ขณะนี้ญี่ปุ่นอยู่ในจุดที่เรียกได้ว่าปัญหาอายุและสังคมกำลังจะระเบิด เนื่องจากมีอัตราเด็กเกิดใหม่ที่ต่ำ การใช้จ่ายของผู้บริโภคก็ลดลง และเศรษฐกิจของประเทศค่อยๆ หดตัวลงในช่วง 25 ปีที่ผ่านมา
ในขณะเดียวกัน ประชากรมีอายุยืนนานขึ้น ทำให้ต้องเสียเงินค่าครองชีพมากขึ้น ที่สำคัญไม่มีคนรุ่นใหม่ที่เข้ามาแทนที่พวกเขา และต่อไปนี้คือสัญญาณว่าสังคมญี่ปุ่นใกล้จะถึงเวลาระเบิดแล้ว
1. ขณะนี้มีผู้คนกว่า 68,000 คนที่มีอายุมากกว่า 100 ปี
ญี่ปุ่นมีกลุ่มประชากรที่มีอายุตั้งแต่หนึ่งร้อยปีขึ้นไปสูงที่สุดในโลก โดยมีใน 100,000 คน จะมีผู้สูงอายุ 4.8 คน ในขณะที่ประเทศมหาอำนาจอย่างสหรัฐฯ มีเพียง 2.2 คน ใน 100,000 คนเท่านั้น
2. ผ้าอ้อมผู้ใหญ่ขายได้มากกว่าผ้าอ้อมเด็ก
นับตั้งแต่ปี 2011 ยอดขายได้ผ้าอ้อมผู้ใหญ่ได้แซงหน้าผ้าอ้อมเด็กอย่างต่อเนื่อง ยอดขายนี้แสดงให้เห็นว่ากลุ่มประชากรผู้สูงอายุของญี่ปุ่นนั้นมีมากขนาดไหน
ประชากรที่มีอายุตังแต่ 65 ปี ขึ้นไป คือกลุ่มประชากรที่มีมากที่สุดในญี่ปุ่น จากทั้งหมด 127.11 ล้านคน มีผู้สูงอายุถึง 26.7%
3. ปี 2016 มีรายงานว่าอัตราการเกิดต่ำที่สุดในญี่ปุ่นในรอบ 117 ปี
นับตั้งแต่ปี 1899 จนถึงปี 2016 มีอัตราการเกิดลดลงกว่า 1 ล้านคน เมื่อเปรียบเทียบกับปีก่อนหน้านั้นพบว่าเป็นจำนวนที่ต่ำกว่ามาตรฐานประมาณ 20,000 คน ในขณะที่จำนวนผู้เสียชีวิตลดลงประมาณ 1.3 ล้านคน
4. ลูกหลานเริ่มทอดทิ้งคนชราในบ้าน
นี่เป็นข่าวที่ค่อนข้างหน้าหดหู่ใจ เมื่อลูกหลานเริ่มที่จะนำผู้สูงอายุในบ้าน ไม่ว่าจะเป็นพ่อแม่ ปู่ ย่า ตา ยาย ไปอยู่โรงพยาบาลบ้าง บ้านพักคนชราบ้าง รวมทั้งศูนย์องค์กรการกุศล เนื่องจากลูกหลานไม่สามารถดูแลพวกเขาได้
5. เรือนจำกลายเป็นบ้านพักคนชรา
ประมาณ 1 ใน 5 ของคดีอาชญากรรมทั้งหมดในญี่ปุ่น กระทำโดยผู้สูงอายุ ซึ่งส่วนใหญ่จะก่อเหตุลักทรัพท์และขโมยของตามร้านค้าต่างๆ
การที่ผู้สูงอายุก่อคดีอาชญากรรมเพิ่มมากขึ้นเช่นนี้ ทำให้คุกกลายเป็นบ้านพักคนชราโดยปริยาย เจ้าหน้าที่จะต้องอาบน้ำ แต่งตัว และปฏิบัติกับพวกเขาดีราวกับไม่ใช่ผู้กระทำผิด เพราะแบบนี้ผู้อายุหลายคนจึงเลือกที่จะเข้าไปอยู่ในคุกแทนที่จะอยู่กับลูกหลานที่พร้อมจะทอดทิ้งพวกเขาเสมอ
6. นาฬิกาวันโลกาวินาศของญี่ปุ่นใกล้เข้ามาทุกที
อัตราการเกิดต่ำ บวกกับตัวเลขประชากรที่ไม่เปลี่ยนแปลง(ไม่นับผู้อพยพเข้ามา) ดูเหมือนญี่ปุ่นใกล้จะเกิดภาวะสูญพันธุ์ไปแล้วทุกที
ตอนนี้มีการคาดการณ์ว่าภายในเวลาสั้นๆ อายุมีประชากรลดลงไปถึง 34% ภายในปี 2100 นักวิจัยญี่ปุ่นยังได้มีการระบุการสูญพันธุ์ด้วยนาฬิกาวันโลกาวินาศ โดยนักวิทยาศาสตร์ได้คาดการณ์ว่า หากญี่ปุ่นยังมีอัตราการเกิดใหม่เท่านี้ วันที่ 12 สิงหาคม ปี 3776 คือวันสุดท้ายที่จะมี “ชาวญี่ปุ่น” อยู่บนโลก
7. ประชากรจะหันมาแต่งงานกับเพื่อนตัวเอง
ณ จุดที่ปัญหาสังคมญี่ปุ่นมีการระเบิดออก หนุ่มสาวจะให้ความสนใจกับการทำงานเป็นหลัก พวกเขาพบปะกับเพื่อนเพียงเพราะเรื่องธุรกิจเท่านั้น
ดังนั้นแม่ว่าพวกเขาจะมีการแต่งงาน มันจะไม่ใช่การแต่งเพราะความรัก แต่เป็นการแต่งแค่การร่วมมือกันเพื่องานของพวกเขาเท่านั้น
8. คนหนุ่มสาวจะเสียชีวิตเพราะการทำงานมากขึ้น
ชั่วโมงการทำงานที่ยาวนานขึ้น จะนำไปสู่อัตราการตายด้วย karoshi หรือ “การตายจากการทำงานหนักมากเกินไป” เพิ่มมากขึ้น
จากรายงานเดือนตุลาคมระบุว่า karoshi คือสาเหตุการตายมากกว่า 20% ใน 10,000 คน เพราะพวกเขาทำงานเดือนละไม่ต่ำกว่า 80 ชั่วโมง เนื่องจากสาวคนหนุ่มสาวต้องการมีรายได้เพิ่มขึ้น
ฟังดูเป็นเรื่องไกลตัว แต่หากไม่มีการจัดการที่ดี สิ่งเหล่านี้อาจเกิดขึ้นจริงๆ ก็เป็นได้
ที่มา businessinsider
Leave a Reply
You must be logged in to post a comment.