ความแตกต่างของเด็กในเกาหลีเหนือ กับเด็กทั่วโลก มาดูกันว่าวิถีชิวิตเด็กที่นั่นเป็นอย่างไร

วิถีชีวิตของคนในประเทศที่ปิดกั้นตัวอย่างเองอย่างเกาหลีเหนือนั้น เป็นสิ่งที่เรามีข้อมูลอยู่น้อยนิดมาก นานๆ ทีเราจะได้มีโอกาสเห็นภาพหรือข่าวเกี่ยวกับเรื่องในประเทศเกาหลีเหนือสักครั้ง

นอกจากนี้เกาหลีเหนือยังปิดกั้นข้อมูลส่วนใหญ่จากภายนอกไม่ให้คนในประเทศรู้อีกด้วย แล้วในประเทศปิดแบบนี้เด็กเล็กจะใช้ชีวิตกันอย่างไรบ้าง วันนี้เราได้ลองรวบรวมข้อมูลเกี่ยวกับเด็กในเกาหลีเหนือมาให้เพื่อนๆ แล้ว ไปดูกันว่าพวกเขาจะใช้ชีวิตต่างกับเด็กในประเทศอื่นอย่างไรบ้าง

 

1.ทารกเกิดใหม่ก็มีชั้นวรรณะแล้ว

 

เด็กทารกที่เกิดในประเทศเกาหลีเหนือจะได้รับชั้นวรรณะ หรือที่คนเกาหลีเหนือเรียกว่า ‘songbun‘ โดยวรรณะจะแบ่งเป็น 3 ชนชั้นก็คือ มีความจงรักภักดี เป็นกลาง และเป็นภัยต่อสังคม

ซึ่งชั้นวรรณะที่ทารกได้รับนั้นจะเป็นแบบเดียวกับพ่อแม่ของตัวเอง และชั้นวรรณะเหล่านี้จะใช้เป็นตัวกำหนดว่าเด็กคนนั้นสามารถเข้าเรียนที่ไหนได้บ้าง และทำงานแบบไหนได้บ้าง เหมือนว่าเกิดมาก็ถูกกำหนดทางเดินชีวิตไว้เลย

 

2.เด็กทุกคนที่นี่ต้องเข้าเรียนชั้นอนุบาล

 

เด็กๆ สามารถเลือกเข้าไปเรียนในชั้นอนุบาลได้ตั้งแต่อายุ 4 ปี แต่ถ้าหากว่าอายุ 5 ปีแล้วทางรัฐบาลจะบังคับให้เด็กทุกคนไปเรียนตามกฎหมาย นอกจากนี้เด็กทุกคนที่ต้องการเรียนหนังสือต้องเคยเข้าเรียนชั้นอนุบาลมาก่อนเป็นเวลาอย่างน้อย 1 ปีด้วย ไม่สามารถข้ามไปเรียนชั้นประถมได้ทันทีเลย

 

3.เด็กกำพร้าบางคนก็มีพ่อแม่เหมือนคนทั่วไป

 

สถานรับเลี้ยงเด็กกำพร้าในประเทศเกาหลีไม่ได้รับเลี้ยงเฉพาะเด็กที่ไม่ทราบว่าพ่อแม่เป็นใครเท่านั้น หากว่าพ่อแม่คู่ไหนมีเงินไม่พอจะเลี้ยงลูก ก็สามารถส่งลูกไปให้กับสถานเลี้ยงเด็กกำพร้าได้เช่นกัน นอกจากนี้ถ้าเกิดรับเลี้ยงเด็กไปแล้วแต่เงินไม่พอเลี้ยงทีหลัง ก็ส่งตัวกลับมาได้ด้วย

 

4.กิจกรรมและการเรียนการสอนล้วนแฝงไปด้วยแนวคิดรักชาติ

 

ในโรงเรียนของเกาหลีเหนือ มักจะมีโปสเตอร์เกี่ยวกับการเมืองติดไว้ตามทางเดินให้เด็กๆ ได้ดูกัน และเวลาที่จัดปาร์ตี้ให้กับเด็กๆ แทนที่จะได้แต่งตัวเป็นตัวการ์ตูนที่ชอบ พวกเขาก็จะแต่งตัวเลียนแบบนักการเมืองภายในประเทศ

