ในโลกนี้คงไม่มีใครอยากจากเสียชีวิตทั้งๆ ยังอายุน้อย แต่ด้วยข้อจำกัดในชีวิต ทำให้หลายๆ คนเลือกที่จะไปมากกว่าการมีอยู่ชีวิต
เหมือนกับ Li Xiaoqing เด็กสาววัย 14 ปี จากประเทศจีนคนนี้ที่ตัดสินใจบอกพ่อแม่ให้หยุดรักษาเธอ หลังทั้งคู่นำเงินเก็บมารักษาเธอจนหมดตัวแถมยังเป็นหนี้ด้วย
เด็กสาวบอกกับพ่อแม่ผู้น่าสงสารที่กำลังร้องไห้ว่า “ปล่อยหนูไปเถอะ หนูไม่อยากเป็นภาระให้พ่อกับแม่อีกแล้ว”
ตามรายงานจากสื่อจีนระบุว่า Xiaoqing ได้รับการวินิจฉัยว่าเป็นมะเร็งตับชนิดหายากเมื่อเดือนพฤษภาคม ปี 2014 ที่สำคัญมะเร็งของเธออยู่ในระยะสุดท้ายแล้ว
เด็กสาวมีพื้นเพมาจาก Nanle County มณฑลเหอหนานของประเทศจีนตอนกลาง เธออาศัยอยู่กับพ่อแม่ พี่ชาย น้องสาว และย่าของเธอในฟาร์ม
อย่างไรก็ตามแพทย์จากโรงพยาบาลใน Puyang ที่อยู่ใกล้ Nanle County ที่สุด แจ้งกับทางครอบครัวว่าไม่สามารถรักษาโรคให้เด็กสาวได้ เนื่องจากมีเครื่องมือที่ไม่เพียงพอ และแนะนำให้ไปหาหมอที่โรงพยาบาลในกรุงปักกิ่งแทน
พ่อแม่ของ Xiaoqing จึงตัดสินใจพาเธอไปยังเมืองหลวงของประเทศที่อยู่ห่างออกไปถึง 510 กิโลเมตร หรือขับรถไปประมาณ 5 ชั่วโมง
หลังจากที่ตรวจประเมินโรคของ Xiaoqing แล้ว คุณหมอได้แนะนำให้เธอเข้ารับการทำเคมีบำบัดเป็นอันดับแรก เนื่องจากเนื้องอกของเธอโตเกินไป และจะทำการผ่าตัดได้ต่อเมื่อเนื้องอกเล็กลงเท่านั้น
พ่อกับแม่ยอมรับข้อเสนอนั้นทันทีโดยไม่ลังเล แต่แทนที่รักษาในกรุงปักกิ่งที่มีราคาค่อนข้างแพง คุณหมอได้แนะนำให้พวกเขาพาลูกสาวไปรักษาที่โรงพยาบาลใน Puyang เพราะมีค่าใช้จ่ายถูกกว่า
Xiaoqing ต้องลาออกจากโรงเรียนเพื่อรับการรักษาด้วยเคมีบำบัด ซึ่งทำมาแล้วถึง 5 ครั้ง ตั้งแต่วันที่ถูกส่งตัวยัง Puyang
แต่น่าเศร้าที่สภาพร่างกายของเธอแย่ลง จนพ่อแม่ต้องพาเธอไปที่โรงพยาบาลในปักกิ่งอีกครั้ง เพื่อรับการรักษาในขั้นที่ดีกว่า
Xiangping ผู้เป็นพ่อเป็นสมาชิกครอบครัวคนเดียวที่หาเงินมาเลี้ยงดูครอบครัว เขามีอาชีพเป็นชาวนาและทำงานพาร์ตไทม์เป็นช่างเชื่อม
ขณะที่ลูกสาวรักษาตัวอยู่ในโรงพยาบาล คุณพ่อต้องนอนในพุ่มไม้หรือทางเดินใต้ดินเป็นเวลากว่าหนึ่งเดือนเพื่อประหยัดเงิน
ความโชคร้ายยังถาโถมเข้ามาซ้ำเติมอีก เมื่อมีอยู่ครั้งหนึ่งกระเป๋าเดินทางและผ้านวมของเขาถูกขโมยขณะที่นอนหลับอยู่ในพื้นที่กลางแจ้ง
จากเหตุการณ์ครั้งนั้น Xiangping และภรรยาจึงตัดสินใจเช่าห้องเล็กๆ ในชานเมือง ซึ่งต้องใช้เวลา 2 ชั่วโมงกว่าจะถึงโรงพยาบาลที่ลูกอยู่ โดยผู้เป็นพ่อจะรับงานทุกอย่างที่ได้เงินมา
สำหรับ Xiaoqing จะเข้าไปอยู่ในโรงพยาบาลเฉพาะตอนที่ต้องรับการรักษาเท่านั้น ส่วนช่วงที่พักจากการรักษาก็กลับไปอยู่กับพ่อแม่ในแฟลตเล็กๆ ที่เช่าอยู่
ตามรายงานระบุว่าเด็กสาวเข้ารับเคมีบำบัด 20 ครั้ง ระหว่างเดือนพฤศจิกายน 2015 ถึงเดือนพฤศจิกายนปี 2017 ซึ่งครอบครัวต้องจ่ายเงินค่ารักษามากกว่า 1.4 ล้านบาท
กระทั่งวันที่ 21 พฤศจิกายนที่ผ่านมา Xiaoqing พบว่าร่างกายของเธอไม่ดีขึ้นเลย และต้องทำเคมีบำบัดอีกครั้งในเร็วๆ นี้ ยิ่งไปกว่านั้น เธอเห็นพ่อแม่ร้องไห้เพราะพวกเขาเหลือเงินไม่พอที่จะจ่ายค่ารักษา
เด็กสาวจึงตัดสินใจกอดพ่อแม่กับแม่และบอกกับพวกเขาว่า “พ่อ หนูไม่อยากทำเคมีบำบัดอีกแล้ว ครอบครัวของเรามีเงินไม่พอ อีกอย่างตอนนี้พ่อแม่มีหนี้มากมายที่ไม่รู้จะจ่ายคืนหมดเมื่อไหร่”
“ดังนั้นขอร้อง ปล่อยหนูไปเถอะ หนูไม่อยากเป็นภาระให้พ่อกับแม่ และถึงไม่มีหนู พ่อกับแม่ก็ยังมีพี่ชายกับน้องสาวอยู่”
จากนั้นทั้งสามก็กอดกันร้องไห้ในอ้อมแขนของกันและกัน ขณะที่พ่อของ Xiaoqing ยืนยันว่าพวกเขาจะรักษาลูกต่อไป ไม่ว่าสถานการณ์จะยากลำบากแค่ไหน
เพื่อช่วยเหลือครอบครัวของเด็กสาว อาสาสมัคร Tencent Charity ในประเทศจีนจึงเปิดเพจรับบริจาคจนตอนนี้มีเงินเข้ามามากกว่า 300,000 บาทแล้ว ซึ่งเป้าหมายอยู่ 2.4 ล้านบาท
ที่มา dailymail
Leave a Reply
You must be logged in to post a comment.