ตำรวจจีนบุกจับโรงงานผลิต “ถุงยางอนามัยปลอม” เลียนแบบยี่ห้อดังกว่า 1.7 ล้านชิ้น!?

ถ้าหากคุณอยากมีเพศสัมพันธ์กับแฟนโดยไม่ต้องกังวลว่าจะตั้งครรภ์ละก็ การใช้ถุงยางอนามัยเป็นตัวเลือกที่ดีทางหนึ่ง เพราะนอกจากหาซื้อง่ายแล้ว ยังมีความปลอดภัยสูง มีให้เลือกหลากหลาย และมีลูกเล่นแปลกใหม่ทำให้คุณไม่เบื่ออีกต่างหาก

แต่ถ้าเกิดของที่คุณซื้อมาดันเป็นของปลอมละก็ มันอาจจะไม่ได้มาตรฐานและทำให้ช่วงเวลาแห่งความสุขของคุณพังทลายลงได้ ดังนั้นเวลาจะซื้อถุงยางมาใช้ก็ต้องระวังของปลอมกันด้วยนะ ในวันนี้เราก็มีวิธีตรวจสอบถุงยางปลอมมาฝากด้วย

 

 

ตำรวจได้เข้าไปตรวจค้นโรงงานหลายแห่งในเมือง Yuncheng จังหวัด Shanxi ประเทศจีน และพบถุงยางอนามัยปลอมที่แอบอ้างใช้ชื่อของแบรนด์ดังหลากหลายเจ้า รวมแล้วกว่า 1.7 ล้านชิ้นเลยทีเดียว

ในตอนต้นตำรวจได้รับรายงานมาว่า มีการผลิตสินค้าปลอมแปลงจากโรงงานหลายแห่งในพื้นที่ ทางตำรวจที่รับผิดชอบด้านอาหารและยา จึงได้นำทีมเข้าตรวจค้นโรงงาน 6 แห่งในเมือง Yuncheng ในวันที่ 29 ธันวาคม 2017

 

 

หลังจากเข้าตรวจค้นแล้ว ได้จับกุมผู้ต้องหา 15 คน พร้อมทั้งยึดของกลางซึ่งเป็นถุงยางปลอมบรรจุถุงกว่า 1.2 ล้านชิ้น ถุงยางปลอมที่ยังไม่ได้บรรจุถุงอีก 460,000 ชิ้น กล่อง Durex เปล่าอีก 100,000 กล่อง รวมทั้งเครื่องเคลือบในโรงงานอีกด้วย

ปัญหาเรื่องถุงยางอนามัยปลอมนั้นเป็นปัญหาเรื้อรังในประเทศจีน นับตั้งแต่ปี 2013 เป็นต้นมาจนถึงปัจจุบัน มีการจับกุมและยึดถุงยางปลอมมาได้รวมหลายล้านชิ้นแล้ว นอกจากนี้ยังมีถุงยางปลอมที่ผลิตในจีนหลุดรอดออกไปในต่างประเทศด้วย

 

 

โดยถุงยางปลอมเหล่านี้มักจะใช้วัสดุที่ไม่ได้คุณภาพมาทำ ซึ่งอาจจะเป็นอันตรายต่อผิวหนังของคุณได้ และการใช้วัสดุที่ไม่ดียังทำให้ถุงยางแตกหรือขาดง่ายอีกด้วย

ในเมื่อถุงยางอนามัยปลอมในประเทศจีนเป็นปัญหาที่แก้ไม่หายสักที สิ่งที่เราพอจะทำได้ก็คือ คอยตรวจสอบและระวังตัวให้ดี ว่าถุงยางที่เราซื้อในประเทศจีน (และที่อื่นๆ ด้วย) ไม่ได้เป็นของก๊อปปี้ โดยมีวิธีการดังต่อไปนี้

 

 

เบื้องต้น หากเราจะหาซื้อถุงยางอนามัยใช้ ไม่ควรจะซื้อจากแหล่งจำหน่ายที่ไม่น่าไว้วางใจ หรือที่ตู้หยอดเหรียญ ทางที่ดีควรจะซื้อจากทางเว็บไซต์ของแบรนด์ต่างๆ โดยตรง และถ้าเป็นในจีนก็สามารถซื้อจากเว็บไซต์ Taobao หรือ Jingdong ได้เช่นกัน

นอกจากนี้ยังมีวิธีตรวจสอบถุงยางเองง่ายๆ ที่มักจะใช้แยกแยะถุงยางปลอมส่วนใหญ่ได้อยู่ด้วย โดยต้องตรวจสอบว่าบรรจุภัณฑ์หรือกล่องถุงยาง ห่อพลาสติกมาดีหรือเปล่า

 

 

หลังจากนั้นจึงมาตรวจสอบดูโลโก้และสีสันของกล่องว่าพิมพ์ออกมาชัดเจนหรือไม่ แล้วก็ยังสามารถเช็กจากบาร์โค้ดของถุงยางได้ด้วย บาร์โค้ดควรจะพิมพ์อย่างชัดเจนและไม่มีรอยขีดข่วนหรือรอยขาด ที่สำคัญคือวันหมดอายุบนซองถุงยางต้องเห็นชัดเจน

นี่เป็นวิธีการตรวจสอบเบื้องต้นเท่านั้น แต่เราก็ควรจะลองนำไปใช้และระวังตัวกันเอาไว้ด้วย เพราะถ้าโชคร้ายเจอของปลอมขึ้นมาจริงๆ ละก็ ถุงแตกแล้วต้องมานั่งเลี้ยงลูกไม่รู้ตัวไม่รู้ด้วยนะ

ที่มา: medium

Comments

Leave a Reply