เปิดแฟ้มภาพเชลยศึกช่วงสงครามโลกที่ 2 จากค่ายกักกันญี่ปุ่น ที่ผ่ายผอมจนหนังติดกระดูก

เราคงเคยเห็นภาพประวัติศาสตร์ในช่วงสงครามโลกที่สอง ที่เผยให้ถึงความความเสียหาย ความหดหู่ และการสูญเสียอีกนับไม่ถ้วน

เช่นเดียวกับภาพที่น่าตกใจเหล่านี้ เป็นภาพของเชลยศึกชาวอังกฤษที่ผอมจนหนังติดกระดูก หลังถูกจับและกักกันในค่ายเชลยศึกของฝ่ายญี่ปุ่น ในช่วงปลายสงครามโลกครั้งที่ 2

 

 

หลังจากการล่มสลายของญี่ปุ่นในปี 1945 ทหารอังกฤษนับร้อยคนถูกพบอยู่ในสภาวะหิวโหย ร่างกายผอมแห้ง และถูกทำร้ายโดยกลุ่มที่จับตัวพวกเขาไป

ช่างภาพได้ถ่ายภาพของเชลยศึกเหล่านี้เอาไว้ เพื่อใช้เป็นหลักฐานในคดีอาชญากรรมสงครามในอนาคต ซึ่งแต่ละคนนั้นดูอ่อนแรงอย่างเห็นได้ชัด

 

 

นอกจากต้องเผชิญกับความหิวโหย และถูกบังคับใช้แรงงานจนร่างกายผอมแห้งแล้ว พวกเขายังถูกทำร้ายร่างกายด้วยวิธีต่างๆ นานา ซึ่งโหดร้ายเกินจะรับได้

 

 

เชลยคนหนึ่งถูกจับขังบนเก้าอี้ทรมานที่ค่ายญี่ปุ่น

 

ในค่ายญี่ปุ่น มีผู้คุมที่โหดเหี้ยมสองคนคือร้อยโท Kishio Usuki และชาวเกาหลีที่มีชื่อว่า Mad Mongrel สำหรับ Usuki นั้น คอยคุมและเฆี่ยนตีเชลยศึกที่ทำงานที่ทางรถไฟสายมรณะ ในบริเวณของประเทศพม่า

นอกจากนี้เขายังได้ตัดหัวของหนึ่งในเชลยศึกชาวอังกฤษต่อหน้าคนอื่นๆ เนื่องจากพยายามหลบหนี อย่างไรก็ตามผู้คุมทั้งสองคนนี้ถูกตัดสินประหารชีวิตในภายหลัง

 

ร้อยโท Usuki ผู้คุมอันโหดเหี้ยม ที่รู้จักกันในชื่อ Black Prince

 

ส่วนนี่คือผู้คุมชาวเกาหลี มีฉายาว่า Mad Mongrel

 

นอกจากสองคนนี้แล้วก็ยังมีสิบเอก Seiichi Okada ผู้ถูกขนานนามว่าเป็น Dr. Death เขาทรมานเหล่าเชลยศึกด้วยการกดหัวลงน้ำ รวมทั้งฉีดน้ำเป็นแกลอนใส่ในปากของเชลยศึกจนท้องพองด้วยน้ำ จากนั้นก็กระโทษเยียบท้องของพวกเขาซ้ำแล้วซ้ำอีก

ภายหลัง Dr. Death ถูกตัดสินประหารชีิวิตด้วยการแขวนคอ

 

เชลยศึกหลายคนถูกตัดแขน ตัดขา เนื่องจากถูกทรมานจนแขนขาเน่า อีกส่วนหนึ่งมาจากโรคเขตร้อน จนทำให้พวกเขาต้องใส่ขาเทียม

 

เชลยศึกทหารอังกฤษถ่ายรูปกับขาเทียม หลังจากถูกตัดแขนตัดขาระหว่างถูกทรมานที่ค่ายญี่ปุ่น

 

ภาพเชลยศึกทหารที่มีร่างกายผอมแห้ง จนเหลือแต่หนังติดกระดูก ทั้งยังอ่อนแรง จนทำอะไรไม่ได้นอกจากนอน

 

ช่างภาพเล่าว่า เชลยศึกเหล่านี้ถูกบังคับให้สร้างทางรถไฟ สร้างถนน และสนามบิน นอกจากนี้ยังมีบางส่วนที่ถูกบังคับให้ทำงานในเหมืองถ่านหิน อู่ต่อเรือ และโรงงาน

หนึ่งในงานที่โหดที่สุดคือ การสร้างทางรถไฟสายมรณะ หรือ Death Railway เนื่องจากเชลยศึกทหารกว่า 60,000 ชีวิตถูกบังคับให้ไปทำงานที่นั่น และมีกว่า 12,000 รายที่เสียชีวิตเพราะถูกกระทำทารุณและถูกปล่อยให้อดอยาก

 

 

นอกจากอดอยากแล้ว บางคนเสียชีวิตด้วยโรคที่ไม่สามารถรักษาได้

ผู้คุมชาวญี่ปุ่นได้จับตาดูทหารอังกฤษอย่างใกล้ชิด

 

สภาพที่อยู่อาศัยของเชลยศึกทหาร พวกเขาถูกบังคับให้อยู่รวมกันอย่างแออัด โดยมีทหารญี่ปุ่นคอยคุมตลอด

 

เชลยศึกหลายคนถูกส่งตัวไปทำงานในเหมือง เนื่องจากพวกเขาขาดแคลนแรงงาน

 

เชลยศึกต้องใส่ชุดที่ทหารญี่ปุ่นให้มาเท่านั้น โดยมีชุดสำหรับทำงานบางชุด และเมื่อสงครามจบลง เสื้อผ้าเหล่านั้นไม่ต่างอะไรจากเศษผ้าเลย

 

นี่คือความโหดร้ายที่ไม่น่าเชื่อว่าเป็นฝีมือมนุษย์ที่ทำกับมนุษย์ด้วยกันเอง

ที่มา dailymail

Comments

Leave a Reply