ปกติแล้วในวงการนางแบบเราอาจไม่ค่อยเห็นใครที่ยอมเปลี่ยนสีผิวตัวเอง เพื่อที่จะได้โลดแล่นในวงการซักเท่าไหร่ แต่ขอบอกเลยว่าสำหรับอดีตแอร์โฮสเตส Martina Big แล้ว.. นี่คือความฝันอันสูงสุดของเธอเลยก็ว่าได้
ดังนั้นเราจะพาไปรู้จักกับเรื่องราวของอดีตแอร์โฮสเตสสาวชาวเยอรมนี ผู้ยอมทุ่มเงินทุนกว่า 50,000 ปอนด์ (ราว 2.3 ล้านบาท) ในการศัลยกรรมเปลี่ยนผิวสี และอัพไซส์หน้าอกให้มีขนาดใหญ่ที่สุดในยุโรป..!!
“ฉันเป็นคนผิวสี นั่นคือเชื้อชาติที่แท้จริงของฉัน ฉันอดใจรอที่จะไปแอฟริกาไม่ไหวแล้วล่ะ ฉันรู้แต่ว่าความรู้สึกในใจมันบอกเราว่า เรารู้สึกดีกว่าที่ได้เป็นคนผิวสี” Martina ให้สัมภาษณ์
ย้อนกลับไปในช่วงปี 2012 เป็นครั้งแรกที่ Martina เข้ารับการศัลยกรรม โดยตอนนั้นเธอรู้สึกว่าอยากแปลงโฉมตัวเองให้เหมือนกับตุ๊กตาบาร์บี้ แต่มีทรวดทรงรูปร่างที่ดูดีกว่า…
จากนั้นเธอก็รู้สึกความต้องการจากก้นบึ้งของจิตใจตัวเอง ที่เรียกร้องให้เธออยากเข้ารับการปรับเปลี่ยนสีผิว ในตอนแรกเธอศัลยกรรมหน้าอกก่อนที่จะเริ่มปรับสภาพผิวของตัวเองให้เข้มขึ้นเรื่อยๆ
Michael คู่ชีวิตที่เธอบอกว่าเป็นกำลังใจคนสำคัญของชีวิต หลังจากที่เธอต้องสูญเสียครอบครัวไปจากอุบัติเหตุบนท้องถนน
Michael เล่าถึงเรื่องราวชีวิตคู่ว่า “ตอนนั้นผมเป็นนักเรียนใหม่ในห้อง จากนั้นก็ได้รู้จักกับ Martina ทั้งห้องมีผู้หญิง 23 คน แต่ผมกลับรู้สึกตกหลุมรักเธอเข้าอย่างจัง
จากนั้นหลังเรียนจบเราทั้งคู่ก็ไปทำงานเป็นพนักงานต้อนรับสายการบินอยู่ 7 ปี จนกระทั่งผมมีปัญหาด้านสายตาทำให้ต้องออกจากงาน”
ช่วงหลังจากนั้นเองที่ Martina มีความคิดอยากจะอัพไซส์หน้าอกของเธอให้มีขนาด 2,000 กรัม ทำให้เธอต้องออกจากงานสายการบินเช่นเดียวกัน
Martina Big
เธอต้องเข้ารับการศัลยกรรมอยู่หลายต่อหลายครั้งกว่าจะได้ขนาดตามที่เธอต้องการ ซึ่งเธอสามารถขยายจากเดิมคัพซี ให้มีขนาดไซส์พิเศษที่เรียกว่า 70S หากเทียบกับหน้าอกสาวทั่วไปแล้วหน้าอกของเธอจะอยู่ในคัพ 70 DDDDDDDDDDDDDDDDDDD (กี่ D ไปนับดูเอาเองนะ)
เมื่อได้ไซส์หน้าอกที่ต้องการแล้ว เธอก็เข้ารับการฉายแสงเพื่อเปลี่ยนเซลล์ผิวให้มีความเข้มขึ้น เข้มขึ้น และเข้มขึ้นเรื่อยๆ ซึ่งจุดนี้เธออ้างว่าจะทำต่อไปเรื่อยๆ เพราะอยากรู้ว่าผิวหนังของเธอจะเข้มได้ขนาดไหน
นอกเหนือเป้าหมายจากการเป็นนางแบบผิวสีแล้ว เธออยากจะทำให้ไซส์หน้าอกของตัวเองไปประทับอยู่ในบันทึกสถิติของกินเนสบุ๊คอีกด้วย
“ตอนนี้หน้าอกฉันมีขนาดประมาณ 125 ซม. มันใหญ่มากซะจนรองเท้าฉันไม่เปียกอีกแล้วเวลาดื่มน้ำ และฉันต้องใช้เวลากว่า 2 ปีกว่าจะได้มา เป้าหมายของฉันคือการถูกบันทึกลงในกินเนสบุ๊คค่ะ”
ยังไงเราก็ขอให้พี่สาวทำตามความตั้งใจได้อย่างสำเร็จด้วยนะ สู้ๆ
ที่มา: Metro
Leave a Reply
You must be logged in to post a comment.