มาดูความเห็นชาวเน็ตต่างชาติ กับการที่ทรัมป์ถือร่มให้ตัวเอง แต่ไม่ถือให้ภรรยาและลูก…

เมื่อวันที่ 16 มกราคม 2018 สำนักข่าว Daily Mail ได้เผยภาพของประธานาธิบดีแห่งสหรัฐอเมริกา Donald Trump ที่กำลังจะขึ้นเครื่องบินเดินทางไปพร้อมๆ กับครอบครัวของเขา ท่ามกลางสายฝนที่ตกลงมา

ภาพของ Trump ถือร่มกันฝนขณะที่กำลังเดินขึ้นเครื่องบิน

ภาพที่ได้เห็นอาจจะดูไม่แปลกอะไร แต่มันกลับทำให้ชาวเน็ตจำนวนมากวิพากษ์วิจารณ์กับการที่ Trump ถือร่มกันฝนเดินนำหน้าไปเพียงคนเดียว ในขณะที่ Melanie ภรรยาของเขา และลูกชาย Barron เดินตากฝนตามหลังเขามา

สิ่งที่ชาวเน็ตพูดเกี่ยวกับพฤติกรรมของเขาในครั้งนี้คือ ทำไม Trump ถึงใช้ร่มกันฝนให้ตัวเองเพียงคนเดียว ไม่ยอมกันฝนให้ภรรยาที่เดินตามมาข้างหลัง ทั้งๆ ที่ร่มคันนั้นมีขนาดใหญ่มากพอสำหรับคน 2 คนอย่างแน่นอน

การแสดงความคิดเห็นของชาวเน็ตทั้งหลายถูกแบ่งออกเป็นสองฝั่ง ฝั่งหนึ่งคือความคิดเห็นของชาวอังกฤษที่พูดถึงเรื่องความเป็นสุภาพบุรุษและมองว่าผู้นำคนนี้ทำสิ่งที่แย่มากๆ ส่วนอีกฝั่งคือชาวอเมริกันที่มองว่าชายและหญิงก็เท่าเทียมกัน Trump ไม่เห็นจำเป็นต้องไปกางร่มให้ภรรยาซักหน่อย

ความคิดเห็นจากฝั่งอังกฤษส่วนใหญ่ที่พูดถึงเรื่องการไม่เป็นสุภาพบุรุษ

Jollyboy “ถ้าพูดจริงๆ มันคงจะน่าตกใจกว่านี้ถ้าเราเห็น Trump กางร่มให้ภรรยาและลูกชาย เพราะเขาคือคนที่ไร้มารยาท เติบโตมาด้วยเงินเพียงอย่างเดียว และยังทำตัวหยาบคายราวกับสัตว์เดรัจฉาน”

Cazio “เราไม่จำเป็นต้องเสียเวลามองหาว่าเขาจะทำเรื่องโง่ๆ อย่างคนไร้สมองเมื่อไหร่ เพราะเขาก็ทำเรื่องแบบนั้นเป็นประจำอยู่แล้ว”

Sophie45 “Barron ยังเป็นคนที่มีมารยาทมากกว่าพ่อของเขาซะอีก”

ความคิดเห็นจากชาวอเมริกันที่มองว่าการที่ Trump ถือร่มกันฝนให้ตัวเองเพียงคนเดียวก็ไม่ใช่เรื่องผิดแปลกอะไร

Cortney Rae “เป็นเรื่องที่น่าเศร้าที่เรามานั่งสนใจกับเรื่องเล็กๆ น้อยๆ อย่างนี้ แค่ผู้ชายถือร่มให้กับตัวเองเพียงคนเดียวเป็นเรื่องที่จิ๊บจ๊อยมากๆ ถ้าจะพูดอะไรแบบนี้ก็ช่วยไปหาความบกพร่องอย่างอื่นเถอะ”

Heidi Marie “ทุกคนก็สามารถไปหยิบร่มของตัวเองได้นี่ ไม่ได้มีใครมาห้ามไว้ซะหน่อย นี่ก็เป็นการพูดถึงสิทธิความเท่าเทียมกันอย่างที่หลายๆ คนพยายามเรียกร้องอยู่ไม่ใช่หรือไง”

Undra White “สิทธิความเท่าเทียมกันมันแปลกตรงไหน คนที่เข้ามาแสดงความคิดไม่พอใจในเรื่องไหนกัน”

.

นี่เป็นส่วนหนึ่งจากความคิดเห็นที่ตรงกันข้ามกัน แสดงให้เห็นถึงความเชื่อ แนวคิด และวัฒนธรรมที่แตกต่างกันของทั้งสองประเทศ ฝั่งหนึ่งมองเรื่องการเป็นสุภาพบุรุษ อีกฝั่งมองเรื่องของความเท่าเทียม แล้วเพื่อนๆ ละมีความคิดเห็นกันว่ายังไง บอกกันไว้ใต้คอมเมนต์หน่อยนะ

ที่มา: dailymail