ในบางครั้ง คำพูดอาจไม่ใช่สิ่งที่สามารถอธิบายทุกอย่างได้ทั้งหมด เพราะความจริงแล้วเราสามารถรับรู้สิ่งต่างๆ ผ่านอวัจนภาษา หรือภาษากายของผู้พูดได้ว่า แท้จริงแล้วในตอนนั้นเขารู้สึกหรือว่าคิดอะไรอยู่กันแน่
การสังเกตภาษากายสามารถทำให้เรารับรู้ข้อมูลของคู่สนทนาได้มากขึ้นถึง 55 เปอร์เซ็นต์ ซึ่งผู้เชี่ยวชาญชาวออสเตรเลีย Allan Pease ได้แนะนำถึงข้อสังเกตง่ายๆ ที่ทำให้เราเข้าใจฝ่ายตรงข้ามได้มากขึ้น เราลองไปดูกันเลยว่ามันมีอะไรบ้าง
1. การหลับตา
ถ้าหากอีกฝ่ายกำลังพูดแล้วหลับตาไปด้วย นั่นหมายความว่าเขากำลังพยายามหลบซ่อนตัวจากโลกภายนอก หรือกำลังคิดอะไรอยู่สักอย่าง แต่ที่ทำอย่างนั้นไม่ใช่ว่าเพราะเขากลัวคุณ
ในทางตรงกันข้าม เขาอาจจะแค่เหนื่อยที่ต้องคุยกับคุณ เลยหลับตาเพื่อทำให้คุณหายไปแทน
2. ใช้มือปิดปาก
วิธีนี้ก็เหมือนกับตอนยังเป็นเด็ก ยกมือขึ้นมาปิดปากตัวเองเอาไว้เวลาที่เราไม่อยากบอกอะไร อาจจะใช้แค่นิ้วโป้งหรือกำหมัดขึ้นมาปิดเอาไว้ ซึ่งบางทีอาจทำเป็นไอ เพื่อปิดบังว่าเราไม่ต้องการบอกบางสิ่งบางอย่างให้อีกฝ่ายรู้
3. กัดขาแว่น
รวมถึงการคาบปากกาดินสอ คาบบุหรี่ หรือเคี้ยวหมากฝรั่ง สิ่งเหล่านี้คือการแสดงออกถึงความกังวลที่ซ่อนอยู่ลึกๆ ภายใน โดยพฤติกรรมในลักษณะนี้จะทำให้รู้สึกปลอดภัย นักจิตวิทยาเผยว่าพฤติกรรมดังกล่าว คล้ายกับตอนดูดนมแม่สมัยเป็นเด็กนั่นเอง
4. การยื่นหน้าออกมา
การเอาคางมาเกยไว้บนมือคือท่าทางเพื่อดึงดูดความสนใจของเพศตรงข้าม ให้อีกฝ่ายเชยชมใบหน้าของเราอย่างเต็มที่ เพราะฉะนั้นหากผู้ชายคนไหนเห็นสาวๆ ทำท่านี้ก็ควรรับรู้ได้ทันที และกล่าวชมเธอไปในเวลาที่เหมาะสม
5. เอามือถูคาง
นี่เป็นสิ่งที่คนส่วนใหญ่ชอบทำเวลาต้องตัดสินใจอะไรซักอย่าง โดยสายตาก็จะมองเหม่อลอยออกไปในมุมใดมุมหนึ่ง ซึ่งพฤติกรรมดังกล่าวจะเกิดขึ้นมาโดยที่เราแทบไม่รู้ตัวเลย
6. กอดอก
ท่านี้มักจะแสดงออกมาเมื่อเรารู้สึกไม่ค่อยดีหรือรำคาญในบางเรื่องที่เกิดขึ้น การกอดอกจึงช่วยให้เราหยุดแสดงท่าทีความไม่พอใจออกมาโดยตรง นอกจากนี้ยังทำให้เรารู้สึกเกิด “เซฟโซน” ซึ่งบางครั้งจะเผลอกอดอกโดยไม่ได้ตั้งใจ เพราะอาการประหม่าอีกด้วย
7. จัดท่าทางของตัวเอง
