12 แนวคิดจิตวิทยา ที่ผู้สร้างอนิเมชั่น Pixar แฝงเอาไว้ในตัวการ์ตูนแสนน่ารักของพวกเขา

การ์ตูนอนิเมชั่นจากค่าย Pixar ได้สร้างความประทับใจให้แก่ผู้คนมาแล้วมากมายหลากหลายเรื่อง โดยการ์ตูนส่วนใหญ่ของค่ายนี้จะมีเป็นการ์ตูนที่สามารถดูได้ทั้งผู้ใหญ่และเด็ก

แต่รู้หรือไม่ว่าจริงๆ แล้วผู้สร้างอนิเมชั่นเหล่านี้ ได้แฝงข้อคิดทางด้านจิตวิทยาเอาไว้ในการ์ตูนเรื่องต่างๆ ของพวกเขาอีกด้วย ทว่าใครหลายคนอาจจะไม่ทันสังเกตเพราะมัวแต่เพลิดเพลินไปกับตัวการ์ตูนแสนน่ารักน่าหยิก

ในวันนี้เราจึงหยิบเอาหลักจิตวิทยาต่างๆ ที่ซ่อนอยู่ มาให้ทุกคนได้รู้ว่าจริงๆ แล้วทางผู้สร้างเขาอยากจะบอกอะไรแก่เรานะ?

 

1. Finding Dory (2016)

เราทุกคนล้วนแตกต่างกัน และเราต้องให้ความเคารพแก่ความแตกต่างของทุกคน

ตัวละครหลักในเรื่องนี้คือปลาแสนน่ารักที่ชื่อว่า Dory แต่ว่าเจ้าปลาตัวนี้จะมีปัญหาอยู่ที่ความทรงจำที่ไม่สามารถจำอะไรได้เลย Dory มีความฝันที่จะตามหาครอบครัวของเธอ แต่ก็ไม่สามารถจำได้ว่าพวกเขาอยู่ที่ไหน เพราะเรื่องความทรงจำที่เลือนรางนั้นเป็นโรคที่มีมาตั้งแต่กำเนิดของเธอ

โดยในเรื่องนี้จะเห็นได้หลายครั้งว่า พ่อแม่ปลาในเรื่องพยายามสอนแก่เด็กๆ ว่า การเคารพในสิ่งที่ผู้อื่นเป็นนั้นมีความสำคัญแค่ไหน เพราะว่าพวกเขาอยากจะให้เรายอมรับในธรรมชาติของทุกคนนั่นเอง

 

2. The Good Dinosaur (2015)

ความจริงใจในมิตรภาพเป็นพลังอำนาจมหาศาล

ในอนิเมชั่นเรื่องนี้ไม่ได้พูดถึงเพียงแต่มิตรภาพระหว่างเด็กชายมนุษย์กับไดโนเสาร์เท่านั้น แต่เรื่องนี้ยังบอกอีกด้วยว่าถึงอารยธรรมต่างๆ ที่มนุษย์สร้างขึ้นจะมีความยิ่งใหญ่เพียงใดแต่ก็ยังต้องยอมสยบต่อธรรมชาติที่แสนเรียบง่าย

และในขณะที่เด็กๆ กำลังสนุกสนานไปกับตัวการ์ตูนแสนสดใส ผู้ใหญ่หลายคนที่ได้รับชมเรื่องนี้ก็ต่างเพลิดเพลินไปกับแนวคิดและปรัชญาที่ผู้สร้างแฝงไว้ในการผจญภัยของอาร์โล

 

3. Inside Out (2015)

อย่ากลัวอารมณ์ต่างๆ ที่มีอยู่หลากหลายในตัวคุณ

การ์ตูนอนิเมชั่นเรื่อง Inside Out นี้เป็นหนึ่งในการ์ตูนที่ทรงคุณค่าที่สุดของค่ายนี้เลยก็ว่าได้ ซึ่งเรื่องนี้เคยได้รับการยืนยันจากนักจิตวิทยามืออาชีพ โดยในเรื่องจะเป็นเรื่องราวของ Riley เด็กสาวที่พยายามควบคุมอารมณ์ต่างๆ ของเธอทั้ง สนุกสนาน เศร้าใจ ความกลัว และอื่นๆ

