นักบินอวกาศอาจเป็นอาชีพในฝันของใครหลายคน เพราะนี่คือหนึ่งในไม่กี่อาชีพที่จะได้ออกไปอยู่ในอวกาศ ได้เห็นสิ่งสวยงามต่างๆ ที่ไม่เคยมีโอกาสได้เห็นมาก่อน หลายคนอาจบอกว่าอาชีพนี้น่าอิจฉาแต่ความเป็นจริงอาชีพนี้ก็ต้องแลกมาด้วยความยากลำบากและความทุกข์มากมาย
Scott Kelly นักบินอวกาศจากสหรัฐอเมริกา จึงได้ออกมาบอกเล่าเรื่องราวให้ทุกคนได้รู้ว่า การใช้ชีวิตอยู่บนอวกาศนาน 1 ปีของเขานั้นต้องพบเจอกับอุปสรรคอะไรมาบ้าง
Scott Kelly ถ่ายภาพเซลฟี่ภายในยานอวกาศมีพื้นหลังเป็นโลกของเรา
ชายคนนี้เป็นนักบินอวกาศคนแรกที่ขึ้นไปใช้ชีวิตอยู่ใน สถานีอวกาศนานาชาติ เป็นเวลานานขนาดนี้ เขาบอกว่าการใช้ชีวิตอยู่นอกโลก เพียงแค่การเดิินก็ทำให้เขาเหนื่อยมากๆ แล้ว
เขาจำเป็นต้องเดินอยู่ในอวกาศด้านนอกของสถานีเพื่อเช็คความเรียบร้อยหรือซ่อมแซมส่วนต่างๆ ของยาน ซึ่งนั่นเป็นสิ่งที่ทำให้เขารู้สึกเหนื่อยมากๆ นอกจากนั้นยังมีครั้งหนึ่งที่เขาหลงทางอยู่นอกอวกาศหาทางกลับไม่ได้เพราะตอนนั้นเป็นเวลากลางคืนมันจึงค่อนข้างมืด
“ผมต้องอยู่ในสภาพเหมือนกับยืนกลับหัว และแม้ว่ามันจะไม่ได้น่ากลัวอะไรแต่ความก็รู้สึกไม่ค่อยดีเท่าไหร่หรอกนะ” เขาพูดถึงตัวเองในตอนนั้น
อีกทั้งบนอวกาศมีเศษหินก้อนเล็กๆ ลอยอยู่เต็มไปหหมด และถ้าหากมันลอยมาโดนตัวก็จะสร้างแรงปะทะได้มากพอสมควรเลยทีเดียว
เขาได้พูดถึงนักสำรวจ Ernest Shackleton ผู้ที่สามารถใช้ชีวิตอยู่ในขั้วโลกเหนือได้ โดย Scott บอกว่า “สิ่งที่ผมและเขามีเหมือนกันในการเอาชีวิตรอดคือความอดทน พลังงาน และความกระตือรือร้นที่มีอยู่ในตัว”
เขาพูดอีกว่า “แต่ผมคิดว่าเราไม่สามารถเปรียบเทียบกันได้ซะทีเดียว เพราะ Ernest ต้องอยู่กับความพยายามเอาชีวิตรอดจากสภาพอากาศอันเลวร้าย ส่วนของผมมันไม่ได้เลวร้ายขนาดนั้น”
สิ่งที่เขาคิดว่ายากที่สุดสำหรับภารกิจนี้ก็คือ การที่ต้องตัดขาดจากครอบครัวหรือคนรู้จักออกไปเป็นเวลานาน โดยที่เขาไม่มีโอกาสเดินทางกลับไปหาญาติสนิทมิตรสหายเหล่านั้นในระหว่างภารกิจได้เลย แม้จะมีเรื่องที่สะเทือนใจเกิดขึ้นมาก็ตาม
เรื่องที่ว่านั้นเกิดขึ้นในวันที่ 8 มกราคม 2011 หัวหน้าของเขาได้โทรขึ้นไปหาและบอกเขาว่า น้องสะใภ้เขาถูกยิงจากเหตุการณ์กราดยิงที่ฆ่าผู้คนไปมากมายในเมืองทูซอน รัฐแอริโซนา สหรัฐอเมริกา ตอนแรกที่เขาได้ยินข่าวก็รู้สึกกังวลเป็นอย่างมาก
