จะมีอะไรทำให้เรารู้สึกดีไปกว่าการได้ช่วยเหลือเพื่อนร่วมโลกด้วยกัน แต่คงไม่มีใครยิ่งใหญ่เหมือนชายคนนี้ที่ยอมอุทิศชีวิตของตัวเองรับเลี้ยงเด็กที่ป่วยหนักที่ไม่มีใครต้องการถึงกว่า 40 ชีวิต
นาย Mohamed Bzeek ผู้อพยพชาวมุสลิมวัย 62 ปีในรัฐแคลิฟอร์เนีย ประเทศสหรัฐฯ ได้ใช้เวลาสองทศวรรษที่ผ่านมาในชีวิตของเขาอุปถัมภ์ดูแลเด็กป่วยหนักที่ไม่มีใครต้องการ
โดยเด็กเหล่านี้ถูกทอดทิ้งจากระบบอุปการะต่างๆ และต้องใช้เกือบทั้งหมดของชีวิตของพวกเขาอยู่กับโรงพยาบาลของรัฐเนื่องจากไม่มีใครเลี้ยงดู นั่นทำให้พวกเขาไม่ค่อยมีโอกาสที่จะได้สัมผัสกับ ความรัก ความหวัง และเสียงหัวเราะที่คนธรรมดามีมากนัก
เด็กๆ ประมาณ 600 คนจาก 35,000 คนที่อยู่ภายใต้การสังเกตการณ์จาก แผนกบริการเด็กและครอบครัวของเขตลอสแองเจลิส เด็กเหล่านั้นเป็นเด็กป่วยหนักที่ต้องการการรักษาจากแพทย์และยังต้องการบ้านที่ให้ความรักแก่พวกเขาได้ ซึ่งมีเพียง Bzeek เท่านั้นที่รับเด็กที่น่าสงสารเหล่านี้มาเลี้ยงดู
สำหรับประวัติของ Bzeek นั้นเขาได้ย้ายมาจากประเทศลิเบีย มายังรัฐแคลิฟอร์เนียในปี 1978 ในฐานะนักเรียน และในปี 1987 เขาก็ได้พบกับผู้หญิงคนหนึ่งที่ชื่อว่า Dawn หลังจากนั้นทั้งคู่ก็ได้แต่งงานกัน โดยเธอเป็นคนเริ่มอุปถัมภ์เด็กคนแรกตั้งแต่ช่วงต้นทศวรรษที่ 1980
บ้านของ Dawn ได้กลายมาเป็นแห่งพักพิงสำหรับเด็กๆ ที่ต้องการการดูแลทั้งหลายและต่อมาในปี 1989 หลังจากที่แต่งงานกันมาได้ 2 ปีทั้งคู่ก็ตัดสินใจที่จะอุทิศชีวิตทั้งชีวิตให้กับการเลี้ยงดูเด็กๆ ที่มีสภาพร่างกายอ่อนแอทั้งหลายและครอบครัว Bzeeks ได้ทำบ้านของพวกเขาให้กลายเป็นบ้านของเด็กหลายสิบคนตั้งแต่นั้นมา
และเรื่องน่าเศร้าก็เกิดขึ้นครั้งแรกในปี 1991 เมื่อมีเด็กคนหนึ่งที่ครอบครัวนี้เลี้ยงดูได้เสียชีวิตลงและการเสียชีวิตของเด็กคนนั้นได้ส่งสร้างผลกระทบต่อจิตใจต่อพ่อแม่บุญธรรมคู่นี้มาก นั่นจึงเป็นจุดเปลี่ยนที่ทำให้พวกเขาได้ตัดสินใจให้ความสำคัญกับเด็กๆ ที่ป่วยหนักเนื่องจากพวกเขาเหล่านี้ไม่มีใครยอมเลี้ยงดูเลยแม้แต่คนเดียว
