ครอบครัวเล่าประสบการณ์ขนหัวลุก กับการต่อสู้กับผีที่สิงอยู่ในบ้านตลอด 20 ปี!!

การเล่าประสบการณ์เกี่ยวกับผีสาง หรือสิ่งลี้ลับให้ใครสักคนฟังนั้น มักจะถูกมองว่าเป็นเรื่องตลก ไร้สาระ หากคนๆ นั้นไม่เคยประสบกับเรื่องพวกนี้

อย่างไรก็ตามอดีตนักการเมืองรัฐเพนซิลเวเนีย Bob Cranmer และครอบครัวยืนยันว่าพวกเขาถูกผีหลอกมาเป็นเวลา 20 ปี ตั้งแต่ที่ตัดสินใจซื้อเก่าๆ ราคาถูกหลังหนึ่ง

นี่อาจฟังดูตลก แต่พวกเขาเล่าว่าเจอเหตุการณ์น่าขนลุกนับครั้งไม่ถ้วน ทั้งหน้าต่างสั่นเอง ประตูปิดเอง จนทำให้การใช้ชีวิตในบ้านหลังใหญ่นี้กลายเป็นฝันร้ายที่ไม่อาจลืม

 

 

บ้านหลังนี้ตั้งอยู่ที่มุมถนนของ Sceneridge และ Brownsville เมืองพิตต์สเบิร์ก รัฐเพนซิลเวเนีย สหรัฐอเมริกา มันเป็นบ้านที่มีรูปทรงแปลกๆ ที่ Bob ชื่นชอบตอนเด็กๆ

หลังจากที่เขาทำงานและเก็บเงินได้ก้อนหนึ่ง Bob ก็ติดต่อซื้อบ้านหลังดังกล่าว แต่แปลกที่ผู้ขายตกลงขายทันทีโดยไม่ถามอะไรเลย ที่สำคัญมันมีราคาต่ำกว่าราคาตลาดด้วย

 

 

มองจากภายนอกก็ทำให้ Bob ภรรยาของเขา และลูกสาว Lisa รู้สึกว่ามันเป็นบ้านที่น่าอยู่มากเลยทีเดียว ไม่ว่าจะเป็นสีของบ้านและระเบียงขนาดใหญ่

นอกจากนี้มันยังเป็นบ้าน 3 ชั่นที่เหมาะสำหรับการอยู่เป็นครอบครัว ทั้งยังสามารถรองรับเพื่อนๆ หรือครอบครัวที่จะมาเยี่ยมได้อีกด้วย

แต่หลังจากที่ซื้อไปได้ไม่นาน กลับกลายเป็นว่ามันคือการตัดสินใจที่เลวร้ายที่สุดในชีวิตของ Bob…

 

 

เจ้าของบ้านคนใหม่เพิ่งจะรู้ประวัติที่น่ากลัวของบ้านหลังนี้ หลังจากที่ย้ายเข้าไปอยู่แล้วเรียบร้อย ตามประวัติเล่าว่าในช่วงปี 1700 ชนเผ่าพื้นเมืองอเมริกันถูกสังหารหมู่โดยคนผิวขาวในพื้นที่แห่งนี้

ต่อมาในปี 1909 มีการเล่าต่อกันว่าผู้ที่สร้างบ้านผู้เกรี้ยวกราดหลังนี้ได้ทำการสาปแช่งบ้านทั้งหลังด้วย นี่ยังไม่ใช่เรื่องแปลกที่สุดของประวัติบ้านหลังนี้

 

 

อีกทางหนึ่ง ว่ากันว่าในช่วงต้นศตวรรษที่ 20 มีนายแพทย์คนหนึ่งถูกกล่าวหาว่ามาเช่าห้องในบ้านหลังนี้ เพื่อเปิดทำแท้งเถื่อน โดยทำไปแล้วกว่า 100 ครั้ง ทั้งหมดนี้คือประวัติของบ้านผีสิงตามที่ครอบครัวทราบ

ตอนแรกที่เข้ามาดูบ้าน Bob และครอบครัวสัมผัสได้ถึงความผิดปกติทันที ยิ่งไปกว่านั้น อยู่ดีๆ ลูกชายตัวน้อยก็หายไป เจออีกทีอยู่ตรงหัวบันได และกำลังร้องไห้เหมือนกำลังกลัวอะไรซักอย่าง

 

 

แต่ในที่สุด พวกเขาก็ตัดสินใจย้ายเข้ามาอยู่ในบ้านหลังนี้ และแล้วประสบการณ์ขนหัวลุกก็เกิดขึ้น เริ่มจากวิทยุเปิดเอง ไฟกระพริบ น้ำจากก๊อกไหลและหยุดเองเป็นระยะๆ

พวกเขาต้องอยู่กับสถานการณ์แบบนี้มานานนับ 10 ปี แต่ก็ไม่มีอะไรน่ากลัวเกินจะรับได้ กระทั่งปี 2003 พวกเขาก็ประสบกับความหลอนในแบบที่ไม่เคยเจอมาก่อน

 

 

