มันอาจจะฟังดูค่อนข้างแปลกสำหรับใครหลายๆ คน หากมีการนำชีสมารวมตัวกับเครื่องดื่มอย่างชาจนกลายมาเป็นชาชีส และแน่นอนว่าเมนูเครื่องดื่มสุดแหวกแนวนี้ได้ก่อกำเนิดขึ้นในทวีปเอเชียแล้ว แถมยังได้รับความนิยมเป็นอย่างมากโดยเฉพาะอย่างยิ่งในประเทศจีน
เมื่อวันที่ 18 ตุลาคม 2560 ทางเว็บไซต์ต่างประเทศมีรายงานว่า ชาวจีนหลายพันคนได้พากันมายืนต่อแถวเป็นเวลานานถึง 5 ชั่วโมง เพื่อรอซื้อ “ชาชีส” โดยเฉพาะ
จากการายงานระบุว่า ไม่มีเดือนที่ผ่านมา Hey Tea ซึ่งเป็นบริษัทที่อยู่เบื้องหลังการผลิตชาชีสชื่อดังของจีน ก็ได้ทำให้วงการชากลับมาคึกคักอีกครั้ง ภายหลังจากที่ได้ออกเมนูใหม่ “ชาผสมชีส” เครื่องดื่มสุดแหวกแนว ที่สื่อจีนต่างพากันกล่าวขวัญถึงกระแสความฮอตที่ฉุดไม่อยู่
เพราะเมื่อได้เริ่มนำออกมาจำหน่ายได้ไม่ทันไร ก็ได้สร้างสถิติให้คนรอนานถึง 2 ชั่วโมงแล้ว หรือถ้าหากใครที่มาช้าหน่อยก็อาจจะได้รอนานถึง 5 ชั่วโมงเลยทีเดียว
สำหรับบริษัท Hey Tea แรกเริ่มเป็นร้านขายชาเล็กๆ ที่ตั้งอยู่บนริมถนนในมณฑลกวางตุ้ง ปัจจุบันได้กลายเป็นหนึ่งในบริษัทชาที่กำลังมีอัตราการเติบโตสูง โดยได้ขยายกิจการทั่วมณฑลกวางตุ้งไปมากกว่า 50 สาขา นอกจากนี้ ยังได้ไปเปิดในเมืองใหญ่ๆ อย่างเซี่ยงไฮ้ และกรุงปักกิ่งอีกด้วย
“ชาชีส” ถือเป็นเมนูเครื่องดื่มใหม่ที่มาแรงมาก ประกอบไปด้วยน้ำชาหลากสีสัน หรืออาจจะเป็นชาใส่นมหรือไม่ใส่ก็ได้ แต่ส่วนสำคัญอยู่ตรงที่วิปชีสหนานุ่มที่ใส่เอาไว้ด้านบน โดยเกิดจากการผสมของชีส นม และวิปครีมเข้าด้วยกัน ทำให้ได้รสชาติเข้มข้นหอมมันเข้มข้น และกลมกล่อมฝุดๆ
บอกเลยว่าหากใครที่ได้ลิ้มลองรสชาติของชาและชีส มันจะต้องเป็นอะไรที่ฟินมากกกกก เพราะมันมีความอร่อยที่แสนจะลงตัว ใครได้ลองดื่มแล้วต้องติดใจแน่นอน
เมื่อทาง Hey Tea ได้นำเจ้าเครื่องดื่มสุดฮิตนี้ออกจำหน่าย ชาวจีนทั้งหลายต่างก็พากันแห่มาลิ้มลองความอร่อยกันเป็นจำนวนมาก แถมยังพากันอัพภาพลงบนโซเชียลหลังได้ดื่มชาชีสเป็นครั้งแรก ซึ่งถือเป็นสิ่งที่ช่วยเพิ่มความสำเร็จให้กับทางบริษัทจนคาดไม่ถึง
และอีกหนึ่งสิ่งที่ทำให้ผู้คนรู้สึกประทับใจก็คือร้าน Hey Tea ถูกก่อตั้งขึ้นโดย Nie Yunchen ตอนที่อายุเพียง 21 ปี โดยเขาได้เริ่มขายชาในเมือง Jiangmen มาตั้งแต่ปี 2012
โดยในตอนนั้น Nie ไม่มีประสบการณ์ในเรื่องชาเลยแม้แต่น้อย อีกทั้งในแต่ละวันเขาสามารถขายชาได้วันละเพียงแค่ไม่กี่แก้วเท่านั้น จึงทำให้ยอดขายไม่ดีเท่าไหร่นัก
