นาฬิกาข้อมือที่เปี่ยมไปด้วยจิตวิญญาณแห่งดาบและมีด สืบทอดกันมาอย่างยาวนานของชาวญี่ปุ่น

นาฬิกานั้นนอกจากจะทำหน้าที่ในการบอกเวลาแล้ว บางครั้งมันยังเปรียบเสมือนเครื่องบอกฐานะอีกด้วย  แน่นอนว่าถึงแม้จะเป็นนาฬิกาที่ยืมเพื่อนมาใส่ก็ทำให้คุณดูดีได้ไม่น้อยเลยทีเดียว (หรือจะเป็นมรดกตกทอดจากครอบครัวก็เท่ไม่แพ้กัน)

และวันนี้เราก็มีนาฬิกาอีกชิ้นหนึ่งจากแดนปลาดิบที่น่าสนใจสุดๆ เพราะขึ้นชื่อว่าประเทศญี่ปุ่นแล้วเรื่องรายละเอียดและความพิเศษนั้นแทบไม่ต้องพูดถึงเลยทีเดียว

 

พบกับนาฬิกาสุดพิเศษที่ได้แรงบันดาลใจจากการตีดาบโบราณ จนกลายมาเป็นการออกแบบที่หรูหราจนคุณลุงยังอยากจะเป็นเจ้าของ!!

 

หมู่บ้าน Seki ในนครกิฟุของประเทศญี่ปุ่นนั้นถือเป็นหนึ่งในสถานที่ที่เปรียบเสมือนของเมืองหลวงแห่งดาบ เพราะดาบและมีดที่ดีที่สุดของประเทศญี่ปุ่นหลายเล่ม ล้วนแล้วแต่ถูกสร้างขึ้นมาที่หมู่บ้านแห่งนี้

และเมื่อไม่นานมานี้บริษัท Musha ก็ผลิตนาฬิการุ่นใหม่ ซึ่งได้รับแรงบันดาลใจมากจากงานฝีมืออันเก่าแก่ของหมู่บ้านแห่งนี้

 

 

วัสดุหลักของนาฬิกา MUSHA Damascus Watch เรือนนี้ก็คือเหล็ก Damascus ที่ต้นกำเนิดจากประเทศอินเดีย ที่มีลวดลายสวยงามคล้ายกับลายไม้ เหล็กชนิดนี้ถือเป็นหนึ่งในวัตถุดิบหลักที่ใช้ในการตีมีดที่มีคุณภาพสูงเลยทีเดียว

 

ฝาครอบหน้าปัดนาฬิกานั้นถูกสร้างและออกแบบให้มีลักษณะคล้ายกับตราของตระกูล Nobunaga ตระกูลขุนนางที่ยิ่งใหญ่ของประเทศญี่ปุ่น

 

หลังจากที่ผ่านการตีขึ้นรูปแล้ว ทุกๆ ส่วนชิ้นส่วนจะได้รับการขัดเงาอย่างปราณีตโดยคุณ Masayuki Otsuka ผู้ก่อตั้งบริษัทนาฬิกา Musha

 

รายละเอียดและควาวสวยงามของเนื้อเหล็ก Damascus ที่อยู่บนนาฬิกา

.

 

นอกจากความสวยงามแล้ว นาฬิกาเรือนนี้ยังมาพร้อมกับตัวเรือนและหน้าปัดป้องกันรอยขีดข่วน รวมถึงควบคุมการบอกเวลาด้วยระบบ Japanese quartz 

 

สายนาฬิกาที่ถูกออกแบบให้คล้ายกับด้ามของดาบคาตานะ ที่ถักอย่างปราณีตเพื่อให้ผู้สวมใส่รู้สึกสบาย

 

หรือใครที่ชอบความหรูหรา ทางบริษัทก็มีสายแบบหนังกระเบนให้เลือกอีกด้วยนะ!!

 

สนนราคาของเจ้านาฬิกาชิ้นพิเศษนี้ในแบบสานถักธรรมดาก็อยู่ที่ประมาณ 11,100 บาทเท่านั้นเอง ส่วนในรุ่นสายกระเบนก็เพิ่มเงินขึ้นมาอีกหน่อยที่ประมาณ 14,000 บาท

 

และสำหรับใครที่สนใจสั่งซื้อล่ะก็สามารถเข้าไปชมรายละเอียดกันได้ที่เว็บไซต์ makuake กันได้เลย แต่อาจจะต้องใช้ความสามารถด้านภาษาญี่ปุ่นกันหน่อยละนะ!!

 

ที่มา rocketnews24

Comments

Leave a Reply