เป็นเวลาหลายสิบปีที่ผู้หญิงคีร์กีซสถานได้รับความเดือดร้อนจากการใช้ความรุนแรงภายในครอบครัว พวกเขาถูกบังคับให้แต่งงานตั้งแต่เด็ก การลักพาตัวเจ้าสาว ที่สำคัญคือถูกละเว้นไม่ให้มีบทบาทในรัฐสภา
ด้วยเหตุนี้ Aida Kasymalieva วัย 33 ปี สมาชิกรัฐมนตรีหญิงที่อายุน้อยที่สุดในคีร์กีซสถานจึงได้ออกมาพูดถึงปัญหาที่ผู้หญิงต้องเผชิญ เพื่อทำให้เกิดความเท่าเทียมโดยไม่แบ่งแยกเพศ
อย่างไรก็ตาม หลังจากที่เธอได้พูดถึงปัญหาต่างๆ ของผู้หญิงในประเทศไปแล้ว เพื่อนร่วมงานชายทั้งหลายกลับปฏิเสธที่จะให้ความร่วมมือในเรื่องนี้
ก่อนหน้านี้ Kasymalieva เคยรายงานปัญหาเรื่องเดิมๆ ของผู้หญิงมานานกว่า 10 ปี และเธอมักจะตั้งประเด็นให้ผู้คนคิดถึงผลกระทบที่ผู้หญิงได้รับ ทั้งการถูกบังคับแต่งงานและการลักพาตัว
เธอบอกว่า “เวลาถกปัญหาเรื่องงาน เรื่องทุน เรื่องถนน สมาชิกสภาผู้ชายจะนั่งอยู่ในห้องปกติ แต่พอเราเริ่มเข้าประเด็นความเท่าเทียมทางเพศพวกเขาจะลุกขึ้นและเดินออกจากห้องประชุมไป เห็นได้ชัดว่าพวกเขาไม่นึกถึงความรุนแรงภายในประเทศและการลักพาตัว”
ตราบใดที่สมาชิกสภาชายยังคงมีปฏิกิริยาเช่นนี้ การแก้ปัญหาเรื่องการใช้ความรุนแรงต่อผู้หญิงก็คงต้องมีให้เห็นต่อไป เพราะการเพิกเฉยเท่ากับเป็นการส่งเสริมอย่างหนึ่ง
Kasymalieva เข้าใจดีว่าความไม่แยแสของผู้ชายไม่สามารถเปลี่ยนแปลงได้ในชั่วข้ามคืน แต่เธอย้ำว่าในฐานะที่เป็นนักการเมืองหญิงของคีร์กีซสถาน เธอจะทำให้เกิดการเปลี่ยนแปลงให้ได้
นอกจากนี้ Kasymalieva ยังหวังว่าเธอกับเพื่อนร่วมงานหญิงจะทำงานร่วมกันได้ เพื่อให้บรรลุผลตามที่ต้องการ
ปัจจุบันคีร์กีซสถานมีสมาชิกสภาหญิง 23 คน จากทั้งหมด 120 คน ซึ่งเป็นผลมาจากการเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่ในสภาเมื่อปี 2005 หลังจากมีการเรียกร้องให้ผู้หญิงเข้ามามีบทบาททางการเมือง
อย่างไรก็ตาม เมื่อผู้หญิงได้รับเลือกเข้ามาทำหน้าที่ผ่านระบบการเลือกตั้งแล้ว พวกเขามักจะถูกบีบให้ลาออกจากตำแหน่ง
ทั้งนี้ได้มีการแก้ไขกฎหมายเลือกตั้งในช่วงเดือนมิถุนายนที่ผ่านมา โดยระบุว่าหากสมาชิกสภาลาออกหรือพ้นตำแหน่ง คนที่ใหม่ที่จะเข้ามาแทนต้องเป็นเพศเดียวกับคนที่ออกไป
การพัฒนาดังกล่าวนี้ส่งผลให้ความรุนแรงในและการลักพาตัวเจ้าสาวในปี 2013 ลดลง แม้ว่าทั้งสองปัญหานี้จะยังคงมีให้เห็นจนถึงทุกวันนี้ก็ตาม
Kasymalieva บอกว่า “เรามีบทลงโทษที่แน่นอนสำหรับความผิดในการลักพาตัว แต่มันได้ผลน้อยมาก เพราะแม้ว่าผู้หญิงจะหนีจากการลักพาตัวได้ แต่เมื่อไปถึงสถานีตำรวจ พวกเธอมักจะบอกว่าเป็นความผิดของตัวเอง”
ในปี 2015 คณะกรรมการว่าด้วยการขจัดการเลือกปฏิบัติต่อสตรี (CEDAW) รายงานว่า “การลักพาตัวเจ้าสาวดูเหมือนจะกลายเป็นสิ่งถูกกฎหมายในสังคม เพราะเหยื่อเลือกที่จะไม่เอาเรื่อง คนร้ายได้รับการละเว้นโทษ และมีอีกหลายกรณีที่ไม่ได้รับการรายงาน”
ขณะนี้ประเทศคีร์กีซสถานยังไม่มีตัวเลขที่แน่ชัดเกี่ยวกับการลักพาตัวเจ้าสาว แต่จากการศึกษาพบว่าครึ่งหนึ่งของการแต่งงานในประเทศเป็นผลมาจากการถูกบังคับโดยที่ผู้หญิงไม่ยินยอม
ทั้งนี้จากข้อมูลของ Women Support Center ตั้งแต่ปี 2013 พบว่าทุกๆ ปี ผู้หญิงและเด็กถูกลักพาตัวอย่างน้อย 11,800 คน โดย 2,000 คนอ้างว่าถูกข่มขืน
ดังนั้นหากไม่ได้รับการแก้แก้ไข ปัญหานี้ก็ยังคงเป็นปัญหาหลักของประเทศคีร์กีซสถานต่อไปเรื่อยๆ และผู้หญิงก็จะตกเป็นเหยื่ออย่างไม่มีสิ้นสุด
ที่มา nextshark
Leave a Reply
You must be logged in to post a comment.