สิ่งเดียวที่เขาสามารถทำได้ในตอนนั้นคือติดต่อกลับไปหาครอบครัวและให้กำลังใจพวกเขา ซึ่งสิ่งนั้นไม่ได้ทำให้ Scott ลดความวิตกกังวลลงได้เลย จนกระทั่งมีการติดต่อกลับมาบอกว่าน้องสะใภ้รอดตายแล้ว เขาจึงโล่งใจได้ในที่สุด
Mark (คนซ้าย) น้องชายฝาแฝดของเขาที่มีอาชีพนักบินอวกาศเช่นเดียวกัน
เพราะอย่างนั้นทำให้เขาเข้าใจว่าความอดทนเป็นเรื่องสำคัญอย่างมาก หลังจากเสร็จสิ้นภารกิจจึงเขียนหนังสือขึ้นมาชื่อว่า Endurance เล่าถึงประสบการณ์และความรู้สึกของตนเองที่มีให้กับภารกิจนี้
จากการเดินทางครั้งนี้ของเขาทำให้วิทยาศาสตร์สามารถก้าวหน้าไปได้อีกขั้นในเรื่องการศึกษาความแตกต่างของคนที่เป็นฝาแฝดกัน และเรื่องของสรีรวิทยากับจิตวิทยาของคนที่ต้องไปใช้ชีวิตอยู่บนอวกาศเป็นเวลานาน ซึ่งทั้งหมดนั้นจะยิ่งช่วยทำให้ความฝันในการออกไปอยู่บนดาวอังคารมีความเป็นไปได้มากยิ่งขึ้น
หนังสือ Endurance ที่เขาเป็นคนเขียนขึ้นมาเอง
นอกจากคำถามเรื่องของประสบการณ์ความยากลำบากแล้ว ได้มีบทสัมภาษณ์ถามชายคนนี้อีกว่าในความคิดของเขา มนุษย์สามารถขึ้นไปอาศัยอยู่บนดาวอังคารได้แล้วหรือยัง? เขาตอบกลับมาว่า “แน่นอน เรื่องนั้นมันได้อยู่แล้ว”
แต่ถึงอย่างนั้นเขาก็บอกว่ามันยังติดปัญหาอยู่นิดหน่อยอย่างเช่นเรื่องของรังสี ซึ่งถ้าหากเราออกไปนอกโลก หลุดจากสนามแม่เหล็กไป เราอาจได้รับรังสีที่เป็นอันตรายได้
รวมถึงเรื่องของคาร์บอนไดออกไซด์จำนวนมากที่นอกโลกก็เป็นเรื่องสำคัญ แต่แม้ว่ามันฟังดูเป็นเรื่องยาก เขาก็ยังคงเชื่อว่าความก้าวหน้าของเทคโนโลยีและการร่วมมือกันของทุกคนจะต้องทำให้เราได้ออกไปอยู่ดาวอังคารได้ในซักวันหนึ่งแน่นอน
ภาพในวันที่เขากัลบมาจากการใช้ชีวิตอยู่บนอวกาศนานถึง 1 ปี
จากมุมมองของใครหลายคนที่เคยคิดว่าอาชีพนักบินอวกาศไม่ใช่เรื่องยาก ได้ออกไปเที่ยวนอกโลกกันแบบชิลล์ๆ สงสัยคงต้องเปลี่ยนความคิดกันใหม่แล้วล่ะนะ เพราะความเป็นจริงอาชีพนี้มีความยากลำบากอีกหลายอย่างที่เราคาดไม่ถึงเลย
ที่มา: nationalgeographic
Leave a Reply
You must be logged in to post a comment.