แต่ด้วยความพยายาม และไม่ยอมแพ้ง่ายๆ Nie จึงมองหาแรงบันดาลใจในการพัฒนาธุรกิจขนาดเล็กของตัวเอง และสิ่งนั้นก็คือ Starbucks กาแฟยอดนิยมที่ในตอนนี้มีทั้งหมดกว่า 1,100 สาขาในประเทศจีน
Nie ได้ทำการศึกษาเกี่ยวกับ Starbucks อย่างละเอียด ไม่ว่าจะเป็นความสำคัญของการสร้างแบรนด์ หรือ ลูกค้าจะต้องมาเป็นอันดับแรก ดังนั้นเขาจึงได้ลงทุนเปิดบริษัทขายชาคุณภาพระดับพรีเมี่ยมและเน้นการตลาดให้มากขึ้น
อย่างไรก็ตาม หลังจากที่ Nie ได้เปิดร้านขายชามานาน 1 ปี ธุรกิจของเขาก็เริ่มดีขึ้นกว่าเมื่อก่อน แต่ก็ยังไม่ได้รับความนิยมจากลูกค้า จึงทำให้เขาตระหนักว่าอาจจะฟังความต้องการของลูกค้าให้มากขึ้น โดยเฉาะอย่างยิ่งหากเขาได้รับการวิพากษ์วิจารณ์ เขาจะยอมรับฟังและนำมาปรับปรุงแก้ไข
ด้วยความที่ไม่มีประสบการณ์เกี่ยวกับเครื่องดื่มชา จึงทำให้เขาไม่สามารถสร้างแบรนด์ของตัวเองให้ติดตลาดในเวลาอันรวดเร็วได้ แต่พอวันหนึ่งเมื่อเขาได้สังเกตเห็นว่า “ชีส” เป็นหนึ่งในอาหารที่ได้รับความนิยมมากในจีน
ดังนั้น Nie เลยตัดสินใจที่จะลองนำชาของเขามาผสมกับชีส และพบว่าทั้งรสชาติและเนื้อสัมผัสของส่วนผสมดังกล่าวมันดีขึ้นมาก และเมื่อได้ลองนำมาขายก็เห็นได้ชัดเลยว่าลูกค้าของเขาก็รู้สึกเช่นเดียวกัน
เมื่อชาชีสได้กลายเป็นที่นิยมใน Jiangmen ก็ทำให้พ่อค้าแม่ค้าหัวใสบางคนพากันลอกเลียนแบบเมนูชาชีสกันอย่างมากมาย แถมยังตั้งชื่อร้านให้ดูคล้ายกับร้านของเขาด้วย นั่นจึงทำให้ Nie ได้ตัดสินใจเปลี่ยนชื่อบริษัทจาก Royaltea เป็น HEEKCHA และในปี 2016 เขาก็ได้เปลี่ยนชื่ออีกครั้งเป็น Hey Tea
แม้ว่าจะมีการปรับเปลี่ยนชื่อบริษัท แต่ถึงกระนั้นก็ยังคงมีการลอกเลียนแบบมากขึ้นเรื่อยๆ แต่ทว่า Hey Tea ก็ยังคงครองสถิติร้านชาที่ได้รับความนิยมมากที่สุดอยู่ดี
หากเพื่อนๆ คนไหนที่อยากจะลิ้มลองเมนูสุดพิเศษนี้ บอกเลยว่าการใช้หลอดนั้นอาจจะทำให้คุณไม่ได้รับรสสัมผัสสุดฟินได้นะ เพราะถ้าอยากได้ความอร่อยแบบเต็มๆ บอกเลยว่าต้องยกซดเท่านั้น
โดยวิธีการดื่มก็คือ ยกแก้วเอียง 45 องศา เพื่อให้ได้ดื่มชาจากด้านล่างผ่านวิปชีสขึ้นมาพร้อมกัน และคุณก็จะได้พบกับความอร่อยที่ลงตัวสุดๆ จนไม่อาจลืมได้
ทั้งนี้ Hey Tea มีการจำหน่ายเครื่องดื่มชาชีสด้วยน้ำชาที่หลากหลาย ไม่ว่าจะเป็น ชาเขียว ชาดำ หรือชาอู่หลง โดยจะมีราคาต่อแก้วเพียงแค่ 43 – 139 บาทเท่านั้น งานนี้คอชาทั้งหลายจะพลาดได้ไงเนี่ยยยย
ที่มา : odditycentral
Leave a Reply
You must be logged in to post a comment.