สวนสัตว์เดือด หลังเจ้าหน้าที่รัฐสั่งให้ฆ่าแมวป่าที่หลุดออกไป เพราะกลัวมันไปทำร้ายมนุษย์

สัตว์ที่อาศัยอยู่ตามธรรมชาติจะไม่ทำร้ายมนุษย์ หากมันไม่เป็นฝ่ายโดนคุกคามก่อน แต่เมื่อไหร่ก็ตามที่มนุษย์เข้าไปแทรกแซง มันก็ย่อมจะทำทุกอย่างเพื่อเอาตัวรอดตามสัญชาตญาณของสัตว์ป่า

ดังนั้นมันจึงกลายเป็นประเด็นถกเถียงขึ้นมาทันทีเมื่อสภาเมืองได้สั่งให้นาย Andrew Venables ซึ่งเป็นนักแม่นปืนไปฆ่า Lillith แมวป่าที่หลุดออกจาก Wild Animal Kingdom ในเวลส์ เมื่อ 3 สัปดาห์ก่อน โดยอ้างว่ากลัวมันจะไปทำร้ายมนุษย์

Lillith ในวัย 1 ปีครึ่ง ถูกยิงตายหลังจากที่มันถูกพบว่านอนอยู่ในที่จอดรถใกล้กับสวนสัตว์ สร้างความไม่พอใจให้เจ้าของสวนสัตว์ Tracy Turn เป็นอย่างมาก เธอบอกว่ามันเป็นการกระทำที่โหดร้ายและเกินความจำเป็น

Andrew บอกว่า “มันถูกพบอยู่ใต้รถ ซึ่งที่นั่นเต็มไปด้วยนักท่องเที่ยว และมีความเป็นไปได้สูงที่มันจะทำร้ายมนุษย์ อีกอย่างตอนนั้นมันเป็นช่วงเวลากลางคืน จึงยากที่จะจับตัวมัน เราก็เลยตัดสินใจยิงมันก่อนจะมีใครได้รับบาดเจ็บเพราะมัน”

ในขณะเดียวกัน George Turner ช่างภาพสัตว์ป่าได้ออกมาตั้งแง่เกี่ยวกับประเด็นนี้ว่า “จำเป็นต้องฆ่ามันด้วยเหรอ? ดูเหมือนคุณแค่อยากยิงมันมากกว่าเหตุผลอื่น… คุณควรจะหาข้อมูลเกี่ยวกับแมวป่ามาอ่านซะบ้างนะ”

หลังจากที่ยิงมันจนตายแล้ว นาง Tweedy วัย 47 ปี ผู้ที่บริจาคเงินให้ทางสวนสัตว์ อ้างว่าสภาไม่ยอมให้ทางสวนสัตว์เอาศพกลับไปด้วย เธอบอกว่า “ฉันรู้สึกโกรธมาก พวกเขาเรียกตัวเองว่ามนุษย์แต่กลับฆ่าสิ่งมีชีวิตอื่นอย่างเลือดเย็น”

“มันหลุดออกไปจากส่วนสัตว์ก็จริง แต่ถ้าคุณได้อ่านเกี่ยวกับแมวป่าบ้างจะรู้ว่ามันไม่ใช่สัตว์อันตราย ตั้งแต่ที่หลุดออกไป มันก็พยายามหลีกเลี่ยงผู้คนตลอด”

Alan Croxford กล่าวเสริมว่า “แมวป่าควรจะถูกนำกลับไปฝังศพในที่ที่ดี อย่างน้อยก็เป็นสิ่งสุดท้ายที่เราจะทำให้มันได้ แต่เรากลับไม่ได้รับอนุญาตให้ทำแบบนั้น”

Venables ได้ออกมาโต้อีกว่าเขาถูกฝึกมาในสวนสัตว์ป่า และทุกคนก็ถูกสอนให้ใช้ปืนอย่างมีมนุษยธรรม “ผมสามารถยืนยันได้ว่าทางสวนสัตว์ได้บอกเจ้าหน้าที่สภา Ceredigion ถึงสองครั้งว่า แมวป่าอาจทำอันตรายมนุษย์ได้ ถ้ามันหลุดออกไปนอกพื้นที่ และไม่ได้อยู่ในการดูแล” นักแม่นปืนกล่าว

“และเมื่อมันถูกพบอยู่ใต้รถ ทางสวนสัตว์ก็บอกอีกว่าถ้าไม่สามารถจับมันได้ ก็จำเป็นที่ต้องยิงมัน จนกระทั่ง 3 สัปดาห์ต่อมา ก็ยังไม่สามารถจับตัวมันได้และไม่มีข้อเสนอใดๆ เพิ่มเติม เราจึงตัดสินใจยิงมัน”

ต่อมาโฆษกสภา Ceredigion ได้ออกมาบอกว่าพวกเขาเสียใจต่อเหตุการณ์นี้อย่างสุดซึ้ง อย่างไรก็ตาม ความปลอดภัยของประชาชนเป็นสิ่งสำคัญที่สุด ดังนั้นเมื้อพบว่าแมวป่าหลงไปอยู่ท่ามกลางฝูงจึงต้องมีการจัดการขั้นเด็ดขาด

สิ่งที่สร้างความไม่พอใจให้กับ Wildlife Animal Kingdom เพราะพวกเขาได้กำชับเจ้าหน้าตั้งแต่ต้นแล้วว่าไม่ให้ยิงมันเด็ดขาด แต่ให้จับตาดูอย่างใกล้ชิด และหลอกล่อให้มันมาติดกับดัก เพื่อที่จะพากลับไปอยู่ในที่ของมัน

แต่แล้วพวกเขาก็ได้รับแจ้งข่าวร้ายว่าแมวป่าตัวดังกล่าวถูกยิงตายแล้วตามคำสั่งของสภา โดยอ้างว่าไม่สามาารถปล่อยให้มันอยู่ท่ามกลางฝูงชนนานกว่านี้ได้ เพราะกลัวมันจะทำอันตรายมนุษย์

ทั้งนี้ทั้งนั้น ตามข้อมูลของอุทยานพบว่าไม่เคยมีการบันทึกเกี่ยวกับแมวป่าทำร้ายมนุษย์เลย…

จากแถลงการณ์ของตำรวจ Dyfed Powys Police เมื่อวันที่ 29 ตุลาคม บอกว่า “แมวป่าไม่น่าจะเป็นสัตว์ที่เข้าหาผู้คนเพื่อทำร้าย แต่มันอาจจะแค่ต้องการที่ปลอดภัยและอาหารเท่านั้น”

แม้ทุกฝ่ายจะออกมาบอกว่าเสียใจต่อเหตุการณ์ดังกล่าว แต่ตอนนี้แมวป่าก็ได้จากไปเรียบร้อยแล้ว ดังนั้นคำเสียใจจึงช่วยอะไรไม่ได้ นอกจากจะเป็นบทเรียนและอุทาหรณ์ให้ทุกคนในอนาคต

ที่น่าเป็นห่วงคือผู้เชี่ยวชาญบอกว่าขณะนี้จำนวนประชากรแมวป่าลดลงอยู่ในระดับปานกลางถึงขั้นรุนแรง หากมันยังถูกฆ่าอย่างต่อเนื่อง อาจทำให้แมวป่าอยู่ในภาวะใกล้สูญพันธุ์ได้

ที่มา dailymail