สาวเป็นโรคผมร่วง กล้ายอมรับในสิ่งที่ตัวเองเป็น จนได้รับการเซ็นสัญญานางแบบ

คุณอาจจะใส่วิกผมเพราะต้องการความสวยงาม หรือเปลี่ยนลุคเปลี่ยนสไตล์ใหม่ๆ ให้ดูแตกต่างไปจากเดิม แต่สำหรับ Therese Hansson สาววัย 26 จากเมืองมัลโม่ ประเทศสวีเดน คนนี้ เธอกลับสวมวิกเพื่อปกปิดความอาย และไม่อยากให้ใครรู้ว่าเธอเป็นคนหัวล้าน จะมีก็แต่ครอบครัวและเพื่อนสนิทของเธอเท่านั้นที่รับรู้เรื่องนี้

 

 

และเรื่องราวของ Therese ได้ถูกนำมาเปิดเผยผ่านทางสำนักข่าวต่างประเทศในวันที่ 3 ธันวาคม 2560 โดยระบุว่า ย้อนเวลากลับไปเมื่อ 12 ปีก่อน เมื่อครั้งที่ Therese อายุได้เพียง 14 ปี เธอได้สังเกตเห็นว่าเส้นผมของเธอร่วงหล่นเป็นจำนวนมากขณะที่กำลังยืนหวีผมอยู่หน้ากระจก

และเมื่อลองมัดผมหางม้า เธอก็พบว่า เส้นผมบริเวณหน้าผากได้หายไปกระจุกหนึ่ง

 

 

“ในตอนนั้นฉันกำลังเป็นเด็กอยู่ และรู้สึกเป็นกังวลอย่างมากว่าตัวเองจะเป็นโรคมะเร็ง เพราะอย่างที่รู้ๆ กันอยู่ว่าผู้ป่วยมะเร็งจะมีอาการผมร่วงอย่างหนัก และสูญเสียเส้นผมไปหลังจากที่ได้รับการรักษาด้วยการทำเคมีบำบัด…

มีแค่ครอบครัวของฉันเท่านั้นที่รู้เรื่องนี้ และหลังจากนั้นเมื่อเวลาผ่านไป 1 ปี เส้นผมของฉันก็เริ่มหายไปทีละน้อย ซึ่งมันทำให้ฉันได้ตัดสินใจที่จะเริ่มบอกเพื่อนสนิทถึงอาการผมร่วงของฉัน” Therese กล่าว

 

 

นอกจากนี้ Therese ยังได้เผยอีกว่า อาการผมร่วงที่ทำให้เธอกลายเป็นคนหัวล้านแบบนี้ มันทำให้เธอต้องปกปิดเป็นความลับเอาไว้โดยที่ไม่ให้ใครรู้เด็ดขาด

เพราะเธอจะรู้สึกแย่มาก หากมีใครสังเกตหรือถามเธอเกี่ยวกับเส้นผมที่หายไป และนั่นก็ทำให้ Therese ได้ตัดสินใจว่าเธอจะต้องใส่วิกผมเพื่อปกปิดความอับอายของตัวเอง

 

.

 

อย่างไรก็ตาม ภายหลังจากที่ Therese ได้รับกำลังใจจากคนรอบข้าง โดยเฉพาะเพื่อนและครอบครัวมากขึ้น มันก็ได้ส่งด้านบวกให้กับเธอ ทั้งยังช่วยทำให้ Therese กล้าที่จะเปิดเผยมันให้โลกได้เห็น ความมั่นใจและความเป็นตัวของตัวเอง

“ฉันรู้สึกเสียใจที่ตอนแรกฉันไม่กล้าออกไปไหนมาไหนขณะที่หัวล้าน อาจจะเป็นเพราะตอนนั้นฉันเองก็ยังไม่พร้อม แต่ตอนนี้ฉันรู้สึกเป็นตัวของตัวเองมากขึ้น และไม่จำเป็นที่จะต้องปิดบังมันอีกต่อไป” Therese กล่าว

 

 

ไม่เพียงแต่การเปิดใจยอมรับในตัวตนของตัวเองเท่านั้น แต่ Therese ยังโชคดีสุดๆ เมื่อเธอได้รับโอกาสจากโมเดลลิ่งมากมาย และในตอนนี้เธอก็ได้เซ็นสัญญาเป็นนางแบบให้กับสังกัด GC Management เป็นที่เรียบร้อยแล้ว

 

 

ทางด้านครอบครัวและเพื่อนๆ ของเธอ ต่างก็รู้สึกภูมิใจในตัวของ Therese เป็นอย่างมาก ซึ่งเธอก็อยากจะเป็นตัวอย่างให้กับผู้ป่วยที่มีปัญหาเช่นเดียวกับเธอ ให้ลุกขึ้นมาสร้างความเปลี่ยนแปลงในตัวเองเช่นกัน

 

 

“ตอนนี้ฉันรู้สึกสบายใจที่ได้ออกไปข้างนอกโดยที่ไม่ต้องใส่วิกอีกต่อไปแล้ว ฉันอยากจะบอกตัวเองในตอนนั้นว่าอย่าพยายามซ่อนมันอีกต่อไป และนี่คือสิ่งที่ฉันอยากจะบอกให้คนที่เป็นแบบเดียวกันได้รับรู้

เพราะการซ่อนความเป็นตัวเองมันยิ่งทำให้รู้สึกแย่ลงไปเปล่าๆ มันเหมือนการยกภูเขาออกจากอกเลยนะ ถ้าหากคุณยอมรับและเป็นตัวเองตัวเองได้” Therese กล่าว

 

 

ที่มา : dailymail

Comments

Leave a Reply