ตำนานแมวมัมมี่ในอียิปต์ นำไปสู่การฆ่าแมวหลายพันตัว หวังหารายได้จากความเชื่อ!!

ในวัฒนธรรมอียิปต์นั้นมีระบบความเชื่อที่ซับซ้อนหลากหลายรูปแบบ และหนึ่งในนั้นคือ “ตำนานมัมมี่” ที่ทำเพื่อรักษาสภาพศพเพื่อรอวันฟื้นคืนชีพ

นอกจากศพคนที่ถูกทำเป็นมัมมี่แล้ว ศพแมวก็ถูกทำเช่นเดียวกัน เนื่องจากคนอียิปต์ให้การนับถือแมวในฐานะเทพบาเตส (Bastet) หรือเทพเจ้าแห่งความรักและความอุดมสมบูรณ์

ดังนั้นหากแมวมาเกิดที่บ้านไหน คนอียิปต์จะถือว่ามันจะนำความมั่งคั่งมาให้ และใครก็ตามที่ทำร้ายแมว จะถือเป็นความผิดร้ายแรง ซึ่งอาจถูกเทพเจ้าลงโทษสถานหนักจนถึงตายได้

 

 

จากความเชื่อเหล่านี้ทำให้คนอียิปต์จัดการกับศพของแมวเหมือนกับศพมนุษย์ นั่นคือการฝังศพของพวกมันเป็นมัมมี่ โดยใส่เพชรพลอย เครื่องประดับ หรือของมีค่าลงไปด้วย โดยแมวมัมมี่จำนวนมากจะถูกฝังไว้ตามศาสนสถานต่างๆ ทั่วประเทศ

อย่างไรก็ตาม ได้มีคนบางกลุ่มฉวยโอกาสนี้หาประโยชน์จากความเชื่อดังกล่าว ด้วยการเลี้ยงแมวไว้เพื่อฆ่า เมื่อแมวอยู่ในวัยที่กำหนด พวกเขาก็จะฆ่าและขายให้กับนักบวชผู้แสวงบุญหรือคนอื่นๆ ที่ต้องการนำไปประดับศาสนสถานของตน

ทั้งนี้เชื่อกันว่ากลุ่มคนดังกล่าวนี้น่าจะเป็นคนที่อยู่เบื้องหลังการฝังศพแมวมัมมี่จำนวนมหาศาลที่ถูกเคยค้นพบในปี 1888

 

 

ในปี 1888 ขณะที่ชาวนาคนหนึ่งกำลังขุดบ่อน้ำในทะเลทรายที่อยู่นอกเมือง Beni Hasan ห่างจากกรุงไคโร ของอียิปต์ประมาณ 160 กิโลเมตร

เขาได้ขุดเจอศพแมวมัมมี่ แค่ตัวแรกก็ประหลาดใจแล้ว แต่ปรากฏว่ายังเจอตัวที่สอง ที่สาม เขาจึงขุดต่อไปเรื่อยๆ จนทำให้พบศพแมวกว่า 80,000 ตัว ที่ถูกฝังอยู่ที่นั่น

การค้นพบในครั้งนี้ ได้ดึงดูดความสนใจของผู้คนจำนวนมาก และในไม่ช้าที่นั่นก็เต็มไปด้วยชาวบ้านที่มาหาของมีค่าที่ถูกฝังไว้กับแมว จากการค้นคว้าคาดว่าแมวเหล่านี้ถูกฝังในช่วง 2,000 ปีก่อนคริสตกาล

 

 

แน่นอนว่าการค้นพบมัมมี่แมวแบบนี้ ก็ย่อมมีคนคิดถึงสิ่งของมีค่าที่ถูกฝังพร้อมกับศพแมว แต่ชาวบ้านก็ต้องผิดหวัง เพราะไม่มีการค้นพบของมีค่าอะไรเลย นอกจากโลงศพสำริดและเครื่องประดับเล็กๆ น้อยๆ สุดท้ายพวกเขาก็ได้นำแมวมันมี่เหล่านั้นไปขายกับคนที่สนใจ

ชาวบ้านบอกว่าแมวมัมมี่ที่ถูกขุดเจอเหล่านี้ไม่มีค่า พวกมันจึงถูกขายในราคาถูก โดยขายให้นักสะสมของเก่าบ้าน ขายให้คนเก็บขยะบ้าง รวมทั้งขายให้คนที่ต้องการนำไปทำปุ๋ย

นอกจากนี้แมวมัมมี่กว่า 9,000 กิโลกรัมยังถูกส่งไปยังเมืองลิเวอร์พูล ที่นั่นได้มีการจัดประมูลแมวมัมมี่ถึงสองครั้ง โดยบริษัทประมูล Gordon

 

 

โดยการประมูลมัมมี่แมวที่นั่นได้รับความสนใจจากเหล่าเศรษฐีละนักสะสมเป็นจำนวนมาก เนื่องจากกลุ่มชนชั้นสูงของอังกฤษหลายคนให้ความเคารพนับถือมรดกทางวัฒนธรรมของอียิปต์โบราณ จึงทำให้แมวมัมมี่จาก Beni Hasan ส่วนใหญ่ถูกซื้อโดยผู้เชี่ยวชาญในเรื่องโบราณวัตถุของอียิปต์ นักสะสมของโบราณ และตัวแทนจากพิพิธภัณฑ์ต่างๆ

อย่างไรก็ตาม จากการวิเคราะห์ของแมวมัมมี่ด้วยการเอกซ์เรย์ พบว่าแมวมัมมี่ Beni Hasan เกือบครึ่งที่ถูกนำมาประมูลขาย เพิ่งถูกจัดทำในช่วงกลางศตวรรษที่ 20 นี้เอง ที่สำคัญคือ แมวส่วนใหญ่ถูกฆ่าตายขณะที่มีอายุน้อยกว่า 1 ขวบ ส่วนการฆ่า มีแนวโน้มว่าจะใช้วิธีการกระแทกหัวของมันกับของแข็ง

เรื่องนี้แสดงให้เห็นว่าแมวจำนวนมากต้องตกเป็นเหยื่อของพ่อค้าของอียิปต์โบราณ ที่นำมาหลอกขายให้กับผู้ที่หลงไหลในวัฒนธรรมอียิปต์ทั้งหลาย

 

ที่มา thevintagenews

Comments

Leave a Reply