คุณพ่อทำร้ายโจรที่เข้ามาขโมยรถถึงในบ้าน แต่ตำรวจกลับจะจับเขาเข้าคุกซะงั้น!?

ตามที่เราหลายคนเข้าใจคือ เราสามารถใช้ความรุนแรงกับผู้อื่นได้โดยไม่มีความผิดตามกฎหมาย ในกรณีที่เป็นการป้องกันตัว

เหมือนกับ Carl Sinclair ที่เข้าใจแบบนั้น จึงได้ทำร้ายโจรที่เข้ามาขโมยรถในบ้าน แต่สุดท้ายเขากลับถูกจับในข้อหาทำร้ายร่างกาย!?

ในวันที่เกิดเหตุนั้น Carl เห็นคนร้ายกำลังจะเข้ามาขโมยรถของเขาที่จอดไว้ ขณะนั้นภรรยาและลูกๆ สามคนกำลังนอนอยู่ในบ้าน

 

 

ด้วยความเป็นหัวหน้าครอบครัวที่ต้องการปกป้องครอบครัวและทรัพย์สิน เขาจึงคว้าค้อนวิ่งออกไปข้างนอก ปะทะกับโจร ก่อนจะกดหัวเขาไว้กับพื้น

จากนั้นไม่นานเจ้าหน้าที่ตำรวจก็มาถึงที่เกิดเหตุ แต่แทนที่จะจับคนโจรไปดำเนินคดี กลับจับ Carl ในข้อหาทำร้ายร่างกายซะงั้น

เมื่อไปขึ้นศาล คณะลูกขุนได้ทำการพิจารณาคดีเพียงครึ่งชั่วโมงเท่านั้นแล้วตัดสินให้เขามีความผิดฐานทำร้ายร่างกาย นั่นทำให้เขาต้องเสียหน้าที่การงานไปทันที

 

 

แน่นอนว่า Carl ไม่เข้าใจกับการตัดสินในครั้งนี้ และเขามองว่าระบบความยุติธรรมช่างเป็นอะไรที่ตลกสิ้นดี “ผมไม่ใช่คนร้าย แต่ชีวิตผมกลับเปลี่ยนจากหน้ามือเป็นหลังมือเพราะคำตัดสินที่ไม่ยุติธรรมนี้ ผมเป็นพ่อ เป็นสามีธรรมดาคนหนึ่งที่แค่อยากทำหน้าที่ในฐานะหัวหน้าครอบครรัวที่คอยปกป้องครอบครัวที่ผมรัก”

แม้จะพยายามบอกเหตุผลให้ศาลฟังยังไงก็ไม่ได้ผล สุดท้ายเขาถูกตัดสินจำคุกเป็นเวลา 11 เดือน

 

 

ตลอดเวลาที่เขาอยู่ในคุกนั้น ภรรยาและลูกต้องอยู่กันอย่างยากลำบาก เพราะปกติแล้วเขาเป็นคนที่หารายได้ให้ครอบครัวใช้จ่ายในด้านต่างๆ นั่นทำให้ครอบครัวต้องสูญเสียบ้านไปเพราะไม่มีเงินจ่ายค่าบ้าน

แม้ว่าปัจจุบันจะออกจากคุกแล้ว แต่ Carl ยังเจ็บใจทุกครั้งที่คิดถึงเรื่องนี้ เขาบอกว่า “อะไรคือความยุติธรรม? ผมสู้กับโจรที่จะเข้าขโมยและจับเขาไว้ได้ แต่สุดท้ายคนที่ได้รับโทษกลับเป็นผม”

“ที่สำคัญคนร้ายที่พยายามจะเข้ามาในบ้านของผมนั้น ถูกจำคุกเพียง 8 สัปดาห์ ทั้งๆ ที่ ถ้าเขาเข้ามาโดยที่ผมไม่รู้ ลูกกับภรรยาอาจตกอยู่ในอันตรายก็ได้”

 

 

ทางด้านอัยการบอกแต่เพียงว่าพวกเขาแค่ทำตามหน้าที่และยอมรับในการตัดสินใจของคณะลูกขุนเท่านั้น…

ทุกวันนี้ Carl ยังคงหาคำตอบว่าทำไมศาลถึงตัดสินแบบนั้น เพราะเขาเชื่ออย่าง 100% ว่าไม่ได้ทำผิดอะไร และทุกคนที่รู้เรื่องนี้ก็เห็นตรงกันว่าเขาทำเพื่อป้องกันตัวเท่านั้น

 

ที่มา dailymail

Comments

Leave a Reply