โดยตัวละครที่ชื่อว่า Riley ได้ช่วยให้หลายคนได้รู้ว่าเป็นเรื่องปกติของคนเราที่จะมีอารมณ์ต่างๆ เข้ามาในชีวิต และเราก็เพียงแค่ต้องควบคุมอารมณ์เหล่านั้นไม่ให้มันทำร้ายตัวเราได้แค่นั้นเอง

 

4. Brave (2012)

ทิ้งกฎระเบียบต่างๆ ไปและเป็นตัวของตัวเองซะ

การ์ตูนเรื่อง Brave เป็นการ์ตูนที่เป็นเหมือนเครื่องเตือนความจำให้แก่ทุกคนว่า จริงๆ แล้วเราไม่ต้องทำตามความคาดหวังของผู้อื่นมากนักหรอก โดยในเรื่องนี้จะเป็นเรื่องราวความสัมพันธ์ของหญิงสาวผู้กล้าหาญที่ชื่อว่า Merida กับแม่ของเธอ

แม่ของ Merida จะเป็นผู้หญิงที่ค่อนข้างเจ้าระเบียบ และมักจะวางแผนในอนาคตให้แก่ Merida เสมอ ซึ่งจริงๆ แล้วเธออาจจะไม่ได้อยากเป็นเจ้าหญิงเหมือนกับที่แม่ของเธออยากให้เป็น แต่อยากจะออกไปผจญภัยกับสถานที่ต่างๆ ทั่วโลกมากกว่า

 

5. Up (2009)

ไม่เคยมีคำว่าสายเกินไปที่จะเติมเต็มความฝันของเรา

เรื่องราวในภาพยนตร์เรื่อง Up เรื่องของชายแก่ชื่อว่า Carl เขามักเหงาและเปล่าเปลี่ยว เพราะว่าภรรยาของเขาได้จากโลกนี้ไป ในทุกๆ วัน Carl มักจะคิดถึงความฝันที่เขาตั้งใจไว้ว่าจะทำร่วมกับภรรยาของเขา และในที่สุด Carl ก็ตัดสินใจท่องเที่ยวไปทั่วโลกด้วยการนำลูกโป่งมัดติดกับบ้านของเขาเพื่อใช้บินไปยังสถานที่ต่างๆ

แต่ก็มีเด็กชายในชุดลูกเสือคนหนึ่ง คอยมาสร้างความปั่นป่วนและได้สร้างรอยยิ้มให้แก่ผู้คนมากมายจากบทบาทของเขาในเรื่อง

 

6. Wall-E (2008)

เราต้องมีความรับผิดชอบต่อดวงดาวของเรา

ในการ์ตูนเรื่องนี้เป็นเรื่องของโลกอนาคต ที่ดาวโลกของเรากลายเป็นสถานที่สำหรับทิ้งขยะและผู้คนต่างก็ย้ายไปอยู่ที่อื่นกันหมด เพราะว่ามนุษย์หลายคนมักง่ายและทำให้ดาวที่เคยเป็นที่อยู่อาศัยของเราต้องพังทลายลงไปกับตา

 

7. Ratatouille (2007)

จงทำตามความฝันของคุณซะ ถึงจะมีใครหลายคนบอกว่ามันไม่คุ้มค่าก็ตาม

Remy เป็นหนูที่มีความฝันอยากเป็นเชฟทำอาหาร ซึ่งไม่มีใครสักคนเชื่อว่าเขาจะสามารถทำสิ่งนั้นได้ แต่ถึงอย่างไรเขาก็พัฒนาตัวเองจนทำตามความฝันได้สำเร็จ การ์ตูนเรื่อง Ratatouille สอนให้เรารู้ว่าพื้นเพของเราไม่ใช่เรื่องสำคัญ ถ้าเรากล้าพอที่จะเติมเต็มความฝันของเราเอง

 

8. Cars (2006)

อย่าลืมว่ามีคนที่เชื่อในตัวคุณอยู่เสมอ

Lightning McQueen เป็นแบบฉบับของผู้ชนะที่เข้าใจในเรื่องความสำคัญของพวกพ้อง พลังของการทำงานเป็นทีมรวมถึงความไว้ใจ และด้วยกำลังใจจากเพื่อนร่วมทีม อาจารย์ และแฟนๆ ของเขาได้ช่วยให้เขาสามารถเข้าเส้นชัยเป็นอันดับหนึ่งได้สำเร็จเสมอ

