ช่างสักหนุ่มปกปิด ‘รอยแผลเป็นอันเลวร้าย’ ให้หญิงสาวกลับมามีความสุขอีกกครั้ง

แทบทุกคนมีสิ่งที่ต้องการจะลืมหรือทิ้งมันไว้ให้กลายเป็นอดีต แต่หลายๆ ครั้งเราก็ไม่สามารถทำได้เพราะยังคงมีสิ่งที่ทำให้เรานึกถึงช่วงเวลาแห่งความเจ็บปวดนั้นอยู่ตลอดเวลาเหมือนกับเธอคนนี้ เพราะบาดแผลที่เธอได้สร้างเอาไว้มันกลับติดตรึงอยู่บนร่างกายของเธอจนไม่อาจหลุดพ้นจากความทุกข์ไปได้

หญิงสาวคนนี้มีชื่อว่า Aoife Lovett ชาวไอริชวัย 19 ปี เธอเคยสร้างบาดแผลเอาไว้ที่แขนของตัวเองด้วยการกรีดข้อมือ แต่เมื่อเวลาผ่านไป เธอรู้สึกว่าแผลเป็นนั้นทำให้เธอนึกถึงช่วงเวลาร้ายๆ ในอดีต เธอจึงอยากลบมันออกไป ซึ่งเธอได้รับความช่วยเหลือจากช่างสักหนุ่มผู้มีจิตอาสา

 

Aoife Lovett หญิงสาวผู้ไม่อาจหลุดพ้นจากความทุกข์ไปได้ เพราะแผลเป็นของเธอ

 

เรื่องราวนี้ถูกแชร์ในเว็บไซต์ Boredpanda วันที่ 13 พฤศจิกายน 2017 โดย Aoife บอกว่าในสมัยก่อนเธอเคยมีสภาพจิตใจที่ย่ำแย่อย่างมากจนทำให้เธอใช้ของมีคมกรีดเข้าไปที่บริเวณแขนของตัวเองหลายต่อหลายครั้ง

พอเวลาผ่านมาจนถึงตอนนี้จิตใจของเธอก็ได้ฟื้นฟูกลับมาเป็นปกติอีกครั้ง แต่แผลที่เคยสร้างไว้ก็ยังคงปรากฎให้เห็นเป็นรอยแผลเป็นบนแขนของเธอ และสิ่งนี้เองที่ทำให้เธอยังคงรู้สึกถึงช่วงเวลาอันเจ็บปวดในตอนนั้นอยู่เสมอ

 

แผลเป็นที่เกิดขึ้นจากความทุกข์และความเศร้า ยังคงติดตรึงจนทำให้เธอย้อนไปคิดถึงอดีตที่เลวร้ายอยู่ทุกครั้งที่ได้เห็น

 

Aoife บอกว่า “มันเป็นเรื่องที่ยากมากในการเยียวยาตัวเองตลอด 2 ปีที่ผ่านมา แต่ทุกครั้งที่ฉันเห็นสิ่งนี้ ความเจ็บปวดในอดีตก็จะกลับมาหลอกหลอนฉันเสมอ เต็มไปด้วยความรู้สึกผิดกับสิ่งที่ทำลงไปและความรู้สึกนี้ก็จะรุนแรงมากๆ ตอนที่ฉันอยู่กับคนในครอบครัว”

นั่นจึงทำให้เธอต้องการสักทับรอยแผลนั้นเอาไว้เพื่อปกปิดไม่ให้ได้นึกถึงมันอีก แต่เมื่อเธอไปหาช่างสักคนไหนกลับไม่มีใครยอมรับงานจากเธอเลยแม้แต่คนเดียว

ในขณะที่กำลังหมดสิ้นหนทาง แม่ของเธอก็ได้ไปเจอเข้ากับช่างสักหนุ่มคนหนึ่งที่มีชื่อว่า Ryan Kelly เจ้าของโปรเจกต์ Scars Behind Beauty เป็นโครงการที่เขาสักลายทับบนแผลเป็นให้กับคนที่ต้องการแบบฟรีๆ

 

Ryan Kelly ช่างสักผู้คอยช่วยเหลือหญิงสาวให้หลุดพ้นจากความทุกข์

 

ช่างสักคนนี้ได้ตั้งโครงการดังกล่าวขึ้นมาตั้งแต่เดือนกุมภาพันธ์ 2017 โดยเขาบอกว่ามีผู้หญิงหลายคนที่เข้ามาขอความช่วยเหลือจากเขาด้วยเหตุผลเดียวกันกับ Aoife ซึ่งเมื่อเขาได้ฟังเรื่องราวที่แต่ละคนเล่าให้ฟังแล้ว จึงคิดว่าการได้ช่วยเหลือพวกเธอให้สามารถก้าวเดินต่อไปได้ ไม่สมควรต้องถูกคิดเงิน

เขาได้บอกอีกว่า “ผมเข้าใจนะครับว่าช่างสักคนอื่นๆ ไม่ต้องการสักบนผิวแบบนี้ เพราะต้องใช้เวลาในการสักนานกว่าปกติค่อนข้างมากและผลงานที่ออกมาก็จะไม่ได้ดีเท่ากับที่สักบนผิวที่เรียบเนียน แต่สำหรับผมแล้วการสักทับรอยแผลเป็นให้พวกเธอมันมีความหมายมากกว่านั้น เพราะมันคือการช่วยให้คนคนหนึ่งสามารถก้าวผ่านความยากลำบากไปได้”

