เหมืองถ่านหินที่ลุกไหม้มากว่า 100 ปีในอินเดีย กำลังจะนำกลับมาใช้ แต่ก็มีเสียงคัดค้าน

เหตุการณ์บางอย่างที่เกิดขึ้นบนโลกนี้บางอย่างก็เป็นสิ่งที่ธรรมชาติสร้างสรรค์ขึ้นมา หรือกำหนดเอาไว้ว่ามันควรจะเป็นเช่นนั้น เหมือนกับเหมืองถ่านหินแห่งหนึ่งในประเทศอินเดีย ที่ลุกไหม้มายาวนานกว่า 100 ปี และในปัจจุบันนี้ถ่านหินภายในเหมืองแห่งนี้ก็ยังคงมีการเผาไหม้อยู่อย่างต่อเนื่อง

เหมืองแร่ที่ว่านี้มีชื่อว่า Jharia ตั้งอยู่ที่จังหวัดดันแบด รัฐฌารขัณฑ์ ประเทศอินเดีย ซึ่งเหมืองแห่งพื้นที่กว่า 258 กิโลเมตร และถือว่าเป็นเหมืองถ่านหินขนาดใหญ่แห่งหนึ่ง

 

ยังคงมีถ่านหินเผาไหม้อยู่ใต้ดินตลอดเวลา

 

โดยเหมืองแร่แห่งนี้ได้เริ่มใช้งานในช่วงปลายศตวรรษที่ 18 ภายใต้การดูแลของประเทศอังกฤษ และด้วยความที่เป็นเหมืองถ่านหิน ทำให้ต่อมาในปี 1916 เหมืองถ่านหินแห่งนี้มีการเกิดไฟปะทุครั้งแรกเกิดขึ้น

และในช่วงปี 1980-1990 เหมืองแห่งนี้ก็ได้มีไฟปะทุอีกกว่า 70 จุด นั่นจึงทำให้ไม่มีใครสามารถดับไฟที่เกิดขึ้นมาได้และต้องปล่อยให้มันดับเองตามธรรมชาติ ทว่าเมื่อออกสำรวจพื้นที่ชั้นใต้ดินก็ต้องพบว่าในตอนนี้ไฟเหล่านั้นยังคงไม่มีวี่แววที่จะดับลง

 

ชาวบ้านที่อยู่ละแวกนั้นอาจจะได้รับอันตรายตามไปด้วย

 

มาในปีนี้บริษัท Bharat Coking Coal Ltd (BCCL) ซึ่งเป็นบริษัทในเครือของบริษัท Coal India ที่รัฐบาลเป็นเจ้าของมีแผนที่จะใช้การหาถ่านหินรูปแบบใหม่ที่จะทำให้การหาถ่านหินเป็นไปด้วยความรวดเร็วมากกว่าเดิม และมีค่าใช้จ่ายน้อยลงกว่าเดิม

และนั่นทำให้นักกิจกรรมท้องถิ่นชื่อว่า Ashok Agarwal ออกมาพูดถึงประเด็นที่ บริษัทแห่งนี้จะมีวิธีการหาถ่านหินแบบใหม่ภายใต้เหมืองที่ยังคงเผาไหม้อยู่แห่งนี้

 

ยิ่งเปิดปากหลุมยิ่งมีการเผาไหม้มากขึ้น

 

“พวกเขาคิดว่าจะสามารถเก็บถ่านหินได้เร็วขึ้นและมีค่าใช้จ่ายที่น้อยลง แต่พวกเขาไม่รู้ว่าใต้เหมืองแห่งนี้ถ่านหินได้ลุกไหม้ไปจนหมดแล้ว

และในตอนนี้ก็เหลือเพียงแค่อุโมงค์ที่เคยสร้างเอาไว้ก่อนหน้าสำหรับการคัดแยกถ่านธรรมดากับถ่านหินออกจากกัน ดังนั้นตอนนี้จึงมีเพียงถ่านหินก้อนเล็กๆ ที่สามารถเกิดไฟลุกได้ทุกเวลา และการที่พวกเขาจะเปิดหน้าของอุโมงค์แห่งนี้ขึ้นจะทำให้อากาศสามารถเข้าไปข้างในได้และอาจทำให้เกิดไฟไหม้ครั้งใหญ่เลยทีเดียว” Ashok กล่าว

 

หน้าตาของเหมืองแร่ถ่านหิน

 

สำหรับก๊าซออกซิเจนเมื่อไหลลงสู่แกนกลางของถ่านหินได้แล้วจะสามารถกระตุ้นก่อให้เกิดเปลวไฟขนาดใหญ่ได้ โดยในบางที่สามารถบันทึกระดับความสูงของเปลวไฟที่เกิดจากถ่านหินได้ถึง 18 เมตรเลยทีเดียว

การเกิดไฟหลายๆ ครั้งก็เกิดจากการเผาไหม้เองโดยธรรมชาติ โดยมีสาเหตุมาจากการทำปฏิกิริยาออกซิเดชันที่เกิดภายในแร่ต่างๆ

และสิ่งที่บริษัทแห่งนี้กำลังทำก็เหมือนจะยิ่งทำให้สถานการณ์ต่างๆ แย่ลงกว่าเดิมเพราะว่าเมื่อมีการเปิดหน้าพื้นผิวที่กั้นไม่ให้ออกซิเจนเข้า ก๊าซออกซิเจนก็จะเข้าไปทำปฏิกิริยากับไฟที่ยังคงลุกโชนอยู่ใต้ดินและอาจทำให้เกิดเหตุร้ายแรงขึ้นได้นั่นเอง

 

ที่มา: odditycentral

Comments

Leave a Reply