 

9. The Incredibles (2004)

เราจะไม่ใช่ตัวของตัวเอง ถ้ามัวแต่เก็บซ่อนความสามารถที่มีเอาไว้

ตัวละครหลักๆ ในเรื่องเป็นเรื่องของครอบครัวที่มีพลังวิเศษครอบครัวหนึ่ง ที่พยายามจะทำชีวิตให้เหมือนกับคนธรรมดาสามัญทั่วไป และสิ่งนั้นได้ทำให้พวกเขาต้องเครียดและรู้สึกเศร้า เพราะว่าได้ซ่อนศักยภาพที่มีอยู่เอาไว้ทั้งๆ ที่สามารถไปทำสิ่งที่เหนือกว่าได้

 

10. Finding Nemo (2003)

ทุกๆ คนมีสิทธิ์ที่จะทำสิ่งผิดพลาดได้ แต่ถึงอย่างไรพวกเขาก็ต้องเลือกเส้นทางเดินของตัวเอง

Marlin เป็นพ่อที่ต้องการจะปกป้อง Nemo จากทุกสิ่งทุกอย่างในโลก แต่ดูเหมือนว่ายิ่งปกป้องมากเท่าไหร่ มันเหมือนกับยิ่งทำทุกๆ อย่างให้แย่ลง

ซึ่งจริงๆ แล้วผู้สร้างต้องการจะบอกแก่เราว่า เด็กๆ ต้องการเพียงการสนับสนุนและความช่วยเหลือมากกว่าการดูแลประคบประหงม เพราะพวกเขาต้องออกไปเผชิญกับโลกกว้างและเรียนรู้จากมันเองจะดีกว่า

 

11. Monsters, Inc. (2001)

 

คนที่น่ากลัวที่สุดก็มีความน่ากลัวเป็นของตัวเองเหมือนกัน

ในเรื่องนี้สัตว์ประหลาดทั้งหลายต้องออกไปข่มขู่เด็กๆ ทุกคืน เพื่อจะนำเสียงกรี๊ดมาเป็นพลังงานใช้ในเมืองปิศาจ ซึ่งภายหลังตัวละครหลักในเรื่องก็ได้ค้นพบว่าจริงๆ แล้วการข่มขู่เป็นวิธีที่แย่ที่สุด ที่สังคมเจริญแล้วเลือกใช้

โดยพวกเขาค้นพบว่า ความเข้าใจ การเคารพ และความเมตตากรุณา มีพลังอำนาจต่อผู้คนได้มากกว่าการทำให้พวกเขากลัวนั่นเอง

 

12. Toy Story (1995)

 

ถึงเวลาจะเปลี่ยนไป แต่มิตรภาพและความซื่อสัตย์ระหว่างเพื่อนจะคงอยู่เสมอ

เรื่องราวมหัศจรรย์ของตุ๊กตาต่างๆ ที่มีชีวิตขึ้นมาเมื่อไม่มีใครพบเห็น โดยเนื้อเรื่องเป็นเรื่องราวของ Woody ตุ๊กตาคาวบอยหนุ่มที่อิจฉา Buzz Lightyear ตุ๊กตาตำรวจอวกาศ ซึ่งเราจะได้เห็นความอิจฉา มิตรภาพอันสวยงาม และความผูกพันกับสถานที่ที่เรียกว่า ‘บ้าน’ ในเรื่องนี้

นอกจากนี้ตุ๊กตาต่างๆ ยังสะท้อนให้เห็นว่า ไม่ว่าใครๆ ต่างก็ต้องการความรักและความห่วงใยเหมือนกันทั้งนั้น ไม่ว่าจะเป็นสิ่งของ สัตว์หรือมนุษย์ก็ตามแต่

 

 

แง่คิดมีอยู่ทุกที่ แม้แต่ในการ์ตูนน่ารักๆ ก็ยังมีเนอะ…

 

ที่มา: brightside

Comments

Leave a Reply