จากสถานการณ์ความตึงเครียดระหว่างสหรัฐ-เกาหลีเหนือ และเรื่องที่เกาหลีเหนือออกมาพูดถึงการทดสอบขีปนาวุธของตนเอง ทำให้ทั่วโลกไม่สามารถอยู่เฉยได้ และ โดนัลด์ ทรัมป์ ประธานาธิบดีสหรัฐอเมริกา ถึงกับออกมาบอกว่า อาจต้องมีสงครามกันเลยทีเดียว
ล่าสุดเมื่อเขาได้ขึ้นพูดที่องค์การสหประชาชาติเอาไว้ว่า พร้อมจะทำลายเกาหลีเหนือทั้งหมด หากตกอยู่ในสถานการณ์บังคับที่ต้องปกป้องตัวเองและพันธมิตรของตน
ยิ่งไปกว่านั้นเขายังล้อเลียนผู้นำเกาหลีเหนือเอาไว้ว่า เป็น “คนปล่อยจรวดที่กำลังอยู่ในภารกิจฆ่าตัวตาย” นับว่าเป็นการดูถูกและแสดงถึงความไม่เกรงกลัวใดๆ
โดนัลด์ จอห์น ทรัมป์ ประธานาธิบดีแห่งสหรัฐอเมริกา
คลิปวิดีโอการออกมาพูดของเขา ที่องค์การสหประชาชาติ
สิ่งนั้นทำให้ผู้นำเกาหลีเหนือ คิม จ็อง-อึน ออกมาตราหน้าว่าทรัมป์คือ “ผู้วิกลจริต” และมีสติเลอะเลือน และกล่าวสุนทรพจน์ในเชิงว่า เกาหลีเหนือมีสิทธิ์ที่จะพัฒนาอาวุธอยู่แล้ว
เขาบอกว่าประธานาธิบดีสหรัฐออกมาดูถูกประเทศของตนต่อหน้าสายตาของทุกคนทั่วโลก และพยายามบีบให้ทุกคนเชื่อไปตามสิ่งที่ตัวเองพูด
ยัง ยังไม่จบ.. คิมยังเสริมอีกว่าทรัมป์จะต้องเจอกับบทเรียนราคาแพงอย่างที่ไม่เคยคาดคิดมาก่อน ซึ่งเป็นผลลัพธ์มาจากคำพูดของตัวทรัมป์เองที่บอกว่า “เป็นความรุนแรงที่ไร้สาระในประวัติการณ์”
และนี่คือการออกมาพูดต่อหน้าสื่อมวลชนต่างชาติโดยตรงเป็นครั้งแรกของชายคนนี้ เรื่องที่เขาพูดจึงควรเก็บไปคิดและพิจารณาอย่างมาก เพราะการตัดสินใจในวันข้างหน้าอาจตามมาด้วยความรุนแรงที่เกินคาดอย่างที่เขาบอกไว้
ไม่ได้มีเพียงแค่ผู้นำประเทศเท่านั้น เพราะรัฐมนตรีต่างประเทศของเกาหลีเหนือก็ได้ออกมาเตือนอีกว่า พวกเขาสามารถที่จะทดสอบระเบิดไฮโดรเจน ในมหาสมุทรแปซิฟิกก็ได้ เพื่อตอบโต้การถูกคุกคามจากผู้นำสหรัฐ
ภาพในวันที่ 21 กันยายนที่ผ่านมา ของผู้นำเกาหลีเหนือตอบโต้กับเรื่องที่เกิดขึ้น
แต่… จะปล่อยให้ตีกันสองฝ่ายได้อย่างไร งานนี้พี่หมีเลยถือโอกาสมาร่วมแจมด้วย
จากการตอบโต้ของทั้งสองฝ่าย ทำให้ Sergei Lavrov รัฐมนตรีต่างประเทศของรัสเซีย ออกมาพูดเหน็บแนมว่าการทะเลาะกันของทั้งคู่นั้น แทบจะไม่ต่างอะไรกับเด็กอนุบาลทะเลาะกันในสนามเด็กเล่นเลย
“แน่นอนว่าเราคงรับไม่ได้ที่จะนิ่งดูดายกับเรื่องที่เกาหลีเหนือทดสอบกำลังรบนิวเคลียร์ แต่การที่จะปล่อยให้มีสงครามในคาบสมุทรเกาหลีเองก็เช่นเดียวกัน” เขากล่าว
อย่างไรก็ตาม ทางรัสเซียนั้นคิดว่าการยุติเรื่องความขัดแย้งทั้งหมดก็ถือเป็นสิ่งสำคัญที่จะไม่ให้เกิดปัญหาบานปลายไปมากกว่านี้ ทำให้รัสเซียกับจีนพยายามกันอย่างหนักเพื่อไม่ให้กลายเป็นปัญหาเด็กตีกันที่ไม่มีใครสามารถห้ามได้
รัฐมนตรีต่างประเทศแห่งรัสเซีย มองว่า ทั้งหมดเหมือนปัญหาเด็กอนุบาลตีกัน
ทางด้านประเทศจีนบอกว่านี่เป็นเรื่องที่ซับซ้อนและอ่อนไหว และคิดว่าทุกคนที่เกี่ยวข้องควรจะยุติปัญหา มากกว่าการยั่วยุอีกฝ่ายไปมาอย่างนี้ เช่นเดียวกันกับความคิดของรัฐบาลญี่ปุ่นที่มองว่า การที่เกาหลีเหนืออกมาพูดยั่วยุประเทศอื่นๆ ถือว่าเป็นสิ่งที่รับไม่ได้เอาซะเลย
แต่ถึงอย่างไรนี่ก็ถือเป็นปัญหาที่อาจส่งผลกระทบให้กับทั่วโลกได้ เพราะอาวุธของทั้งสองฝ่ายที่มีอยู่อาจเป็นสิ่งที่ไม่มีใครเชื่อว่าจะต้องได้เจอ และอาจจะรุนแรงกว่าที่คาดคิดอีกด้วย
อย่างเช่นเกาหลีเหนือที่เมื่อมีการทดสอบนิวเคลียร์ครั้งที่ 6 เมื่อวันที่ 3 กันยายนที่ผ่านมา พิสูจน์ได้แล้วว่า พวกเขาตอนนี้มีหัวรบขนาดเล็กที่เหมาะสมจะยิงระยะไกลได้แล้ว นี่ยังไม่รวมของฝั่งสหรัฐอีกนะ หากเกิดการปะทะกันจริงๆ คงมีความเสียหายตามมาอีกมากมาย…
ที่มา: bbc
Leave a Reply
You must be logged in to post a comment.