ในประเทศญี่ปุ่น การสืบทอดธุรกิจที่ครอบครัวสร้างขึ้นมาถือว่าเป็นเรื่องสำคัญ อีกทั้งวัฒนธรรมของชาวญี่ปุ่นคือผู้ที่จะมารับมรดกนั้นไปได้จะต้องเป็นผู้ชายเท่านั้น แล้วถ้าบ้านไหนมีแต่ลูกสาวล่ะจะทำยังไง? ด้วยเหตุนี้จึงทำให้เกิดสิ่งที่เรียกว่าการรับชายวัยผู้ใหญ่เข้ามาเป็นบุตรบุญธรรม
จากเหตุผลที่ว่าครอบครัวส่วนใหญ่ในญี่ปุ่นเลือกที่จะมีลูกแค่คนเดียว ทำให้ครอบครัวเจ้าของธุรกิจจำนวนมากขาดทายาทผู้ชายที่จะเข้ามาสืบทอดกิจการของพวกเขา จึงได้เกิดวิธีการรับผู้ชายที่มีอายุอยู่ในช่วง 20 หรือ 30 ปีเข้ามาเป็นบุตรบุญธรรมเพื่อรับมรดกนั้นไป
สิ่งที่เกิดขึ้นนี้ก็ได้รับความนิยมอย่างมากในประเทศญี่ปุ่น สังเกตได้จากสถิติการรับเลี้ยงบุตรบุญธรรมในปี 2016 ที่สูงถึง 81,000 คน โดย 90 เปอร์เซ็นต์ของทั้งหมดนั้นเป็นการรับเลี้ยงผู้ใหญ่
ไม่ใช่เพียงเหตุผลที่ว่ามีแค่ลูกสาว เพราะบางครอบครัวที่มีลูกชายก็ยังคงใช้วิธีรับเลี้ยงผู้ใหญ่บุญธรรมเข้ามา เพราะว่าลูกชายของพวกเขาอาจไม่มีประสิทธิภาพหรือความรับผิดชอบที่มากพอในการรับธุรกิจของครอบครัวไปดูแล
หนึ่งในบุตรบุญธรรมที่ถูกรับเลี้ยงมาให้สืบทอดธุรกิจของครอบครัวหนึ่ง
แต่นั่นก็ไม่ได้หมายความว่าลูกๆ ที่แท้จริงของพวกเขาจะไม่มีหน้าที่ในมรดกนั้นเสมอไป เพราะส่วนใหญ่แล้วลูกสาวของครอบครัวจะได้รับการสั่งสอนและอบรมมาอย่างดีเกี่ยวกับธุรกิจของที่บ้าน จากนั้นพวกเธอก็จะได้แต่งงานกับบุตรบุญธรรมที่รับเข้ามาสืบทอดธุรกิจนั้นๆ แล้วทั้งคู่ก็จะสามารถช่วยกันบริหารได้อย่างดี
เมื่อเป็นอย่างนั้นก็ไม่ต่างกับการคลุมถุงชนหรือเปล่า? จากคำตอบของ Chieko Date ผู้ทำการจับคู่ในลักษณะนี้มานานกว่า 10 ปีได้บอกเอาไว้ว่า ก่อนที่หนุ่มสาวจะได้มาเจอกัน ครอบครัวเจ้าของธุรกิจที่มาใช้บริการกับเธอจะเป็นคนกำหนดความต้องการทุกอย่างว่าอยากได้บุตรบุญธรรมที่มีคุณสมบัติอย่างไรบ้าง
พวกเขาจะตรวจสอบข้อมูลของผู้ชายคนนั้นอย่างละเอียด เพื่อดูว่าไม่มีหนี้สินติดตัวมาและต้องไม่เป็นเกย์ จากนั้นลูกสาวของพวกเขากับชายหนุ่มถึงจะได้มาเจอกัน
และหากว่าพูดคุยกันไม่ถูกคอ ก็สามารถทำการยกเลิกการรับบุตรบุญธรรมคนนี้เพื่อหาคนใหม่ได้ จนกว่าจะเจอคนที่ถูกใจและแต่งงานกันในที่สุด โดยการแต่งงานนั้นฝ่ายชายจะต้องเป็นคนเปลี่ยนนามสกุลเพื่อการสืบทอดธุรกิจของครอบครัวฝ่ายหญิงต่อไป
Chieko Date ผู้เป็นแม่สื่อให้กับการแต่งงานเพื่อให้มีคนหนุ่มเข้ามาบริหารธุรกิจ
การแต่งงานในรูปแบบนี้เรียกว่า Mukoyoshi ซึ่งเป็นสิ่งที่ Chieko ได้ทำหน้าที่เป็นสื่อกลางมาอย่างยาวนาน เธอบอกว่าได้พูดคุยกับผู้ชายที่เข้ามาสมัครเป็นบุตรบุญธรรมมากกว่า 20,000 คน และช่วยให้เกิดการแต่งงานที่สำเร็จลุล่วงไปอีกกว่า 600 คู่
เธอบอกอีกว่ามีเพียงชายหนุ่มระดับท็อปคลาสเท่านั้นที่เธอได้เป็นแม่สื่อให้ และที่สำคัญก็คือหนุ่มสาวทุกคู่ที่แต่งงานไปด้วยกันไม่เคยได้ยินว่าหย่ากันเลยแม้แต่คู่เดียว
ข่าวที่พูดถึงการรับเลี้ยงบุตรบุญธรรมที่เป็นผู้ใหญ่
ธุรกิจใหญ่ๆ ที่ใช้วิธีการรับบุตรบุญธรรมนี้ก็อย่างเช่น บริษัท Suzuki ที่ก่อตั้งขึ้นมาตั้งแต่ปี 1909 และเป็นผู้ผลิตรถยนต์ที่ใหญ่เป็นอันดับ 9 ของโลก ผู้สืบทอดคนปัจจุบันก็คือ Osamu Suzuki ซึ่งเขาเป็นลูกบุญธรรมคนที่ 4 ที่ใช้วิธีการดังกล่าวในการเข้ามาดูแลธุรกิจของครอบครัว Suzuki
Osamu Suzuki บุตรบุญธรรมของครอบครัว ผู้เข้ามาสืบทอดกิจการ
ความแตกต่างในเรื่องของวัฒนธรรมและความเชื่อที่ว่าผู้ชายต้องเป็นคนบริหารกิจการในบ้าน ก็ทำให้เราได้เห็นถึงวิธีการแก้ปัญหาแปลกๆ ของพวกเขาที่ไม่รู้ว่าในอนาคตบ้านเราจะเป็นแบบนี้บ้างมั้ยนะ
ที่มา: independent
Leave a Reply
You must be logged in to post a comment.