Bob เล่าว่า “เราตื่นขึ้นมาพร้อมกับรอยขีดข่วนตามร่างกาย และเป็นแบบนี้เป็นประจำ ยิ่งไปกว่านั้นเรามักจะยินบางอย่างทุบกำแพงในเวลากลางคืน”

เรื่องนี้ได้รับการยืนยันจาก Ryan Ruell ผู้มีประสบการณ์ในการล่าท้าผี เขาบอกว่าบ้านของ Bob เป็นหนึ่งในบ้านที่น่ากลัวที่สุดเท่าที่เขาเคยเจอมา

“ไม้กางเขนที่ทำด้วยโลหะล้มลงมาหักต่อหน้าต่อตาผม และยังมีของเหลวแปลกๆ ที่เหมือนเลือดไหลออกมาจากผนัง” Ryan กล่าว

 

 

จะบอกว่าพวกเขาคิดไปเองก็ไม่เชิง เพราะนักวิทยาศาสตร์ได้เข้ามาพิสูจน์ของเหลวที่ไหลมาจากผนัง แต่ไม่สามารถบอกได้ว่ามันคืออะไร นั่นทำให้ครอบครัวหมดหวังที่จะแก้ปัญหาเรื่องเลวร้ายเหล่านี้

ต่อมา Bob ก็ตัดสินไปปรึกษา Adam Blai ผู้เป็นหมอผี ซึ่งเขาคนนั้นมีความรู้สึกว่ามีบ้านหลังนี้มีความผิดปกติบางอย่างเหมือนกัน โดยเฉพาะในตู้เสื้อผ้า!!

 

 

Adam ได้เข้าไปสำรวจในตู้เสื้อผ้า แล้วลองกรีดปูนปลาสเตอร์ที่อยู่ข้างในนั้น ปรากฏว่ากำแพงนั้นไม่เคยถูกแตะต้องตั้งมีการสร้างบ้านนี้มา

นอกจากนี้เขายังพบข้าวของของทุกคนที่เคยอาศัยอยู่ในบ้านหลังนี้ รวมทั้งภาพสเก็ตของเจ้าของบ้านคนเก่าในปี 1909 โดยไม่มีร่องรอยของการเคลื่อนย้ายใดๆ

 

 

หลังจากเจอเรื่องแปลกมาแล้วมากมาย ในที่สุดผีร้ายนั้นก็ปรากฏตัวให้ครอบครัวได้เห็น Bob เล่าว่ามันเป็นเงาดำๆ มีกลิ่นอับ แล้วมันก็ลอยเข้ามาในบ้าน

หลังจากเหตุการณ์ครั้งนั้น ทำให้ลูกชายสองคนของ Bob ต้องไปรักษาสภาพจิตใจที่โรงพยาบาลจิตเวช ส่วนภรรยาก็เข้าออกโรงพยาบาลดังกล่าวเป็นเวลาหลายสัปดาห์เหมือนกัน

 

 

ครั้งหนึ่งลูกเขยของเขาเคยเจอเงาดำๆ ลอยเข้ามาบนหัวเตียง และเขาก็คุยกับเงานั้น จนมันจางหายไปต่อหน้าต่อตา

ตั้งแต่นั้นมา ครอบครัวจะได้ยินเสียงดังออกมาจากกำแพงในช่วงเวลากลางคืนตลอด ในที่สุดพวกเขาคิดว่าถึงเวลาที่ต้องเอาคืนบ้างแล้ว

 

 

Bob ได้เรียกหมอผีมาทำพิธีในบ้าน จากนั้นสวดภาวนากันตลอดทั้งคืน หวังจะไล่ผีออกจากบ้าน แต่ปรากฏว่าเมื่อตื่นเช้าขึ้นมา พวกเขายังมีรอยขีดข่วนรอยใหม่เพิ่มมาอีก

อย่างไรก็ตาม ครอบครัวยังคงทำตามคำแแนะนำของหมอผีไปเรื่อยๆ พวกเขานั่งสวดตามคัมภีร์ทุกคืนเป็นเวลากว่า 2 ปี กระทั่งปี 2006 ความเปลี่ยนแปลงก็มาถึง

 

 

Bob บอกว่า “หลังจากที่เราสวดตามคัมภีร์มา 2 ปี ดูเหมือนผีร้ายจะหนีออกจากไปแล้ว” นั่นทำให้ครอบครัวรู้สึกว่าได้รับอิสระกลับคืนมาอีกครั้ง

“หลายคนอาจจะไม่เชื่อเรื่องพวกนี้ แต่มันคือสิ่งที่ครอบครัวเราพบเจอ และผมบอกได้เลยว่ามันมีอยู่จริง เพราะเราเคยประสบกับมันมาแล้ว”

 

 

ตั้งแต่ที่เชื่อว่าผีหนีออกจากบ้านไปแล้ว ครอบครัวได้ตัดสินใจที่อยู่ในบ้านหลังนี้ต่อไป อาจจะผวาอยู่บ้าง แต่พวกเขาก็สามารถนอนหลับได้โดยไม่ต้องกังวลเหมือนเมื่อก่อนอีกแล้ว

 

.

.

.

.

 

ที่มา boredomtherapy

Comments

Leave a Reply