เราแทบทุกคนไม่สามารถจำได้ว่าตอนเป็นเด็กเรารู้สึกอย่างไรหรือมีอะไรเกิดขึ้นบ้าง สิ่งนั้นเป็นไปตามธรรมชาติของมนุษย์ที่เมื่อเราใช้ชีวิตไปเรื่อยๆ ความทรงจำเก่าๆ ก็จะยิ่งเลือนรางจางหายไปทุกที
แต่สิ่งที่ว่ามานั้นกลับไม่ได้เกิดขึ้นกับหญิงสาวที่มีชื่อว่า Rebecca Sharrock ผู้ป่วยเป็นโรค Highly Superior Autobiographical Memory (หรือที่เรียกว่า HSAM) ทำให้เธอสามารถจำเหตุการณ์ในชีวิตของเธอได้แทบจะทั้งหมด แม้แต่รายละเอียดเล็กๆ น้อยๆ
โรค HSAM เรียกได้ว่าหายากมากๆ มีเพียงไม่ถึง 100 คนบนโลก โดยผู้ป่วยสามารถจดจำความรู้สึกหรือสิ่งที่เกิดขึ้นกับตัวเองได้ แต่หากเป็นเรื่องอื่นๆ หรือของคนรอบข้างความจำก็จะมีความเลือนรางอยู่เหมือนคนทั่วไป ซึ่งโรคดังกล่าวยังคงไม่สามารถหาคำตอบได้ว่าเกิดจากอะไร
ในกรณีตัวอย่างของเธอคนนี้ที่ิอาศัยอยู่ในรัฐควีนส์แลนด์ ประเทศออสเตรเลีย แม้ว่าจะไม่สามารถจำวันแรกที่ตัวเองลืมตาดูโลกได้ แต่เธอสามารถจดจำทุกอย่าง ทั้งความรู้สึก ความเจ็บปวดที่เกิดขึ้นกับตัวเอง หรือแม้กระทั่งรสชาติอาหาร ซึ่งเธอจำได้ตั้งแต่ตอนที่ตัวเองอายุเพียงแค่ 12 วันเท่านั้น
เธอสามารถจำความรู้สึกของตัวเองในตอนที่อายุเพียงแค่ 12 วันได้
เธอเล่าว่า “ฉันจำได้ว่าตอนนั้นฉันน่าจะนอนอยู่บนเปลในโรงพยาบาล และตอนที่ได้อยู่ในห้องนอนก็มีความรู้สึกหลงใหลไปกับพัดลมที่ตั้งอยู่ใกล้ๆ แต่ก็ไม่สามารถลุกออกไปดูและทำความรู้จักกับมันได้”
เล่าต่ออีกว่าตอนที่ยังเป็นเด็กตัวเล็กๆ จะพูดหรือใช้เครื่องมือต่างๆ ก็ไม่ได้ ในตอนนั้นเธอรู้สึกสนใจและสงสัยสิ่งรอบตัวมากกว่าปัจจุบันหลายเท่าเลย แสดงให้เห็นเลยว่าเธอสามารถจดจำได้กระทั่งว่าตอนนั้นเธอรู้สึกอย่างไร
คนทั่วไปแค่คิดถึงตอนอายุ 6 – 7 ขวบก็รู้สึกว่ามันเลือนลางแล้ว
แม้แต่การเรียนรู้ที่เกิดขึ้นในตอนเป็นเด็กเธอก็ยังคงจำตอนนั้นได้ดี ในตอนนั้นเธอเคยร้องไห้เฉพาะเวลารู้สึกสับสนหรือเป็นทุกข์ แต่ต่อมาเมื่อเธอร้องไห้แม่เธอก็จะเอาอาหารมาให้ ทำให้เวลาที่รู้สึกหิวเธอก็จะร้องไห้ออกมาแทน นับเป็นการเรียนรู้แรกๆ ของเด็กเกือบทุกคน
เด็กเกิดการเรียนรู้จากความเข้าใจพื้นฐานและการตีความจากสิ่งรอบตัว
อย่างไรก็ตามโรคนี้ไม่ได้มีความพิเศษถึงขนาดสร้างภาพจำลองในหัวได้อย่าง Sherlock Holmes เพียงแต่มันจะทำให้ผู้ป่วยมีความสามารถในการนึกถึงสิ่งที่เคยเกิดขึ้นกับตัวเองได้ดีกว่าคนอื่นเพียงเท่านั้น
ยกตัวอย่างเช่นความทรงจำที่ Rebecca จำได้แม่นที่สุดและรู้สึกผูกพันมากที่สุดก็คือ งานวันเกิดหรืองานคริสต์มาสในแต่ละปีของเธอ แสดงให้เห็นว่าร่างกายเธอถูกกระตุ้นให้จำช่วงเวลาแห่งความสุขและความเจ็บปวดไม่ต่างกับคนทั่วไป อีกทั้งความทรงจำต่างๆ เธอก็ไม่สามารถบอกทุกอย่างได้โดยละเอียด เพียงแต่อธิบายคร่าวๆ เท่านั้นเอง
จากความผิดปกตินี้ เธอก็ได้เขียนหนังสือชื่อว่า Streams of Memories เพื่อพูดถึงโรคนี้ในทางการแพทย์ และกำลังเขียนอีกเล่มในชื่อ My Life Is A Puzzle ไว้บอกเล่าถึงประสบการณ์ที่เธอเจอมาตลอดทั้งชีวิต
เธอบอกว่า “อาการของโรคทำให้ชีวิตของฉันเต็มไปด้วยความสับสน เพราะมันทำให้ฉันระลึกถึงความรู้สึกในอดีตได้แทบทั้งหมด รวมถึงความเจ็บปวดและรสชาติอาหาร มันจึงทำให้ฉันรู้สึกเหมือนกับว่ายังไม่ได้โตเป็นผู้ใหญ่และสับสนอยู่แต่ในช่วงวัยเด็ก”
หลายคนมองว่าโรคนี้ก็ไม่ได้แย่อะไร แต่นั่นอาจไม่ใช่สิ่งที่ผู้ป่วยคิดก็ได้
นับว่าเป็นหนึ่งในโรคหายากที่เราคงไม่สามารถรับรู้ความรู้สึกที่เธอต้องเจอมาตลอดได้ หวังว่าแนวทางการรักษาจะเกิดขึ้นมาเพื่อช่วยเธอคนนี้ได้ในอนาคตนะ
ที่มา: unilad
Leave a Reply
You must be logged in to post a comment.