แม่มัดลูกน้อยไว้กับราวบันได เหตุจากอดีตสามีจ่ายค่าเลี้ยงดูน้อยกว่าที่ตกลงกันไว้!?

ทุกวันนี้การที่คู่สามีภรรยาทะเลาะกัน เลิกกัน หย่ากัน กลายเป็นเรื่องธรรมดาในสังคมเสียแล้ว และผู้ที่ตกเป็นเหยื่อของการตัดสินใจเหล่านี้ก็มักจะเป็นลูกของพวกเขา

เหมือนกับเด็กชายคนนี้ที่ถูกแม่มัดติดไว้กับราวบันได โดยอ้างว่าอดีตสามีขาดการจ่ายค่าเลี้ยงดูเป็นเงิน 5,000 บาท เลยตัดสินใจทำร้ายลูกเพื่อเป็นการประชด

เหตุการณ์นี้เกิดขึ้นที่เมืองเล่ยหยาง มณฑลหูหนาน ของประเทศจีน โดยผู้เป็นแม่ได้ถ่ายภาพลูกขณะกรีดร้องด้วยความเจ็บปวด ก่อนจะส่งไปให้อดีตสามีดู เพื่อเรียกร้องเงินจากเขา

 

 

เมื่อผู้เป็นพ่อเห็นภาพดังกล่าว เขาตัดสินใจที่จะไปช่วยลูก แต่ถ้าไปเองต้องใช้เวลาอย่างต่ำถึง 4 ชั่วโมง เขาจึงส่งรูปนี้ไปให้ปู่กับย่าของลูกดูเพื่อขอความช่วยเหลือเพราะทั้งคู่อยู่ใกล้กว่า

ภายใน 20 นาที ปู่กับย่าก็มาถึงที่เกิดเหตุ และช่วยแก้มัดให้หลานชายตัวน้อย และอยู่ปลอบใจเขาให้หายกลัว…

ผู้เป็นพ่อกล่าวว่า “ตั้งแต่เดือนกรกฎาคมจนกระทั่งถึงวันที่อดีตภรรยาของผมมัดลูกไว้กับราวบันได ผมได้ส่งเงินให้เธอไปแล้ว 65,000 บาท”

“แต่เหตุผลที่เธอทำร้ายลูกแบบนั้น เพราะวันนั้นผมให้เธอแค่ 4,900 บาท แทนที่จะเป็น 9,900 บาท เหมือนทุกครั้ง”

 

 

ต่อมาภาพดังกล่าวถูกเผยแพร่ไปทั่วสังคมออนไลน์ของจีน โดยตามรายงานบอกว่าพ่อแม่ของเด็กชายหย่าร้างกันเมื่อปี 2016 ทั้งคู่มีลูกด้วยกัน 2 คน คนโตอยู่กับแม่ ส่วนคนน้องลูกกับพ่อ

และนับตั้งแต่เดือนกรกฎาคม ผู้เป็นพ่อได้ขอให้อดีตภรรยาช่วยดูแลลูกคนเล็กเป็นเวลา 1 ภาคการศึกษา โดยเขาจะจ่ายค่าเลี้ยงดูให้ 9,900 บาท ต่อเดือน

 

 

อย่างไรก็ตาม ผู้เป็นพ่อเคยจ่ายให้อดีตภรรยามากถึง 28,000 บาท ต่อเดือน เพื่อให้เพียงพอต่อค่าใช้จ่ายของลูกชายคนโตด้วย

แต่แล้วเมื่อวันที่ 5 พฤศจิกายนที่ผ่านมา อดีตภรรยาได้รับเงินเพียง 4,900 บาท ซึ่งน้อยกว่าที่ตกลงกันไว้ครึ่งหนึ่ง ทำให้เธอโกรธมาก ก่อนจะพาลไปลงที่ลูกชายคนเล็ก

และนับว่าโชคดีที่พ่อแม่ฝ่ายชายได้ไปช่วยเหลือเด็กชายไว้ทัน ทำให้เขาไม่ได้รับบาดเจ็บอะไรมาก แต่ยังคงอยู่ในอาการตกใจกลัว

 

 

ขณะนี้ยังไม่มีรายเงินเพิ่มเติมว่าอดีตสามีภรรยาคู่นี้จะจัดการอย่างไรกับเรื่องที่เกิดขึ้น แต่คาดว่าเด็กชายน่าจะกลับไปอยู่กับปู่ย่าแล้ว ส่วนผู้เป็นแม่จะถูกดำเนินการทางกฎหมายหรือไม่อย่างไรนั้น คงต้องติดตามกันต่อไปค่ะ

ที่มา unilad

Comments

Leave a Reply