ไม่ตลก.. สาวมหาลัยอ้างตัวเป็นเด็กที่หายไปเมื่อ 10 ปีก่อน ทั้งๆ ที่พ่อแม่กำลังรอคอยความจริง

Madeleine McCann คือเด็กสาวชาวโปรตุเกสวัย 4 ขวบที่หายตัวไปตั้งแต่ปี 2007 และพ่อแม่ของเธอก็กำลังรอคอยปาฏิหาริย์ที่จะได้เจอเธออีกครั้งหนึ่ง ผ่านมา 10 ปีเรื่องของเธอได้กลายเป็นกระแสขึ้นมาอีกครั้งหลังจากที่สาวมหาลัยในเมืองแมนเชสเตอร์ ประเทศอังกฤษ อ้างตัวว่าเธอคือเด็กสาวที่หายไป

เมื่อวันที่ 25 พฤศจิกายน 2017 สำนักข่าว Daily Mail ได้พูดถึง Harriet Brookes สาวมหาลัยผู้กล่าวอ้างในครั้งนี้ โดยเธอได้พูดติดตลกกับเพื่อนของเธอในห้องแชท ก่อนที่ Lizzie เพื่อนสนิทเธอคนนั้นจะนำเรื่องที่เธอพูดไปโพสต์ลงในโลกโซเชียล

 

ภาพซ้ายคือเด็กที่หายตัวไป ภาพขวาคือสาวมหาลัยที่อ้างตัวว่าเป็นเด็กคนนั้น

 

โพสต์ดังกล่าวได้ถูกแชร์ออกไปมากกว่า 30,000 ครั้งและได้เป็นกระแสที่โด่งดังอย่างมากในโลกโซเชียล เพราะตำหนิบนร่างกายของสาวมหาลัยคนนี้ก็ตรงกับเด็กที่หายไปอย่างมาก ทั้งจุดบนดวงตา หรือแม้แต่มีจุดเล็กๆ ตรงขาของเธอ

 

เธอบอกกับเพื่อนในแชทว่าสีของดวงตาและรอยตำหนิตรงขามันตรงกับข้อมูลเป๊ะๆ

 

ในตอนแรกก็มีหลายคนที่เชื่อในมุกตลกของเธอและติดต่อไปหาเป็นการส่วนตัว แต่สุดท้ายทุกคนก็เข้าใจว่านี่ไม่ใช่เรื่องจริงเพราะในเวลานี้เด็กน้อย Madeleine ควรจะต้องอายุแค่ 14 ปี ไม่มีทางเป็นเด็กมหาลัยคนนี้อย่างแน่นอน

และการเล่นตลกในครั้งนี้ก็ได้ทำให้ชาวเน็ตบางส่วนรู้สึกไม่พอใจอย่างมากที่เธอนำเรื่องของเด็กที่หายตัวไปมาพูดเล่นๆ มีคอมเมนต์หนึ่งที่พูดว่า “เธอเป็น Madeleine ตัวจริงหรือเพียงแค่ต้องการปั่นหัวคนอื่นไปเรื่อยกันแน่”

 

ในแชท เธอยังคงพูดตลกๆ กับเพื่อนว่าเธอคือเด็กคนนั้นจริงๆ และไม่รู้จะทำอย่างไรต่อไปดี

 

จากกระแสการถูกวิพากษ์วิจารณ์จำนวนมาก Harriet ก็ได้ออกมาอธิบายให้ทุกคนเข้าใจว่า เธอกลับไปดูรูปภาพเก่าๆ แล้วคิดว่าเธอดูเหมือนเด็กคนนั้นมากจริงๆ แต่สิ่งที่เกิดขึ้นเป็นเพียงการเล่นตลกกับเพื่อนของเธอเท่านั้น เธอไม่คิดมาก่อนว่าเพื่อนของเธอจะเอาไปโพสต์และกลายเป็นกระแสที่โด่งดังมากขนาดนี้

ส่วนเรื่องของการตามหาตัวเด็กน้อย Madeleine ก็ยังคงดำเนินการกันต่อไป ด้วยความพยายามอย่างหนักของเจ้าหน้าที่ตำรวจ หวังว่าเธอจะได้กลับมาเจอกับพ่อแม่ของเธออีกครั้งหนึ่งนะ

 

อพาร์ตเมนต์ที่เกิดเหตุการณ์เด็กน้อย Madeleine หายตัวไป ในประเทศโปรตุเกส

 

ในปัจจุบันสื่อโซเชียลมีอิทธิพลต่อเราอย่างมาก เพราะฉะนั้นการที่จะโพสต์อะไรลงไปก็ควรไตร่ตรองให้ดีก่อน ว่าเรื่องนั้นๆ เหมาะสมกับการปล่อยไปในที่สาธารณะหรือไม่ จะได้ไม่ต้องถูกวิพากษ์วิจารณ์เหมือนกับสิ่งที่เธอคนนี้ต้องเจอ

 

ที่มา: dailymail , thetab

Comments

Leave a Reply