หากพูดถึงเรื่องราวประวัติศาสตร์ของชาวแอฟริกัน-อเมริกันในอดีต เราอาจจะนึกถึงภาพของการตกเป็นทาสจากการล่าอาณานิคมในแบบที่เคยเรียนหรือเห็นผ่านสื่อกันมา
แต่คราวนี้เราจะพาไปรู้จักกับเรื่องราวของ Sarah Rector เด็กสาวผิวสีวัย 12 ขวบ ที่มีทรัพย์สินมากที่สุดในทวีปอเมริกา ณ ขณะนั้น ถึงขนาดที่ว่ามีนักธุรกิจจากเยอรมนี 4 คนแย่งกันขอเธอแต่งงาน เพียงเพราะต้องการส่วนแบ่งของเธอก็มีมาแล้ว..!!
Sarah Rector
ย้อนกลับไปในวันที่ 5 มกราคม ปี 1914 สำนักพิมพ์ท้องถิ่นได้มีการเผยแพร่รายรับของ Sarah Rector ที่มากถึงเดือนละ 15,000 ดอลลาร์สหรัฐฯ จนนำมาซึ่งความวุ่นวายอื่นๆ ที่ตามมา
เดิมที Sarah Rector เกิดเมื่อวันที่ 3 มีนาคม ปี 1902 ซึ่งพ่อแม่ของเธอก็ได้เป็นหนึ่งในสมาชิกของกลุ่มสัญญา Muscogee (หรือที่รู้จักกันในนาม Creek Nation) โดยเป็นกลุ่มที่เกิดจากการรวมตัวของ 5 ชนเผ่าพื้นเมืองในแถบตะวันออกเฉียงใต้ของสหรัฐฯ
5 ชนเผ่าพื้นเมืองที่มีการทำสนธิสัญญาร่วมกันในบนพื้นที่ของรัฐโอคลาโฮม่า
หนึ่งในข้อตกลงของสนธิสัญญานั้นมีอยู่ว่า.. เมื่อโอคลาโฮม่าได้ประกาศตนเป็นรัฐแล้ว สมาชิกจะได้รับการแบ่งสันปันส่วนที่ดินทำกิน ซึ่งแน่นอนว่าส่วนใหญ่จะเป็นที่ดินที่เคยมีการซื้อขายทาส และเคยผ่านการทำเกษตรกรรมมาบ้างแล้ว
ทว่าปัญหาที่ตามมาหลังครอบครัว Rector ได้รับที่ดินนั่นก็คือ การต้องจ่ายค่าภาษีที่สูงลิ่วถึงปีละ 30 เหรียญสหรัฐฯ ถึงกับครั้งหนึ่งครอบครัวเกือบตัดสินใจที่จะขายที่ดินตรงนี้ไป แต่โชคดีที่ภายหลังศาลสูงของเขต Muskogee ได้ยกเลิกการเก็บภาษีในช่วงแรก
จะโชคดีขนาดไหนนะถ้าที่ดินของคุณบังเอิญมีบ่อน้ำมันใหญ่เบิ้มอยู่ข้างใต้? ซึ่งมันก็เป็นอย่างนั้นจริงๆ กับพื้นที่ของครอบครัว Rector ในปี 1913 ครอบครัวของเธอได้จัดตั้งบริษัทน้ำมันในนามของลูกสาว โดยใช้ชื่อบริษัทว่า B.B. Jones
พวกเขาสามารถขุดเจาะน้ำมันได้มากถึงวันละ 2,500 บาร์เรลล์ และนั่นก็ถูกแปลเปลี่ยนให้กลายเป็นเงินที่สูงถึงวันละ 300 เหรียญ (เทียบกับค่าเงินแล้วก็ราวๆ 7,000 เหรียญปัจจุบัน)
ภายในปีเดียวเธอก็ได้ขยับขยายกิจการถึงขนาดที่ทำเงินได้สูงถึงวันละ 284,000 เหรียญ (เทียบกับปัจจุบัน) และนั่นก็ทำให้เธอกลายเป็นที่หมายปองของคนทั่วโลกหลังมีข่าวคราวแพร่สะพัดออกไป
ถึงขนาดที่ว่าครั้งหนึ่งเคยมีเศรษฐีชาวเยอรมัน 4 คน แข่งกันเสนอเงื่อนไขต่างๆ เพื่อเอาชนะใจเธอ และแน่นอนว่าทั้งหมดนั่นก็เป็นเพียงเพราะความต้องการในสมบัติของตัวเธอ อีกทั้งรัฐบาลโอคลาโฮม่ายังระบุให้เธอเป็นคนผิวขาวตามกฎหมาย เพื่อที่จะได้ง่ายต่อการทำธุรกรรมต่างๆ ในเวลานั้น
ต่อมาเมื่ออายุได้ 18 ปี Sarah Rector ก็ได้ตัดสินใจย้ายไปอยู่กับครอบครัวอย่างสงบสุขที่เมือง Kansas City รัฐมิสซูรี ซึ่งเป็นที่ๆ เธอนำเงินเก็บส่วนหนึ่งมาซื้อที่ดินและอสังหาริมทรัพย์ทิ้งไว้ และทุกวันนี้บ้าน ‘Rector House’ ก็ยังคงตั้งตระหง่านอย่างสง่าอยู่เสมอ
ดูเหมือนว่าไลฟ์สไตล์ของ Sarah Rector จะไม่ถูกสังคมพูดถึงมากนักในเวลาต่อมา ทำให้เธอได้ใช้ช่วงชีวิตที่เหลืออยู่อย่างสันโดษกับคนใกล้ตัว (ซึ่งสาเหตุส่วนหนึ่งน่าจะเชื่อว่า.. เพราะเธอเป็นหญิงผิวสีในสมัยนั้น)
ในท้ายที่สุดเธอจากโลกนี้ไปด้วยวัย 65 ปี เมื่อวันที่ 22 กรกฎาคม ปี 1967 และร่างของเธอก็นำไปฝังไว้ที่ผืนดินที่เธอเป็นเจ้าของนั่นเอง
และทั้งหมดนี้ก็เป็นอีกหนึ่งเรื่องราวในอดีตที่อาจไม่ถูกพูดถึงมากเท่าใดนัก
ที่มา: thevintagenews
Leave a Reply
You must be logged in to post a comment.