ภาพถ่ายพรีเวดดิ้งแค่ภาพเดียว เป็นกระแสร้อนทั่วโลกออนไลน์ ชาวเน็ตถามถึงความเหมาะสม!?

ไม่ใช่เรื่องแปลกหรือเรื่องผิดหากคู่รักจะแสดงความรักต่อกันในระหว่างถ่ายพรีเวดดิ้ง แต่การแสดงออกมากน้อยแค่ไหนต้องดูกาลเทศะเพื่อความเหมาะสมด้วย

อย่างภาพพรีเวดดิ้งของคู่รักคู่นี้ที่ถูกวิพากษ์วิจารณ์ทั่วโลกออนไลน์ เป็นภาพขณะที่เจ้าสาวคุกเข่าแล้วทำท่าเหมือนกำลังมีเพศสัมพันธ์กับแฟนหนุ่มกลางป่า

ไม่ว่าภาพดังกล่าวนี้จะเป็นการจงใจถ่ายหรือถูกแอบถ่าย แต่เมื่อมันถูกโพสต์ในเฟซบุ๊กแล้ว มีชาวเน็ตให้ความสนใจเป็นจำนวนมาก โดยมีการแชร์ต่อนับพันครั้ง

 

 

แคปชั่นประกอบภาพเขียนไว้ว่า “คู่บ่าวสาวที่ไม่อาจรอจนงานเลิกได้ พวกเขาแอบออกไปสวีทกันในที่เงียบๆ โชคดีที่ทั้งคู่ได้กล่าวคำมั่นสัญญาต่อกันแล้ว จึงถือว่าได้แต่งงานอย่างเป็นทางการแล้ว”

Michel Klooster ช่างภาพที่ถ่ายภาพดังกล่าวบอกว่า “จริงๆ แล้ว ภาพนี้เป็นไอเดียของแม่ใครสักคนในทั้งสองคนนี้ โดยมีเจตนาเพื่อความสนุกเท่านั้น”

ช่างภาพยังบอกอีกว่าทั้งคู่จัดงานแต่งอย่างเรียบง่าย ไม่เป็นทางการ ซึ่งครอบครัวของพวกเขาก็เปี่ยมด้วยความสุข ดังนั้นอะไรที่ทำให้พวกเขามีความสุข ช่างภาพก็ทำให้

 

แม้คู่รักและครอบครัวจะทำเพราะความสนุก แต่ดูเหมือนชาวเน็ตบางส่วนเห็นว่าไม่เหมาะสม และทำให้มีการวิพากษ์วิจารณ์กันจำนวนมาก

 

ฉันไม่เห็นว่ามันจะเป็นภาพตลกตรงไหนเลย ถ้าเป็นฉันนะจะเก็บไว้ให้มิด แล้วเอาไว้ดูกันแค่คนในครอบครัวก็พอ

 

พวกรสนิยมต่ำ

 

พวกเขาต้องเสียใจมากแน่ๆ ถ้าหย่ากัน

 

นี่เป็นพฤติกรรมที่หยาบคายและน่ารังเกียจมาก ไม่คำนึงถึงความเหมาะสมเลย อีก 5 ปี ข้างหน้า มนุษย์คงเดินแก้ผ้าในที่สาธารณะกันเป็นเรื่องปกติละมั้ง หรืออาจจะมีเพศสัมพันธ์ในที่สาธารณะแบบไม่รู้สึกอาย

 

อย่างไรก็ตาม มีชาวเน็ตอีกจำนวนหนึ่งที่มองว่าภาพดังกล่าวเป็นการการโพสต์ท่าขำๆ เท่านั้น และพวกเขาคงไม่ได้มีอะไรกันจริงๆ ตรงนั้น

 

ทำไมต้องคิดว่าพวกเขากำลังมีอะไรกัน เจ้าสาวอาจจะแค่หาของลับเจ้าบ่าวไม่เจอ จนต้องใช้แว่นขยายช่วยก็ได้

 

น่าเอาภาพนี้ติดไว้บนผนังบ้างนะ

 

เป็นรูปงานแต่งที่ไม่น่าเบื่อดี เป็นไอเดียใหม่ที่เจ๋งดีนะ ใครที่คิดว่าไม่เหมาะสม ออกมาจากกะลาได้แล้ว

 

เชื่อว่าหากประเทศไทยมีการถ่ายภาพแต่งงานในลักษณะดังกล่าว ก็ย่อมสร้างกระแสทั้งในแง่บวกและแง่ลบไม่แพ้ต่างประเทศด้วยเช่นกัน

แล้วเพื่อนๆ ล่ะ ได้อ่านข่าวนี้แล้วคิดยังไงกับภาพนี้กันบ้าง?

ที่มา dailymail

 

Comments

Leave a Reply