ชีวิตของเราในวัยเด็กของแต่ละคนอาจไม่ต่างกันมากเท่าไหร่นัก บางคนอาจเจอกับปัญหาบางอย่างที่ตอนนั้นเราไม่มีกำลังมากพอจะแก้ไขมันได้ เช่นเดียวกันกับเธอคนนี้ที่ต้องเจอกับปัญหามาตั้งแต่เกิด และสิ่งนั้นก็ยังคงทำร้ายเธอมาจนถึงปัจจุบัน
นี่คือเรื่องราวของหญิงสาวชาวฝรั่งเศส Maude Julien ปัจจุบันอายุ 60 ปี เธอถูกพ่อแท้ๆ ของเธอทรมานทั้งกายและใจมาตั้งแต่เกิด เพื่อทำการทดลองเปลี่ยนหญิงสาวให้กลายเป็นยอดมนุษย์
เธอเล่าว่า Didier พ่อของเธอเป็นคนติดเหล้าหนักมากและแทบจะเรียกได้ว่าเป็นคนบ้าคนหนึ่ง เขาเชื่อว่าโลกกำลังจะถึงจุดจบ เลยจำเป็นต้องฝึกฝนลูกสาวของตัวเองให้กลายเป็นผู้รอดชีวิตและสามารถต่อกรกับปีศาจร้ายได้
ก่อนที่เธอจะเกิด พ่อของเธอได้รับเลี้ยงเด็กสาววัยเพียง 6 ขวบชื่อว่า Jeannine แล้วสองคนนี้ก็ได้แต่งงานกัน จนในปี 1957 ทั้งสองก็มีลูกด้วยกันชื่อว่า Julien ซึ่งก็คือเธอนั่นเอง
หลังจากนั้นพอเธอเกิดมา พ่อของเธอจึงเริ่มแผนที่วางเอาไว้ เขาทรมานเธออย่างโหดเหี้ยมเพียงเพราะต้องการให้เธอกลายเป็นยอดมนุษย์
เธอถูกทำร้ายทั้งกายและใจ โดยที่แม่ของเธอกลับทำท่าทีห่างเหิน ไม่สนใจเธอเลย อ้อมกอดอันแสนอบอุ่นที่เธอได้รับก็มาจากน้องหมาและลูกม้าที่เลี้ยงเอาไว้เท่านั้น เธอบอกว่า “ถ้าตอนนั้นฉันไม่มีสัตว์เลี้ยงพวกนี้อยู่ ฉันก็ไม่รู้เลยว่าจะใช้ชีวิตไปได้อย่างไร”
ตอนเธออายุได้ 8 ขวบ พ่อของเธอบังคับให้เธอใช้สองมือเปล่าจับรั้วไฟฟ้าค้างไว้ และห้ามแสดงอาการเจ็บปวดใดๆ ออกมา เธอเคยถูกจับขังไว้ในกรงที่มีหนูติดเชื้ออยู่ด้านใน เพื่อให้เธอมองดูและสำนึกถึงความตายที่อยู่ด้านหน้า อีกทั้งยังถูกบังคับให้ดื่มเหล้าวิสกี้และต้องเดินตัวตรงหลังจากนั้น
นอกจากสิ่งที่พ่อเธอทำเอาไว้นับไม่ถ้วนแล้ว เธอยังบอกอีกว่าถูกกรรมกรแถวบ้านล่วงละเมิดทางเพศมาตั้งแต่อายุ 3 ขวบจนถึงอายุ 13 ปีอีกด้วย
การใช้ชีวิตอย่างทุกข์ทรมานของเธอดำเนินไปเรื่อยๆ จนกระทั่งในปี 1972 พ่อของเธออนุญาตให้เธอเรียนดนตรี ครู Andre Molin จึงเข้ามาสอนออแกนและเปียโนให้ที่บ้าน
ผ่านไป 3 ปีครูสอนดนตรีคนนี้ก็สร้างความไว้เนื้อเชื้อใจกับพ่อของเธอได้สำเร็จ Julien จึงได้เข้าไปเรียนดนตรีในเมือง และได้พบกับนักดนตรีหนุ่มคนหนึ่งที่เรียนคลาสเดียวกัน เมื่อพ่อของเธออนุญาตอีกครั้ง ทั้งคู่จึงได้แต่งงานกันในที่สุด
แต่เธอก็เลิกกับผู้ชายคนนั้นหลังจากที่แต่งงานกันเพียงแค่ 6 เดือน จนต้องกลับมาอยู่บ้านกับพ่อสุดโหดเหมือนเดิม แต่ด้วยความที่เธออายุ 18 ปีเข้าให้แล้ว เธอจึงหนีออกจากบ้านได้สำเร็จ ออกมาแต่งงานใหม่ มีลูกสาวด้วยกัน 2 คนอาศัยอยู่ในปารีส
และถึงแม้ว่าพ่อของเธอจะตายไปตั้งแต่ปี 1981 ด้วยวัย 79 ปี แต่สิ่งที่เขาได้ทำไว้กับเธอ ยังคงสร้างรอยแผลเอาไว้มาจนถึงปัจจุบัน โดยเฉพาะตับของเธอที่รับผลกระทบมาจากการถูกบังคับให้กินเหล้ามาตั้งแต่เด็ก
ในเรื่องของจิตใจเองก็เช่นกัน เธอได้เขียนหนังสือขึ้นมาเล่มหนึ่งชื่อว่า The Only Girl in the World เพื่อบอกเล่าความทรงจำของตัวเอง แต่ทุกครั้งที่เธอคิดถึงเรื่องราวเล่านั้น ความเจ็บปวดที่เกิดขึ้นก็ยังคงตามมาหลอกหลอนเธออยู่เสมอ
เธอได้ส่งหนังสือเล่มนี้กลับไปหาแม่ของเธอที่ยังคงมีชีวิตอยู่ และแม่ของเธอก็รู้สึกไม่ค่อยพอใจเท่าไหร่ ที่เธอนำเรื่องราวมาเขียนลงหนังสือ แต่ความห่างเหินกันจึงทำให้ Julien ไม่ได้รู้สึกแย่อะไร
ความทรงจำในวัยเด็กอันโหดร้ายแบบนี้ อาจทำให้หลายๆ คนท้อแท้และไม่อาจใช้ชีวิตมาได้จนถึงปัจจุบัน แต่เธอคนนี้ก็ทำให้เราเห็นแล้วว่า การก้าวเดินต่อไปในวันข้างหน้าขึ้นอยู่กับจิตใจและความพยายามของเราแทบทั้งสิ้น
ที่มา: dailymail
Leave a Reply
You must be logged in to post a comment.