ในอดีตเรามักจะได้ยินเรื่องราวความโหดร้ายที่ปฏิบัติต่อชนชั้นที่เรียกว่า ‘ทาส’ แต่รู้หรือไม่ว่าในปัจจุบันแม้ว่าจะมีการเลิกทาสในประเทศต่างๆ แล้ว แต่ในบางประเทศก็มีการปฏิบัติต่อเพื่อนมนุษย์ด้วยความทารุณที่ไม่แตกต่างกันเลย
Femi Fani-Kayode อดีตรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการบินของประเทศไนจีเรีย ออกมาเปิดเผยว่ากว่า 75% ของอวัยวะที่ซื้อขายกันในแอฟริกาเหนือมาจากผู้อพยพและผู้ลี้ภัยในประเทศของเขา และหลังจากที่คนเหล่านั้นถูกควักอวัยวะออกจนหมดแล้วแล้วก็จะถูกนำไปเผาทิ้งเพื่อทำลายหลักฐาน
Femi Fani-Kayode อดีตรัฐมนตรีของประเทศไนจีเรีย
“การเผาทั้งเป็น คือสิ่งที่ชาวลิเบียทำกับชาวแอฟริกาใต้สะฮารา นอกจากนี้พวกเขาบางส่วนยังถูกขายไปเป็นแรงงานทาส ซึ่งบางคนก็ถูกฆ่าเพื่อเอาอวัยวะไปขาย บางคนก็ต้องใช้แรงงานไปจนกว่าจะตาย” Femi กล่าว
Fani-Kayode เขียนเรื่องราวเหล่านี้ในทวิตเตอร์ของเขา โดยเขาได้พูดถึงเหตุการณ์การโค่นล้มอำนาจประธานาธิบดี Muammar Gaddafi รวมถึงการกล่าวโจมตีประธานาธิบดี Muhammadu Buhari ของประเทศไนจีเรีย ที่ทำเป็นนิ่งเฉยเกี่ยวกับเรื่องนี้
ภาพการอพยพผู้ลี้ภัยบางส่วนจากประเทศลิเบียที่ได้รับการช่วยเหลือจากสหภาพยุโรป
และเรื่องน่าตกใจอีกอย่างหนึ่ง เกี่ยวกับการซื้อขายผู้อพยพและผู้ลี้ภัยที่เป็นเหยื่อของการกระทำดังกล่าวก็คือ ชีวิตของพวกเขาหนึ่งคนมีค่าแค่เพียง 665 ปอนด์(ประมาณ 29,000 บาท) เท่านั้นเอง
ประเทศลิเบียกลายเป็นดั่งขุมนรกบนดิน หลังจากที่ประธานาธิบดี Gaddafi ถูกโค่นล้มไปเมื่อปี 2011 จนทำให้ประชาชนในประเทศต่างหาทางอพยพไปยังประเทศอื่นเพื่อหาคุณภาพชีวิตที่ดีกว่า
บางคนยังต้องตกเป็นเหยื่อของการค้ามนุษย์อยู่
ในตอนนี้ยังมีผู้อพยพอีกมากในประเทศลิเบีย และส่วนมากมาจากตอนใต้ของประเทศแอฟริกาที่ยังรอคอยความหวังจะไปเริ่มต้นชีวิตใหม่ แต่สิ่งแรกที่พวกเขาอยากได้มากที่สุดในตอนนี้ ก็คือการออกจากประเทศลิเบียและไปตั้งต้นใหม่ที่อีกฟากหนึ่งของทะเลเมดิเตอร์เรเนียน
ที่มา: dailymail
Leave a Reply
You must be logged in to post a comment.