ไฟไม้ น้ำท่วม แผ่นดินไหว ภัยพิบัติทางธรรมชาติ โรคระบาด… สิ่งเหล่านี้บางครั้งก็สร้างความเสียหายน้อยกว่าสิ่งที่มนุษย์กระทำต่อกัน
ย้อนกลับในช่วงต้นศตวรรษที่ 19 การเพาะปลูกฝ้ายทางภาคใต้ตอนล่างของสหรัฐฯ มีการเติบโตขึ้นมาก ส่งผลให้ความต้องการแรงงานทาสเพิ่มมากขึ้นด้วย
โดยเฉพาะปี 1815 การค้าทาสภายในประเทศกลายเป็นกิจกรรมทางเศรษฐกิจที่สำคัญในสหรัฐอเมริกา โดยมีกลุ่มนักธุรกิจผู้มีหน้ามีตาของสังคมได้มารวมตัวกันในจัตุรัสกลางเมือง ด้วยความตื่นเต้นที่จะซื้อมนุษย์เอาไปเป็นแรงงานทาส
ด้านบนเป็นภาพของทาสชาวอเมริกันที่หนีออกมาจากการถูกขัง หลังจากรอดมาได้พวกเขาก็ได้รวมตัวกัน ก่อนจะเข้าร่วมการชุมนุมใน Cumberland Landing รัฐเวอร์จิเนียในปี 1861 และในปีเดียวกันนี้ได้เกิดสงครามกลางเมืองขึ้น
ส่วนด้านล่างนี้เป็นภาพการประมูลทาสที่จัดขึ้นก่อนจะเกิดสงครามกลางเมือง ใน Easton รัฐแมริแลนด์ ราวๆ ปี 1850
อาคารที่มีป้ายโฆษณาการขายทาส “Auction and Negro sales” ตั้งอยู่บนถนน Whitehall ในเมืองแอตแลนตา เมื่อปี 1864 ก่อนที่ภาคใต้จะถูกโจมตีโดยฝ่ายเหนือและมีการปลดปล่อยทาสในปีถัดมา
ในยุคของการขายทาส รัฐเคนทักกี เทนเนสซี จอร์เจีย อลาบามา มิสซิสซิปปี้ หลุยเซียนา และเท็กซัส กลายเป็นจุดหมายปลายทางหลักในการเดินทางไปค้าทาส โดยมีทาสมากกว่า 250,000 คนที่ถูกขนส่งไปยังรัฐต่างๆ
ก่อนจะเปิดประมูลทาส ได้มีการทำโปสเตอร์โฆษณาเพื่อแจ้งให้ทราบว่าเรือทาสจะมาถึงเมื่อไหร่ จากนั้นก็จะทำการขายในตลาดนัดรายสัปดาห์หรือรายเดือนของรัฐนั้นๆ
เมื่อเรือทาสเข้าเทียบท่าในอเมริกาแล้ว ทาสจะถูกนำออกจากเรือแล้วให้เข้าไปอยู่ในกรง ก่อนจะลำเลียงไปยังลานตลาด
ส่วนภาพด้านล่างนี้เชื่อว่าเป็นการประมูลทาสที่จัดขึ้นที่ Cheapside เมือง Lexington รัฐเคนทักกี ซึ่งเป็นที่ตั้งของตลาดค้าทาสที่ใหญ่ที่สุดในภาคใต้
ในช่วงเวลานั้น เป็นช่วงที่อุตสาหกรรมเจริญรุ่งเรืองมาก ส่งผลให้พ่อค้าทาสต้องเลือกทาสที่ดีที่สุดเพื่อเสนอให้กับนักธุรกิจ โดยเชื่อว่ามันจะมีผลต่อการซื้อขายในอนาคตด้วย
ด้วยเหตุนี้จึงทำให้ทาสถูกขัดผิวและลวกด้วยน้ำมันร้อนก่อนการประมูลจะเริ่มขึ้น จึงไม่ใช่เรื่องแปลกหากร่างกายของพวกเขาจะเต็มไปด้วยรอยแผล
Price, Birch & Co เป็นตัวแทนจำหน่ายทาสในรัฐเวอร์จิเนีย ภายในอาคารนี้จะมีกรงที่ขังทาสเอาไว้ เพื่อรอการประมูล แต่ภายหลังอาคารนี้ถูกยืดครองโดยกองกำลังฝ่ายเหนือในช่วงสงครามกลางเมือง
ทาสจะถูกขายทอดตลาดในราคาประมูลสูงสุด ในการประมูลนั้นทาสที่ถูกจับทั้งครอบครัวอาจจะต้องแยกกัน เพราะผู้ประมูลบางคนไม่ได้ต้องการซื้อทาสทั้งครอบครัว แต่ต้องการคนที่แข็งแรงที่สุดเท่านั้น
กลุ่มทาสที่สวน Cassina Point บนเกาะ Edisto ในเซาท์แคโรไลนา ปี 1862
สำหรับทาสที่สุขภาพไม่ค่อยดีหรืออ่อนแอ พวกเขาจะถูกนำไปอยู่รวมกันเพื่อให้กลุ่มผู้ซื้อแย่งชิงกันเอง เพราะมีบางคนที่ต้องการมีแรงงานไว้รับใช้ให้มากที่สุดเท่าจะทำได้
ภาพด้านล่างนี้เป็นกลุ่มทาสที่อยู่ภายใต้การดูแลของกองกำลังของฝ่ายเหนือของสหรัฐอเมริกาในช่วงสงครามกลางเมือง ปี 1861 จะเห็นว่าพวกเขาค่อนข้างดูผ่อนคลาย เพราะไม่ต้องถูกกดขี่เหมือนตอนที่อยู่ในภาคใต้
ในการแย่งชิงทาสนั้น จะมีการยิงปืนขึ้นหนึ่งนัดเพื่อเป็นสัญญาณของการเริ่มต้นแย่งชิง โดยผู้ซื้อจะเข้าไปกระชากทาสแล้วเอากลับไปไว้ในกรงของตนเอง หลังจากนั้นทาสก็จะถูกเรียกด้วยชื่อย่อของเจ้าของคนใหม่
การโฆษณาสำหรับการประมูลทาส
สถานที่กักขังทาสภายในอาคาร Price, Birch & Co ก่อนนำไปประมูล
ทาสคนสุดท้ายที่ถูกขายในที่ขายในการประมูลสาธารณะ ถนน Main Street ใน Lexington รัฐเคนทักกี
ภายซ้ายคืออดีตตัวแทนจำหน่ายทาส Price Birch & Co ถ่ายเมื่อปี 1861 ส่วนภาพขวาคืออาคารที่ทำการโฆษณาการขายทาส Auction and Negro sales ถ่ายเมื่อปี 1864
แม้สหรัฐฯ จะยกเลิกระบบทาสไปตั้งแต่หลังจบสงครามกลางเมือง แต่ในหลายๆ พื้นที่ก็ยังคงมีทาสอยู่ อย่างเช่นประเทศเอธิโอเปียที่ยังมีทาสจนถึงปี 1942
ที่มา dailymail
Leave a Reply
You must be logged in to post a comment.