แม้ว่าตั้งแต่อดีตกาล เราจะได้ยินมาเสมอว่าผู้ชายนั้นมีร่างกายกำยำ จึงมีพละกำลังมากกว่าผู้หญิง ดังนั้นหากมีงานที่ต้องลงมือลงแรงอย่างเช่น ยกของ ตัดไม้ หรือแม้แต่ต่อสู้ เราก็จะเข้าใจว่าผู้ชายมักจะทำได้ดีกว่าผู้หญิง
แต่ในวันนี้ มีผลวิจัยจากประเทศสหรัฐอเมริกาออกมาแล้วว่าผู้หญิงมีความแข็งแกร่งทางชีวภาพมากกว่าผู้ชาย และมีแนวโน้มว่าจะเอาชีวิตรอดจากสถานการณ์เลวร้ายได้มากกว่าผู้ชายด้วย
ผลวิจัยนี้เผยแพร่มาจาก Proceedings of the National Academy of Scientists (PNAS) ซึ่งเป็นวารสารชื่อดังเกี่ยวกับงานจิวัยทางวิทยาศาสตร์
โดยนักวิจัยศึกษาข้อมูลจากการเปรียบเทียบอัตราการตายระหว่างผู้ชายและผู้หญิง เมื่อต้องต่อสู้กับความอดอยาก โรคระบาด และการเป็นทาส
จากข้อมูลพบว่า นอกจากข้อมูลของทาสในศตวรรษที่ 19 และการปลดปล่อยทาสชาวลิไบเรีย ในสาธารณรัฐตรินิแดดซึ่งเกิดขึ้นในเวลาใกล้เคียงกันแล้ว ข้อมูลที่เหลือทั้งหมดระบุว่าผู้หญิงมีอัตราการอยู่รอดมากกว่าผู้ชายทั้งสิ้น
โดยในกลุ่มทาสระหว่างปี 1813 ถึง 1816 อายุคาดเฉลี่ยของทาสชาย หรือก็คือตัวเลขอายุที่คาดว่าจะมีชีวิตอยู่ถึงนั้นอยู่ที่ 15.18 ปี ส่วนอายุคาดเฉลี่ยของทาสผู้หญิงเท่ากับ 13.21 ปี ซึ่งต่ำกว่าของผู้ชาย
และในส่วนของการปลอดปล่อยทาสชาวไลบีเรีย อายุคาดเฉลี่ยของคนในช่วงอายุ 35 ถึง 49 ปี ก็พบว่าผู้ชายมีอายุคาดเฉลี่ยสูงกว่าผู้หญิงเช่นกัน อย่างไรก็ตาม ในช่วงอายุอื่นๆ ของกลุ่มตัวอย่างนี้ ผู้หญิงมีค่าอายุคาดเฉลี่ยสูงกว่าผู้ชายหมดเลย
อย่างเช่นอายุคาดเฉลี่ยของเด็กเมื่อแรกเกิดนั้น เด็กผู้ชายจะมีค่าอยู่ที่ 1.68 ปี และเด็กผู้หญิงจะมีค่าอยู่ที่ 2.23 ปี
และนอกเหนือจากตัวอย่างข้อมูล 2 เหตุการณ์ข้างต้น ไม่ว่าจะเป็นข้อมูลของการต่อสู้กับความอดอยากของชาวยูเครนในปี 1993 ความอดอยากของชาวสวีเดนในปี 1772-1773 โรคระบาดในไอซ์แลนด์เมื่อปี 1846-1882 และ ความอดอยากของชาวไอร์แลนด์ ในปี 1845-1849 ผู้หญิงต่างก็มีอายุยืนกว่าผู้ชายทั้งนั้น
อย่างไรก็ตามผลวิจัยนี้พูดอ้างอิงถึงความแข็งแกร่งทางกายภาพเท่านั้น ยังมีปัจจัยอื่นๆ อีกมากมายที่ใช้ชี้วัดความแข็งแกร่งของผู้ชายและผู้หญิงแต่ละคน ดังนั้นผู้ชายก็ไม่ต้องกังวลว่าจะแพ้แรงผู้หญิง และผู้หญิงก็ไม่ต้องกลัวว่าจะแข็งแรงเท่าผู้ชายไม่ได้นะ
ที่มา: UNILAD
Leave a Reply
You must be logged in to post a comment.