 

การสักที่มีความหมายได้เริ่มต้นขึ้น

 

ในที่สุดความทรงจำอันเลวร้ายของเธอก็ได้มลายหายไปด้วยความสวยงามที่มาปิดทับไว้

 

ผลงานของเขาได้ช่วยปกปิดรอยแผลเป็นของหญิงสาวคนนี้ จากสิ่งที่เคยทำให้เธอรู้สึกเป็นทุกข์ ไม่มีความมั่นใจ จนถึงกับไม่กล้าไปสมัครงานเพราะกลัวถูกถามในเรื่องนี้ สิ่งเหล่านั้นได้อันตรธานหายไปหลังจากที่ถูกเติมเต็มด้วยความสวยงาม

เธอบอกว่า “เหมือนฉันได้เจอกับความอิสระครั้งใหม่ กลับมามีความมั่นใจในตัวเองอีกครั้งหนึ่งและสามารถใช้ชีวิตก้าวเดินต่อไปได้ในที่สุด” น่ายินดีกับเธอจริงๆ เลยนะ

 

เธอเหมือนได้เกิดใหม่ กลับมามีความมั่นใจอีกครั้ง

.

 

เราลองไปดูบางส่วนของทั้งหมดผลงานจากช่างสักหนุ่มที่ได้ช่วยเหลือผู้หญิงหลายๆ คนมาก่อนหน้านี้กัน

 

ดอกกุหลาบอาจมีหนามทิ่มแทง แต่สุดท้ายก็ถูกบดบังด้วยความสวยงาม

 

รอยสักทำให้พวกเธอไม่สามารถเห็นความเจ็บปวดที่เคยเกิดขึ้นได้อีกต่อไป

 

ช่างสักที่ช่วยเหลือคนในลักษณะนี้ไม่ได้มีเพียงแค่ Ryan เพียงคนเดียว แต่ยังมีคนอื่นๆ ที่ช่วยปกปิดรอยแผลเป็นแห่งความบอบช้ำให้กับผู้คนอยู่ในอีกหลายประเทศ

 

Poppy Seger ช่างสักผู้ช่วยเหลือคนจำนวนมากในสราชอาณาจักร

 

“การสักทับรอยแผลเป็นสามารถช่วยลบคราบน้ำตา ความทรงจำ หรือความหลังอันน่าเศร้า ออกไปได้” Poppy กล่าว

 

ช่างสัก Whitney Develle ผู้สร้างผลงานในลักษณะเดียวกัน

 

สิ่งที่ช่างสักเหล่านี้ได้ทำ ก็ได้รับการตอบรับจากชาวเน็ตเป็นจำนวนมากที่เข้ามาชื่นชมในการช่วยเหลือของพวกเขา

 

“นี่แหละคือศิลปินช่างสักตัวจริงที่ทำผลงานออกมาด้วยใจ มันสวยงามมากๆ เลย ในที่สุดพวกเธอก็สามารถก้าวเดินต่อไปได้ด้วยรอยยิ้ม”

 

“นี่เป็นสิ่งที่สุดยอดมาก หญิงสาวเหล่านั้นต้องเจอกับฝันร้ายและต้องการการเยียวยา แต่กลับถูกยึดติดด้วยแผลเป็นที่มี”

 

“เป็นวิธีการที่ดีจริงๆ ในการเปลี่ยนเรื่องแย่ๆ ให้กลายเป็นเรื่องดีๆ”

 

“หญิงสาวต้องเจอกับปัญหาภายในจิตใจและปัญหาในเรื่องของรูปลักษณ์ภายนอก ต้องขอบคุณศิลปินผู้มีพลังในการสร้างผลงานอันสวยงาม”

 

ชาวเน็ตบางคนก็ประสบปัญหาจมอยู่กับความทุกข์เหมือนๆ กับ Aoife แต่ก็มีมุมมองต่างกันออกไป

 

“ฉันเคยเป็นเมื่อตอนอายุเพียง 10 ปี แต่ฉันเลือกที่จะสวมกอดแผลเป็นของฉันเอาไว้และอยู่กับมันให้ได้อย่างสบายใจ ฉันเพีียงต้องการให้ทุกคนอย่าไปรู้สึกผิดกับแผลที่เรามีและอย่าไปละอายใจกับมัน”

 

“ฉันมองดูรอยแผลเป็นเพื่อเป็นการเตือนใจตัวเองว่า ฉันสามารถรอดมาได้จากการพยายามฆ่าตัวตาย และฉันคิดที่จะไม่ยอมแพ้ให้กับชีวิตของตัวเองอีก แต่ถึงอย่างนั้นฉันก็ยังรู้สึกหดหู่อยู่บ้างทำให้เรื่องราวการสักของพวกเธอสร้างความประทับใจให้กับฉันมากจริงๆ”

 

การยึดติดหรือจมอยู่กับความทุกข์ บางครั้งเราก็ไม่อาจแก้ไขปัญหานี้ได้ด้วยตัวเอง การขอความช่วยเหลือจากผู้อื่นก็ไม่ใช่เรื่องผิดแต่อย่างใด เพราะฉะนั้นก็อย่าเพิ่งรีบยอมแพ้ให้กับชีวิตไปเสียก่อนนะ

 

ที่มา: boredpanda

Comments

Leave a Reply