“กุญแจสำคัญก็คือ คุณต้องรักพวกเขาเหมือนกับว่าเป็นลูกของคุณเอง ผมรู้ว่าพวกเขาป่วย ผมรู้ว่าพวกเขากำลังจะเสียชีวิตลง แต่ผมก็จะทำหน้าที่ให้ดีที่สุดในฐานะมนุษย์คนหนึ่งที่ควรจะเป็น” Bzeek ได้กล่าวไว้
ในปี 1997 ครอบครัว Bzeeks ได้รับอุปถัมภ์เด็กคนหนึ่งที่ชื่อว่า Adam โดยทั้งชีวิตของเขาเหลือเพียงแค่ลมหายใจ เพราะว่าเขาเกิดมาพร้อมความแคระแกร็นและโรคกระดูกที่เปราะถึงขั้นที่ว่า แค่การเปลี่ยนผ้าอ้อมก็สามารถทำให้เขานั้นกระดูกหักได้เลยทีเดียว
“เขาคือสิ่งที่พระเจ้าได้สร้างขึ้น เขามีความเป็นนักสู้เหมือนกับเด็กคนอื่นๆ ที่เข้ามาอยู่กับเรา มีหลายคนเคยถามผมว่า ‘ทำไมคุณถึงทำอย่างนี้’ ซึ่งคำตอบมันก็ง่ายนิดเดียวก็คือ แม้ว่าพวกเขาจะไม่สามารถสื่อสารกับเรา ไม่สามารถมองเห็นหรือได้ยินแต่ถึงอย่างไรพวกเขาก็ยังมีชีวิตและต้องการใครสักคนเพื่อรักพวกเขา”
“ผมมักจะบอกพวกเขาว่า ‘ทุกๆ อย่างจะต้องออกมาดี พ่ออยู่ตรงนี้เพื่อหนู เราจะผ่านมันไปด้วยกัน’” Bzeek ได้กล่าวเพิ่ม
แต่โชคร้ายก็เกิดขึ้นกับเขาอีกครั้งเมื่อ ภรรยาของเขาได้เสียชีวิตลงในปี 2015 แต่เขากลับมองว่านี่เป็นเรื่องธรรมชาติที่ทุกคนต้องเจอและเขาก็ยังคงเดินหน้าทำงานต่อไป
โดยในตอนนี้เขาได้ดูแลเด็กพิการซ้ำซ้อนคนหนึ่งวัย 6 ปีที่เกิดมาพร้อมกับความหูหนวกและตาบอด อีกทั้งสมองก็มีพัฒนาการที่ผิดปกติและยังมีบางส่วนยื่นออกมาจากกะโหลกของเธออีกด้วย
Bzeek กล่าวว่า “ผมรู้ว่าเธอไม่สามารถได้ยินไม่สามารถมองเห็นได้แต่ผมก็คุยกับเธอตลอด ผมมักจะอุ้มเธอ เล่นกับเธอ สัมผัสเธอเพราะยังไงเธอก็ยังมีความรู้สึก มีจิตวิญญาณและเธอก็เป็นมนุษย์คนหนึ่ง”
ซึ่งเด็กเกือบทั้งหมดที่เขาดูแลถูกส่งมาจากโรงพยาบาลในเขต Los Angeles โดยเด็กเหล่านี้เป็นเด็กที่พ่อแม่ไม่สามารถตอบสนองความต้องการของพวกเขาได้ จึงส่งให้โรงพยาบาลตั้งแต่ยังเป็นทารก
“เด็กส่วนใหญ่ที่มาที่นี่มักจะไม่มีชื่อ ดังนั้นผมจึงตั้งชื่อให้พวกเขาทุกคนเพราะเมื่อเวลาพวกเขาเสียชีวิตลง ผมจะได้จำพวกเขาได้และผมไม่เคยลืมพวกเขา ไม่แม้แต่วินาทีเดียว” Bzeek กล่าวทิ้งท้าย
น่านับถือหัวใจของชายคนนี้จริงๆ
ที่มา: odditycentral
Leave a Reply
You must be logged in to post a comment.