เวลาพูดถึงความตาย เราทุกคนไม่มีใครรู้หรอกว่าสิ่งที่เกิดขึ้นหลังจากเราตายมันเป็นยังไง จะมีก็แค่ทฤษฎีต่างๆ ที่ออกมาเดากันไปต่างๆ นานาว่าพอตายแล้วเราจะไปนรกไปสวรรค์ หรืออาจจะกลายเป็นวิญญานเท่านั้น
ทุกอย่างที่กล่าวมาข้างต้นเราไม่มีทางรู้เลยจนกว่าเราจะตาย แต่ว่าเมื่อเราตาย เราก็ไม่สามารถกลับมาบอกเล่าอะไรให้ใครฟังได้เช่นกัน ฉะนั้นเรื่องราวหลังความตายจึงเป็นเรื่องลึกลับเสมอมา…ทว่ามันจะเป็นแบบนั้นจริงๆ เหรอ?
ล่าสุด Dr. Eben Alexander วัย 63 ปี ศัลยแพทย์สมองและผู้เขียนหนังสือ ‘Living In A Mindful Universe: A Neurosurgeon’s Journey Into The Heart Of Consciousness’ ก็ได้ออกมาเปิดเผยเขาเคยมีประสบการณ์ใกล้ชิดกับความตาย เพราะเขาเคยอยู่ในอาการโคม่านานหลายสัปดาห์เมื่อปี 2008
โฉมหน้าหนังสือของ Dr.Eben
เขาได้เล่าผ่านหนังสือของเขาว่า จากอาการโคม่าดังกล่าวทำให้ตัวเขานั้นสามารถรับรู้ความหมายอันลึกซึ้งของชีวิตและสิ่งที่จะตามมาหลังจากนั้นได้…
Dr. Eben เล่าว่า “ตอนนั้นผมอยู่ในอาการโคม่านานเป็นสัปดาห์ ผมต้องทรมานจากอาการเยื่อหุ้มสมองและสมองอักเสบ สมองติดเชื้อและอื่นๆ อีกมากมาย โดยแพทย์ได้บอกกับญาติของผมว่า ผมจะมีโอกาสรอดเพียงแค่ 2% เท่านั้น ซึ่งไม่นานนัก ทีมแพทย์ก็บอกกับญาติให้ตัดใจพร้อมกับเตรียมบอกลาผมเร็วๆ นี้ได้เลย”
“แน่นอนว่าตอนนั้นผมจะตายจริงๆ ผมสัมผัสได้ถึงแสงที่สาดลงมา ผมได้ยินเสียงของสวรรค์ ซึ่งผมเรียกมันว่า Spinning Melody และหลังจากที่แสงสาดลงมา ผมรู้สึกได้ว่าผมกำลังจะเดินทางไปในที่ๆ สงบ ดินแดนที่มีน้ำตกเป็นคริสตัล มีเมฆที่ขาวเหมือนมาร์ชเมลโล่ ท้องฟ้าเป็นสีฟ้าคราม จากนั้นก็มีต้นไม้ ทุ่งหญ้าและผู้คน”
อย่างไรก็ตามจากคำบอกเล่าทั้งหมดของ Dr. Eben ก็ไม่มีอะไรที่ช่วยยืนยันว่าเป็นความจริงได้ แม้ว่าตัวเขาจะสอนประสาทวิทยาศาสตร์ใน Harvard Medical School ก็ตาม
ซึ่งนั่นทำให้ชาวเน็ตต่างพากันแสดงความคิดเห็นว่า จริงๆ แล้ว เรื่องราวทั้งหมดที่เขาได้เล่ามามันแผนการเพิ่มยอดขายหนังสือของเขาหรือเปล่านะ…
ที่มา ladbible
Leave a Reply
You must be logged in to post a comment.