อีกขั้นของวงการแพทย์!! ทีมวิจัยคิดค้นกาวรักษาแผลภายใน 1 นาทีได้สำเร็จ

ปัจจุบันการพัฒนาของเทคโนโลยีนั้นเรียกได้ว่ามีความก้าวหน้าอย่างมาก ไม่ว่าจะเป็นในวงการไอที การก่อสร้าง และหนึ่งในนั้นก็คือวงการแพทย์นั่นเอง

เมื่อไม่นานมานี้ทางทีมวิจัยที่เกิดจากความร่วมมือกันของ University of Sydney, Harvard Medical School และ Northeastern University ได้คิดค้นกาวชนิดพิเศษขึ้นมา ซึ่งเจ้ากาวที่ว่านี้สามารถทำให้บาดแผลสนิทกันได้ภายใน 1 นาที!!

MeTro หรือกาวติดบาดแผลที่ถูกคิดค้นนี้จะช่วยให้แพทย์ทำงานได้ง่ายมากขึ้น จากบทความที่ตีพิมพ์ในวารสารการแพทย์ Science Transational Medicine ระบุว่า

กาวชนิดนี้เป็นไฮโดรเจลที่มีความยืดหยุ่นสูงและเข้ากันได้ดีกับเนื้อเยื่อของร่างกาย มันถูกปรับเปลี่ยนให้ตอบสนองได้ดีกับแสงอัลตราไวโอเล็ต เมื่อทากาวชนิดนี้ลงบนบาดแผลและฉายแสงยูวี มันจะสามารถสมานแผลได้ภายใน 60 วินาที

 

 

ในการทดสอบประสิทธิภาพของมัน ทางทีมวิจัยได้นำกาว MeTro ไปใช้ในการสมานบาดแผลจากการผ่าตัดที่ปอดและหลอดเลือดของหนู ผลการทดสอบเป็นไปด้วยดี บาดแผลที่หลอดเลือดและปอดของหนูไม่มีการรั่วแต่อย่างใด

สารประกอบหลักของกาวชนิดนี้ทำมาจากโปรตีน ซึ่งมีส่วนประกอบคล้ายกับโปรตีนในเซลล์ผิวของมนุษย์ และนอกจากนี้เอนไซม์ ที่สามารถปรับตัวได้เพื่อยืดระยะเวลาในการสมานแผลให้เหมาะสมกับแผลแต่ละแบบอีกด้วย

 

 

“กาว MeTro นั้นดูคล้ายกับของเหลว มันจะเข้าไปเชื่อมในรอยบาดแผล มันมีการตอบสนองที่ดี และตัวของมันเองก็คล้ายกับเซลล์เนื้อเยื่อของมนุษย์และช่วยให้เกิดการฟื้นตัวที่ดีขึ้น ตัวเจลนั้นมีการเก็บรักษาที่ง่ายและสามารถฉีดไปที่บาดแผลโดยตรงได้เลย” คุณ  Anthony Weiss หนึ่งในทีมวิจัยกล่าว

ตอนนี้ทางทีมวิจัยได้วางแผนจะทดสอบกาว MeTro ในระยะยาวต่อไป ก่อนที่จะนำไปทดลองทางคลินิกกับมนุษย์ ทางด้านคุณ Annabi หนึ่งในทีมวิจัยได้กล่าวถึงการคาดการณ์ของเธอว่า ภายใน 3-5 ปีนี้ กาว MeTro จะสามารถนำไปใช้กับผู้ป่วยได้จริงในโรงพยาบาล

 

 

นอกจากนี้ศาสตราจารย์ Anthony Weiss หนึ่งในทีมวิจัยจากมหาวิทยาลัย University of Sydney ได้กล่าวว่า “อุปกรณ์นี้มีประสิทธิภาพอย่างมาก มันสามารถช่วยปฐมพยาบาลบาดแผลภายในที่ร้ายแรง ในสถานการณ์ฉุกเฉิน เช่น อุบัติเหตุจากรถยนต์ และการสู้รบในพื้นที่สงคราม รวมถึงช่วยพัฒนาการทำงานผ่าตัดในโรงพยาบาลได้อีกด้วย”

 

สำหรับใครที่อยากจะเห็นคลิปการทำงานของอุปกรณ์ชิ้นนี้ รับชมในคลิปวิดีโอด้านล่างได้เลยครับ…

 

ที่มา gizmodoSydney

Comments

Leave a Reply