เกิดอะไรขึ้นในรัสเซีย เมื่อมีการประท้วง “ปูตินออกไป” จนนำไปสู่การจับกุม-ปะทะกัน

เมื่อวันที่ 7 ตุลาคม สำนักข่าวต่างประเทศหลายแห่งได้รายงานเหตุการณ์ประท้วงที่เกิดขึ้นที่กรุงมอสโคว ประเทศรัสเซีย อันนำไปสู่การปะทะและการจับกุม…

ตามรายงานระบุว่า เจ้าหน้าที่ได้ทำการจับกุม Alexei Navalny นักเคลื่อนไหวต่อต้านการทุจริตและคอร์รัปชั่น ที่ประกาศจะลงสมัครแข่งชิงตำแหน่งประธานาธิบดีรัสเซีย และนั่นนำมาสู่การปลุกประท้วงครั้งใหญ่ในหลายพื้นที่ทั่วรัสเซีย

Alexei Navalny

นาย Alexis Navalny ได้เรียกร้องให้กลุ่มผู้สนับสนุนออกมาประท้วงเพื่อเรียกร้องให้มีการปฏิรูปการเมืองใหม่ ตามหัวเมืองต่างๆ ทั่วประเทศกว่า 80 แห่ง และการประท้วงใหญ่จะเกิดขึ้นที่เมืองเซนต์ปีเตอร์สเบิร์ก ซึ่งเป็นบ้านเกิดของนายปูตินเอง

ทางกลุ่มผู้สนับสนุน Navalny มองว่า วลาดิเมียร์ ปูติน ดำรงตำแหน่งเป็นผู้นำมาเกือบ 20 ปี และถึงเวลาแล้วที่กลุ่มผู้สนับสนุนเองมีสิทธิที่จะเลือกผู้นำคนใหม่บ้าง…

Polina Kostyleva หนึ่งในหัวขบวนผู้ชุมนุมได้ให้สัมภาษณ์ว่า “การประท้วงครั้งนี้มาจากการที่ผู้สนับสนุนต้องการให้ Navalny ได้ดำรงตำแหน่งเป็นประธานาธิบดี”

ในการชุมนุมประท้วงมีการชูป้ายเรียกร้องว่า “เราต้องการการเลือกตั้งอย่างเป็นธรรม” และ “พวกเราจะไม่ไปไหนถ้าไม่มี Navalny”

สาเหตุส่วนหนึ่งที่ทำให้กลุ่มผู้สนับสนุนฝ่าย Navalny ออกมาเรียกร้อง ส่วนหนึ่งก็เพราะก่อนหน้านี้วลาดิเมียร์ ปูติน ได้ออกมาประกาศว่าจะดำรงตำแหน่งต่อไปอีก 6 ปี

แม้ว่าจะมีโพลล์สำรวจออกมาแล้วว่า ประชาชนส่วนใหญ่ยังคงมีคะแนนความนิยมในตัว วลาดิเมียร์ ปูติน สูงกว่าฝั่งที่ไม่ชอบ และมีแนวโน้มว่าจะถูกเลือกตั้งให้เป็นประธานาธิบดีโดยประชาชนในสมัยต่อไป…

ทว่าฝ่ายผู้ประท้วงมองว่า นี่เป็นการปล้นสิทธิขั้นพื้นฐานของประชาชน

Ulugbek Apsapayev หนุ่มวัย 17 ปีที่มาเข้าร่วมชุมนุมให้สัมภาษณ์ว่า “สาเหตุที่เรามากันที่นี่ก็เพื่อต่อสู้ให้กับ Alexis Navalny และความเป็นธรรมของการเมือง เราต่างต้องการสิ่งที่ดีที่สุดให้ประเทศ แต่แน่นอนว่าไม่ใช่เพื่อปูตินและพรรคพวกผู้มีอิทธิพลของเขา”

แต่ล่าสุดเจ้าหน้าที่ได้เข้าควบคุมกลุ่มผู้ชุมนุมไว้ทั้งหมด อีกทั้งมีการประกาศห้ามมิให้มีการชุมนุมใดๆ เกิดขึ้นในเมืองเซนต์ปีเตอร์สเบิร์ก และจะไม่รับรองในความปลอดภัยของประชาชนที่มาชุมนุมอีก หากมีการชุมนุมครั้งใหม่เกิดขึ้น

ที่มา: Reuters, Telegraph