ใครๆ ก็รู้ดีว่าคิมจองอึนแห่งเกาหลีเหนือกับทรัมป์จากสหรัฐอเมริกานั้นต่างเป็นคู่เวรคู่กรรมที่ไม่ลงรอยกัน และคงจะเป็นเรื่องยากที่จะเห็นทั้งสองคนเผชิญหน้ากันอย่างเป็นมิตร
ท่ามกลางความบาดหมางนี้ บริษัทแห่งหนึ่งในญี่ปุ่นจึงผุดไอเดียการโฆษณา โดยเอาคนมาสวมบทเป็นทรัมป์กับคิมจองอึนให้เป็นเพื่อนรักกัน แบบว่ามุ้งมิ้งสุดๆ
Bonx หรือที่รู้จักในชื่อ Bonx Grip เป็นอุปกรณ์สื่อสารของญี่ปุ่น ที่ทำงานร่วมกับโทรศัพท์มือถือและเครื่องรับส่งวิทยุด้วยระบบบลูทูธ
หนึ่งอุปกรณ์ที่ขึ้นชื่อคือหูฟังบลูทูธที่สามารถตัดเสียงรบกวนได้อย่างหมดจด โดยอุปกรณ์ดังกล่าวนี้ได้รับการพัฒนาครั้งแรกเพื่อกลุ่มคนชอบทำกิจกรรมกลางแจ้ง ไม่ว่าจะเป็นการเล่นกีฬา ปีนเขา หรือแม้กระทั่งไปตกปลา
จริงๆ แล้ว มันไม่ได้มีประโยชน์เฉพาะกับกลุ่มคนข้างต้น แต่มันเป็นประโยชน์กับทุกคนที่ต้องการสื่อสารกับแบบใกล้ชิดกับคนที่อยู่ห่างไกล
เพื่อให้ทุกคนเห็นภาพการใช้งานอุปกรณ์นี้ นักแสดงหนังผู้ใหญ่ Mana Sakura จึงได้เปิดตัวโฆษณาชุดแรกที่เธอเป็นคนกำกับเอง
ในโฆษณาชุดนี้ เธอให้คนสวมบทเป็นโดนัลด์ ทรัมป์ และคิมจองอึน โดยให้ทั้งคู่เป็นเพื่อนรักกันผ่านทาง Bonx
ช่วงแรกของโฆษณา เราจะเห็นผู้นำคิมล่องเรือกลางทะเล พร้อมตกปลาอย่างสบายอารมณ์ โดยมีลูกน้องในเครื่องแบบขนาบข้างเขาด้วยใบหน้าระรื่น
ขณะที่อยู่บนเรือนั้น คิมก็ได้คุยกับทรัมป์ที่อยู่ในอเมริกาผ่านหูฟังบลูทูธ โดยเรียกเขาว่า Tra อย่างสนิทสนมพร้อมชวนทรัมป์มาร่วมตกปลาด้วย
แต่ทรัมป์ปฏิเสธเพราะรู้สึกไม่ค่อยดี จึงอยากพักผ่อนอยู่ที่บ้านมากกว่า อย่างไรก็ตามทั้งคู่ก็ได้คุยกันผ่าน Bonx ซึ่งได้ยินเสียงกันชัดแจ๋วเหมือนอยู่ใกล้กันเลย
ส่วนคำสำคัญที่ปรากฏในโฆษณาชุดนี้คือคำบรรยายด้านล่างที่บอกว่า “แม้เรามีความเห็นต่างกัน ไม่ได้แปลว่าเราจะเป็นเพื่อนกันไม่ได้”
ด้วยเหตุนี้จึงทำให้ผู้นำที่มีความขัดแย้งกัน กลายเป็นเพื่อนสนิทที่สามารถเม้ามอยกันได้ตลอด โดยทรัมป์ได้เรียกคิมอย่างเป็นมิตรว่า “คิมคิม”
ช่วงกลางของวิดีโอ จะเห็นคิมมาหาทรัมป์ที่บ้านพร้อมนำปลาที่ตกได้ติดมือมาฝาก โดยทรัมป์ได้เตรียมเซอร์ไพรส์วันเกิดให้กับคิมจองอึนด้วยเช่นกัน
มิตรภาพที่งดงามนี้ต้องขอบคุณ Bonx ที่ทำให้ทั้งสองคนสามารถสื่อสารกันได้ แม้ว่าคิมจะอยู่กลางทะเลที่มีเสียงคลื่นรบกวน แต่เวลาที่คุยกับทรัมป์เสียงด้านนอกไม่ได้ทำลายคุณภาพเสียงจากปลายทางเลย
ทั้งหมดนี้คือความตั้งใจของผู้ที่ผลิต Bonx ที่อยากให้ผู้คนจากทั่วโลกสามารถติดต่อกันอย่างสะดวก และมีความสามัคคีกันมากขึ้น
เบื้องหลังการถ่ายทำวิดีโอ
ไม่รู้ว่าเมื่อคิมกับทรัมป์เห็นโฆษณานี้แล้วจะว่ายังไงบ้างนะ?
ที่มา rocketnews24
Leave a Reply
You must be logged in to post a comment.