่านมานี้ ได้มีการเปลี่ยนเป็นรวมทุกวิชาเข้าด้วยกัน

นักเรียนที่เรียนคณิตสาสตร์ สามารถมาเรียนฟิสิกส์ได้ โดยประยุกต์ใช้ทั้งสองอย่างเข้าด้วยกัน ในขณะเดียวกัน แม้เด็กจะมีอายุต่างกันหรืออยู่คนละชั้นกัน แต่ก็สามารถเรียนเหมือนกันได้ เช่น นักเรียนป. 5 สามารถไปเรียนวิทยาศาสตร์กับป. 6 ได้

 

5. ฟินแลนด์เป็นหนึ่งในประเทศที่มีนวัตกรรมมากที่สุด เพียงเพราะเชื่อฟังผลการวิจัย

 

David Lubinski ศาสตราจารย์ด้านจิตวิทยาและการพัฒนามนุษย์แห่งมหาวิทยาลัยแวนเดอร์บิลต์ ได้ทำการศึกษาเกี่ยวกับพฤติกรรมของกลุ่มเยาวชนที่ฉลาดเกินวัย เป็นระยะเวลาที่ยาวนานที่สุดในโลก (เริ่มต้นทำการวิจัยตั้งแต่ปี 1971)

Lubinski บอกว่าปัจจัยที่ทำให้นักเรียนประสบความสำเร็จเรียนและทำให้พวกเขามีความสุขได้นั้นคือ การศึกต้องมีความยืดหยุ่น

นั่นหมายความว่าทางโรงเรียนและผู้ปกครองจะไม่กดดันเด็กให้ทำในสิ่งที่ผู้ใหญ่ต้องการ แต่ให้นักเรียนได้เลือกแนวทางการศึกของตัวเอง

 

6. การจัดสอบไม่ได้วัดผลความสำเร็จเสมอไป ดังนั้นควรจะมีการสอบเมื่อนักเรียนเต็มใจที่จะเข้ารับการสอบ

 

สถานการณ์การเรียนรู้มีอยู่ด้วยกันหลากหลายรูปแบบ ซึ่งทางโรงเรียนควรจะตัดสินใจตั้งแต่ก่อนเปิดเรียนหนึ่งสัปดาห์ หนึ่งเดือน หรือในวันเปิดเรียนว่าต้องการจะทำอะไรบ้าง

ทั้งนี้การสอบเข้าโรงเรียนั้นอาจไม่สามารถวัดผลได้เสมอไป บางคนเรียนไม่เก่ง แต่เมื่อเข้าโรงเรียนที่เหมาะกับตัวเองแล้ว เขาอาจกลายเป็นคนเก่งก็ได้

 

7. โรงเรียนต้องมีการจัดลำดับความสำคัญ

 

ในขณะที่ประเทศส่วนใหญ่ให้ความสำคัญกับคณิตศาสตร์ วิทยาศาสตร์ มากกว่าวิชาอื่นๆ แต่ฟินแลนด์ให้ความสำคัญกับทุกวิชาอย่างเท่าเทียมกัน โดยเฉพาะวิชาศิลปะ เพราะศิลปะคือวิชาที่ทำให้นักเรียนได้เผยความคิดสร้างสรรค์และแสดงออกถึงความคิดของพวกเขา

 

เป็นอีกหนึ่งระบบการศึกษาที่น่าสนใจมากๆ เลยแฮะ แตกต่างจากประเทศอื่นอย่างสิ้นเชิง แต่กลับได้ผลดียิ่งกว่าซะอีก…

ที่มา businessinsider

Comments

Leave a Reply