สังเกตได้ง่ายในผู้หญิง ยืนหรือหนังหลังตรงเพื่อให้เห็นหน้าอกได้อย่างชัดเจน ไขว้ขาซักเล็กน้อย และยืนเอามือประสานกัน ท่าทางเหล่านี้ช่วยดึงดูดความสนใจของฝ่ายตรงข้ามได้เป็นอย่างดี
8. เอนตัวมาข้างหน้า
ท่านี้จะแสดงออกมาเวลาที่เรารู้สึกชอบใครซักคนและต้องการจะสื่อสารกับเขาให้มากยิ่งขึ้น ไม่เกี่ยวว่าขาของเขาจะออกมาในลักษณะใด แต่ที่แน่ๆ คือร่างกายช่วงบนจะเอนมาข้างหน้าอย่างเห็นได้ชัด
9. เอนตัวไปข้างหลัง
การนั่งเอนตัวไปข้างหลัง แสดงให้เห็นว่าเขารู้สึกเหนื่อยกับการสนทนาในครั้งนี้ หรือบางทีอาจจะรู้สึกอึดอัดเวลาที่ต้องคุยกับฝ่ายตรงข้าม
10. ส่ายเท้าไปมา
เราอาจเคยเห็นเด็กๆ ทำในบางครั้ง ผู้ใหญ่เองก็ทำในเหตุผลเดียวกัน นั่นคือเรากำลังรู้สึกกระวนกระวายใจอยู่
11. ถูมือ
การเอามือมาถูกันแสดงถึงความรู้สึกในแง่บวกกับสิ่งสิ่งหนึ่ง เหมือนว่าเรารู้สึกมีความหวังกับอะไรซักอย่าง บางครั้งเราอาจกำลังคิดถึงเรื่องดีๆ ที่จะตามมาอยู่ก็ได้
12. ใช้มือสองข้างกุมมืออีกฝ่ายเอาไว้
เมื่อไหร่ที่เราได้รับการจับมือในลักษณะที่อีกฝ่ายยื่นมือมาทั้งสองข้าง ข้างหนึ่งจับมือไว้แล้วอีกข้างยื่นมาจับบริเวณข้อมือของเรา นั่นคือการแสดงออกให้เห็นว่าพวกเขาสามารถไว้ใจได้
13. นำมือของอีกฝ่ายมาวางไว้บนมือเรา ใช้มืออีกข้างวางทับไปอีกที
เราอาจเคยทำท่านี้เวลาที่เรารู้สึกสงสารใครซักคน แต่นั่นก็ต่อเมื่อเราทำท่านี้ออกมาในทันที แต่ถ้าหากเรากำลังจับมือใครซักคนอยู่แล้วเขาเอามือมาวางไว้ด้านบนมือเรา นั่นเขาอาจจะสื่อให้เรารู้ว่าเขาคือคนที่ใหญ่ที่สุดในที่แห่งนี้ หรือก็คือการแสดงอาการทับถม แอบขู่เบาๆ ด้วยเช่นกัน
14. หงายมือทั้งสองข้างจับมืออีกฝ่ายเอาไว้ โดยให้มือเราอยู่ด้านใต้
นี่คือท่าที่แสดงให้เห็นว่าเราพร้อมจะช่วยเหลือเขาแล้วจริงๆ
15. จับมือกันอยู่แล้วยื่นมืออีกข้างไปสัมผัสฝ่ายตรงข้าม
ส่วนใหญ่ที่เราเจอคือการที่อีกฝ่ายยื่นมือมาสัมผัสแขน ข้อศอก หรือแผ่นหลังขณะที่กำลังจับมือกันอยู่ ท่าทางนี้อาจหมายความว่าเขาสื่อสารไม่เก่งเท่าไหร่และต้องการการร่วมมือจากเรา
16. ปรับเนกไท
ท่าทางนี้ขึ้นอยู่กับสถานการณ์ด้วย หากหนุ่มๆ ปรับเนกไทเวลาอยู่ใกล้สาวสวย นั่นคือเขาอาจกำลังชอบเธออยู่ หรือบางสถานการณ์มันคือท่าทางที่แสดงว่าเขารู้สึกอึดอัดอยู่ ซึ่งอาจแสดงออกมาเวลาที่เขาพูดโกหกหรือต้องการออกไปจากที่ตรงนั้น
