เสือดาวหิมะ ถูกจัดอยู่ในสัตว์หายากและเสี่ยงต่อการสูญพันธุ์มานานถึง 45 ปี แต่ล่าสุดทาง International Union for Conservation of Nature (IUCN) ได้ออกมาประกาศว่า ในขณะนี้สถานการณ์ของเสือดาวหิมะเริ่มกลับมาดีขึ้นอีกครั้ง…
โดยก่อนหน้านี้ทางกลุ่มนักอนุรักษ์ได้ออกมาเตือนว่า เสือดาวหิมะนั้นเสี่ยงต่อการสูญพันธุ์และจำเป็นต้องได้รับการคุ้มครองอย่างเร่งด่วน แต่ก็ยังมีผู้คนลักลอบฆ่าพวกมันเพื่อนำขนไปหาผลประโยชน์
อีกหนึ่งสาเหตุคือบริเวณทุ่งหญ้าอันเป็นถิ่นที่อยู่อาศัยของเสือดาวหิมะลดลงอย่างต่อเนื่อง ก็ยิ่งส่งผลร้ายแรงต่อการมีชีวิตรอดของพวกมันอีกด้วย
ทั้งนี้เสือดาวหิมะถูกระบุว่าเป็นสัตว์ที่เสี่ยงต่อการสูญพันธุ์ตั้งปี 1972 จนกระทั่งวันพฤหัสบดีที่ผ่านมาทางสหภาพนานาชาติเพื่อการอนุรักษ์ธรรมชาติและทรัพยากรธรรมชาติ (IUCN) ได้ออกมาประกาศใหม่อีกครั้ง หลังทำการประเมินสถานการณ์มานานกว่า 3 ปี
พวกเขาบอกว่าขณะนี้มีเสือดาวหิมะที่โตเต็มวัยไม่น้อยกว่า 2,500 ตัว ที่อาศัยอยู่ในเขตธรรมชาติ และมีอัตราการลดลงที่ต่ำมากๆ เมื่อเทียบกับหลายปีที่ผ่านมา…
นอกจากนี้ในการสำรวจประชากรเสือดาวหิมะทั้งหมด ผู้เชี่ยวชาญยังพบว่ามีอยู่ประมาณ 4,000 ตัว (ทั้งในช่วงโตเต็มวัยและวัยทารก) หรือหากรวมกับพื้นที่ที่ยังไม่ได้สำรวจ อาจจะมีมากถึง 10,000 ตัวเลยทีเดียว
Peter Zahler ผู้ประสานงานของโครงการอนุรักษ์เสือดาวหิมะจากองค์กร Wildlife Conservation Society กล่าวว่าการทำวิจัยในเรื่องนี้มีความยากลำบากมากๆ เนื่องจากต้องออกไปสำรวจพื้นที่ห่างไกลหลายๆ แห่ง และภายในบางพื้นที่การเข้าถึงนั้นก็แทบจะเป็นไปไม่ได้เลย…
ในขณะที่ Tom McCarthy หัวหน้าโครงการเสือดาวหิมะ จากองค์กรอนุรักษ์แมวยักษ์ Panthera กล่าวว่า การเปลี่ยนแปลงนี้นับว่าเป็นข่าวดี แต่ก็ไม่ได้หมายความว่าเสือดาวหิมะจะมีความปลอดภัยในระดับ 100%
เขาบอกว่า “ตอนนี้เสือดาวหิมะยังคงมีความเสี่ยงที่จะสูญพันธุ์ และมีแนวโน้มที่จะลดลงเรื่อยๆ เพียงแต่ไม่ได้ลดลงมากเท่าที่เราเคยคาดการณ์ไว้”
อย่างไรก็ตาม นักวิทยาศาสตร์เองก็ยังไม่แน่ใจว่า เสือดาวหิมะจะรับผลกระทบโดยตรง จากการเปลี่ยนแปลงของสภาพภูมิอากาศหรือไม่
แต่พวกเขายืนยันว่าเทือกเขาหิมาลัยเป็นหนึ่งในพื้นที่ ที่ได้รับผลกระทบมากที่สุดเมื่อเกิดการเปลี่ยนแปลงทางสภาพภูมิอากาศ…
ที่มา unilad
Leave a Reply
You must be logged in to post a comment.