ไม่ใช่ทุกครั้งที่การตัดสินใจของเราจะต้องถูกเสมอไป เพราะในบางครั้งเราอาจได้มารู้ทีหลังว่าที่เราทำลงไปนั้นคือการตัดสินใจที่ผิดพลาด แต่อย่างน้อยมันก็อาจเป็นบทเรียนให้กับชีวิตเราในการก้าวเดินต่อไปข้างหน้าได้เหมือนอย่างหญิงสาวคนนี้..
นี่คือเรื่องราวของ Christen McGinnes วัย 46 ปีจากรัฐเวอร์จิเนีย สหรัฐอเมริกา ผู้ที่พยายามฆ่าตัวตายด้วยการยิงปืนเข้าปากตัวเอง จนทำให้สูญเสียกรามขวา ลิ้น ฟันหลายซี่ ปากล่างและตาข้างขวาของเธอไป แต่อย่างน้อยเธอก็รอดมาได้จนพบกับการเปลี่ยนแปลงครั้งยิ่งใหญ่ในชีวิต
เธอเล่าว่า ในปี 2009 เธอใช้ชีวิตทุกอย่างไปได้อย่างราบรื่น มีเพื่อนมากมาย รักงานที่ทำและเธอก็ยังสนิทกับคุณย่าของตัวเองเอามากๆ แต่พอเวลาผ่านไปไม่นานทุกอย่างก็กลับพินาศลงไปในพริบตา
เธอตกงาน คุณย่าตายจากเธอไป พอเธอได้คบกับผู้ชายแสนดีคนหนึ่ง เขาคนนั้นกลับทิ้งเธอไปอีก เธอสูญเสียทุกอย่างแม้แต่เงินเก็บของเธอทั้งหมด ทำให้เริ่มกินเหล้าอย่างหนักและเกิดความคิดว่า ถ้าเป็นอย่างนี้เธอขอตายซะยังจะดีกว่า
ในปีต่อมา หญิงสาวจัดห้องตัวเองให้สะอาดสะอ้าน ก่อนที่จะออกไปตรงระเบียงเตรียมจะยิงตัวตาย วินาทีนั้นเธอไม่ได้กลัวความตายเลย แต่สิ่งที่เธอกลัวคือ กลัวว่ากระสุนจะพุ่งไปห้องข้างๆ จนทำให้คนอื่นได้รับบาดเจ็บ
เธอเล่าว่า “ฉันรู้สึกสงบเป็นครั้งแรกในรอบหลายเดือน ตอนนั้นฉันไม่กลัวตายเลย จากนั้นฉันจึงเหนี่ยวไกเข้าที่ศีรษะของฉัน”
ในตอนนั้นเธอไม่รู้เลยว่าเพื่อนร่วมห้องของเธอก็อยู่ในห้องด้วย เมื่อเสียงปืนดังลั่น เพื่อนคนนั้นจึงรีบวิ่งมาดู ก่อนที่จะนำตัวเธอส่งโรงพยาบาล
หญิงสาวอยู่ในอาการโคม่านานกว่า 3 สัปดาห์ สิ่งที่เธอจำได้เป็นอย่างแรกในตอนที่ตื่นขึ้นมาคือ พ่อที่นั่งกุมมือของเธออยู่ข้างๆ และพูดกับเธอว่า “สิ่งที่ลูกต้องทำตอนนี้คือรักษาตัวเองให้หาย ทุกอย่างได้รับการดูแลหมดแล้ว ตอนนี้ลูกปลอดภัยแล้วนะ”
และนั่นก็คือส่วนหนึ่งที่ทำให้ความคิดของเธอเปลี่ยนไป เธอได้เห็นว่าคนรอบข้างรักเธอมากขนาดไหน ในตอนนั้นความรู้สึกโกรธและซึมเศร้าของเธอหายไปในพริบตา
ใบหน้าของเธอได้รับความเสียหายอย่างหนัก ถึงขนาดที่ว่า Howard เพื่อนของเธอเกือบจะจำเธอไม่ได้เลย ตอนมาเยี่ยมที่โรงพยาบาล
Christen เข้ารับการผ่าตัดมากกว่า 49 ครั้งและยังคงมีอีกในอนาคต เพื่อฟื้นฟูให้ได้มากที่สุด แต่แม้เธอจะสูญเสียหลายๆ อย่างไป แต่ที่เธอได้รับกลับมาตอนนี้ช่างมากมายมหาศาลเหลือเกิน
เธอบอกว่า “ฉันเปลี่ยนไปจากก่อนหน้านี้ ฉันรู้สึกยินดีที่ได้มีชีวิตอีกครั้ง แม้ในตอนแรกฉันยังไม่สามารถออกไปไหนได้มากนัก แต่ฉันก็ได้ตกหลุมรักกับชายผู้แสนดีคนหนึ่งที่เข้ามาระหว่างที่ฉันกำลังเข้ารับการรักษา”
บอกอีกว่า “ฉันเริ่มเห็นคุณค่าของมิตรภาพมากยิ่งขึ้นกว่าเดิม และการพยายามฆ่าตัวตายอาจเป็นบาดแผลในใจให้กับฉัน แต่ฉันก็ไม่ได้เสียใจในสิ่งที่ทำ และอยากให้ทุกคนเข้าใจว่าพวกเราไม่ได้อยู่ตัวคนเดียวหรอกนะ”
เชื่อว่าเรื่องราวของเธอจะทำให้หลายๆ คนได้เปลี่ยนมุมมองว่าโลกของเราโหดร้าย หันไปมองสิ่งรอบข้าง คนใกล้ตัว คนที่เรารักและคนที่รักเรา เพื่อเรียนรู้ในการก้าวเดินต่อไปในวันข้างหน้าได้อย่างมีความสุข
ที่มา: metro
Leave a Reply
You must be logged in to post a comment.