17. ทำท่าทางปัดผมออกจากเสื้อ ทั้งๆ ที่อาจไม่มีอะไรติดอยู่เลย
นั่นคือการแสดงให้เห็นว่าเขาคนนั้นไม่เห็นด้วยกับบางเรื่อง แต่ไม่ต้องการพูดออกมาตรงๆ
18. นั่งเอาเท้าวางบนโต๊ะ
เป็นท่าที่สามารถสื่อได้ถึงหลายอย่าง เช่น นิสัยไม่ดี ไม่มีความเคารพ ต้องการแสดงว่าที่นี่ใครเป็นใหญ่ ซึ่งในบางสถานการณ์เป็นท่าทางที่แสดงถึงความไม่เคารพ
นักจิตวิทยาบอกว่า หากคุณรู้สึกสบายในท่านี้ อย่างน้อยก็ควรทำมันที่บ้านก็พอนะ
19. นั่งควบเก้าอี้เหมือนกำลังขี่ม้า
ท่านี้อาจดูก้าวร้าวไปหน่อยและหลายๆ คนที่เห็นก็รู้สึกไม่ค่อยชอบซักเท่าไหร่ นอกจากนั้นท่านี้ยังอาจหมายความว่า เขาคนนั้นใช้พนักเก้าอี้แทนโล่ป้องกันตัวเองหรือต้องการแสดงอำนาจมาข่มเรา ซึ่งหากเราไม่อยากให้ตัวเองรู้สึกอ่อนแอ ก็ให้ยืนขึ้นมาประจันหน้าด้วยซะเลย
20. ส่ายรองเท้าไปมา
เราอาจเคยเห็นผู้หญิงนั่งไขว่ห้างเพื่อดึงดูดสายตาหนุ่มๆ และยิ่งถ้าเธอปล่อยให้รองเท้ามันออกมาหลวมๆ ส่ายไปมาด้วยแล้ว นั่นยิ่งหมายความว่าเธอต้องการโชว์ขาของตัวเองมากขนาดไหน
ซึ่งท่านี้ยังบอกได้อีกว่าเธอรู้สึกผ่อนคลายและสงบในเวลานั้น นั่นคือไฟเขียวสำหรับผู้ชายที่อยู่ตรงหน้าแล้ว
21. การสบตากัน
ดวงตาคือหน้าต่างของหัวใจ เพราะมันสามารถบอกอะไรเราได้หลายๆ อย่าง เช่น เวลาที่คู่รักสบตากัน ทั้งสองจะเห็นรูม่านตาของอีกฝ่ายขยายใหญ่ขึ้นชัดเจน เพราะมันสามารถขยายใหญ่กว่าเดิมได้มากกว่า 4 เท่าจากปกติ หรือหากใครกำลังโมโหอยู่ รูม่านตาของเขาก็จะหดเล็กลงอย่างมากเช่นเดียวกัน
ทั้ง 21 อาการนี้ อาจจะทำออกมาโดยบังเอิญหรือตั้งใจ บางครั้งเป็นปฏิกิริยาที่ออกมาเองโดยไม่ทันตั้งตัว แต่บางครั้งคู่สนทนาก็ตั้งใจทำปฏิกิริยาดังกล่าว ให้เราเผลอเข้าใจว่าเขาคิดแบบนั้น ทั้งที่จริงเขาอาจจะไม่คิดแบบนั้นก็ได้
เรื่องแบบนี้มันซับซ้อนเนอะ รู้เอาไว้อย่างน้อยก็ทำให้เราสามารถอ่านใจคนที่กำลังคุยอยู่ได้มากขึ้น (แต่อย่าเผลอเอาไปฟันธงว่าเขาต้องคิดแบบนั้นเป๊ะๆ ล่ะ เพราะสิ่งที่เห็นอาจจะไม่ใช่แบบนั้นจริงๆ ก็ได้…)
ที่มา: brightside
Leave a Reply
You must be logged in to post a comment.