ชาวประมงรัสเซียนำ ‘ปลามูนฟิช’ ขนาด 1.2 ตัน ไปเป็นอาหารหมี แทนที่จะมอบให้พิพิธภัณฑ์

ขนาดที่ใหญ่โตผิดธรรมชาติของสิ่งมีชีวิตมากมายบนโลก น้อยครั้งที่เราจะได้เห็นกัน เหมือนกับเจ้าปลาตัวนี้ที่ถูกจับโดยชาวประมงในรัสเซีย ซึ่งมันมีน้ำหนักมากกว่า 1 ตันเลยทีเดียว

สิ่งมีชีวิตที่มาพร้อมกับขนาดอันมโหฬารตัวนี้ คือ ปลามูนฟิช ที่ถูกจับได้บริเวณชายฝั่ง Iturup หมู่เกาะคูริล ประเทศรัสเซีย ในช่วงวันที่ 9 กันยายนที่ผ่านมา

โดยทั่วไปที่จะพบเห็นกันน้ำหนักของปลาชนิดนี้จะอยู่ที่ราวๆ 300 กิโลกรัม และน้ำหนักของตัวที่ใหญ่ที่สุดก็คือ 2.2 ตัน ถูกจับขึ้นมาในปี 1908

ทว่าเจ้าตัวนี้กลับมีขนาดอยู่ที่ 1.2 ตันซึ่งถือว่าใหญ่ที่สุดในบริเวณนั้นเลยทีเดียว โดยที่ Arthur Balkarov หนึ่งในชาวประมงท้องถิ่นกล่าวว่า…

“แถวๆ นี้ไม่ค่อยจะมีปลาตัวใหญ่ขนาดนี้หรอก อย่างพวกตระกูลปลาหนังที่พบก็มีขนาดตัวเฉลี่ยทั่วๆ ไป และมีความยาวสุดๆ ก็ 1.5 เมตร ทว่าเจ้าตัวนี้กลับเป็นปลามูนฟิชตัวเดียวในละแวกนี้ ที่มีน้ำหนักมากกว่า 1 ตัน”

และเมื่อจับเจ้าตัวนี้ขึ้นมาได้ชาวประมงกลับแขวนมันทิ้งไว้นานกว่า 1 วัน จนในที่สุดมันก็ตายลงไป หลังจากนั้นก็ตัดแบ่งเนื้อของมันทั้งหมด และไปโยนทิ้งไว้เพื่อเป็นอาหารให้กับหมีในป่าแทน

ถูกแขวนทิ้งไว้จนกลายเป็นซากที่ไร้ชีวิต

ภาพเหตุการณ์ทั้งหมดที่พวกเขาได้ถ่ายโพสต์ลงโซเชียลมีเดีย ทำให้เกิดกระแสต่อต้านจากชาวเน็ตเยอะมากๆ เพราะหลายคนคิดว่ามันสมควรถูกเก็บรักษาไว้และส่งมอบให้กับพิพิธภัณฑ์

“ทำไมถ่ายรูปเสร็จแล้ว ไม่ปล่อยมันไปล่ะ? แต่ดันแขวนเอาไว้ ให้มันเน่าเสียแล้วโยนทิ้งไปซะอย่างนั้น”

“พวกเขาฆ่าปลาขนาดใหญ่นี้ลงไปอย่างง่ายดาย ทั้งที่มันควรได้ใช้ชีวิตอยู่ต่อไปในมหาสมุทร”

ปลาชนิดดังกล่าวรู้จักกันในหลากหลายชื่อเรียก เช่น Opah หรือ Kingfish เป็นปลาทะเลน้ำลึกที่มีสีสันสวยงาม และเนื้อของมันก็ยิ่งได้รับความนิยมอย่างมาก โดยเฉพาะฝั่งเอเชีย ยกเว้นในยุโรปที่ถูกสั่งห้ามไม่ให้กินพวกมัน

อีกทั้งในปี 2015 มันก็ถูกค้นพบว่าเป็นปลาที่มีหัวใจอันอบอุ่นเป็นตัวแรก สามารถรักษาอุณหภูมิของร่างกายไว้ที่ 5 องศาเซลเซียสมากกว่าอุณหภูมิของน้ำรอบๆ ตัวมัน

อย่างไรก็ตามทุกคนที่อยากเห็นเจ้าปลาที่มีขนาดใหญ่กว่าปกตินี้ คงต้องดูเอาได้จากรูปภาพเท่านั้น เพราะเราก็คงไม่สามารถไปผ่าท้องหมีเอาซากปลามาปะติดปะต่อกันได้อีกแล้ว

ที่มา: thesun