นอกจากนี้ในวันสำคัญของประเทศ เด็กเล็กก็จะได้ทำขบวนพาเรดของทหาร เหมือนเป็นการฝังความคิดให้เด็กๆ ว่าเป็นทหารตำรวจที่ได้รบเพื่อชาตินั้นเป็นสิ่งที่ดี

 

 

5.เด็กๆ สามารถเข้าร่วมชมการประหารชีวิตได้

 

แม้ว่าการได้เห็นคนถูกประหารชีวิตจะเป็นเรื่องที่ฟังดูน่ากลัวสำหรับเด็กทั่วไป แต่เด็กในประเทศเกาหลีเหนือสามารถเข้าไปดูเวลาที่มีคนถูกประหารชีวิตได้เป็นเรื่องปกติ และบางครั้งเด็กๆ เองก็ร่วมประนามผู้ถูกประหารชีวิตเสียด้วย

 

 

6.เด็กเล็กก็ต้องทำงานหนักเช่นกัน

 

เด็กเล็กในเกาหลีเหนือเองก็ถือว่าเป็นแรงงานในการเก็บเกี่ยวผลผลิต การปลูกพืชผล และการขุดเหมืองหรือก่อสร้างด้วย เรียกได้ว่าทำงานเหมือนกับผู้ใหญ่เลย นอกจากนี้หากเด็กๆ ทำงานได้ไม่ถึงเกณฑ์ที่ตั้งไว้ก็อาจจะถูกปรับอีกต่างหาก

 

 

7.ของเล่นของเด็กๆ มักจะเกี่ยวข้องกับการทหาร

 

เด็กๆ จะไม่ได้เล่นตุ๊กตาเจ้าหญิงดิสนีย์ หรือว่าหุ่นยนต์ซูเปอร์ฮีโร่ที่มีชื่อเสียงโด่งดังไปทั่วโลก แต่จะได้เล่นกับปืนและรถทหารจำลองแทน ซึ่งน่าจะเป็นวิธีปลูกฝังแนวคิดเรื่องการเป็นทหารอีกทางหนึ่งเช่นกัน

 

8.เนื้อหาหลักที่ได้เรียนในโรงเรียนจะเกี่ยวข้องกับผู้นำประเทศ

 

เด็กทุกคนจะได้เรียนรู้เกี่ยวกับประวัติของผู้นำในประเทศอย่าง Kim Il-sung, Kim Jong-il, และ Kim Jong-un และพอมีอายุ 10 ขวบทางโรงเรียนก็จะพาน้องๆ ไปเข้าชมการประชุมทางการเมืองที่มีในขณะนั้น

นอกเหนือจากเรื่องทางการเมืองแล้ว เด็กๆ ก็จะได้เรียนภาษารัสเซียและภาษาอังกฤษด้วย แต่ก็เรียนในระดับความรู้ที่ต่ำมาก เพราะหนังสือเรียนทั้งหมดเป็นภาษาเกาหลีนั่นเอง

 

9.เวลาว่าง เด็กเล็กมักจะไปเข้าร่วมชมรม

 

หากว่ามีเวลาว่าง เด็กๆ มักจะไม่นั่งเล่นกับของเล่นอยู่บ้านคนเดียว แต่จะออกไปเข้าร่วมชมรมซึ่งมีอยู่มากมายทั่วทั้งประเทศ ชมรมที่เด็กๆ มักจะเข้าร่วมก็จะเป็นชมรมคอมพิวเตอร์ หรือไม่ก็ชมรมเต้นรำซึ่งมักจะเป็นชมรมของโรงเรียนนั่นแหละ

 

10.มีสิ่งบันเทิงให้เด็กๆ มากมายไม่แพ้ประเทศอื่นเลย

 

แม้ว่าจะไม่มีของเล่นแบรนด์ดังเหมือนที่อื่น แต่ถ้าครอบครัวไหนมีเงินมากพอล่ะก็ สามารถพาลูกไปเที่ยวสวนสนุก เล่นเครื่องเล่น หรือไปดูหนังสามมิติที่โรงภาพยนตร์ได้ นอกจากนี้ยังมีสวนสัตว์และพิพิธพันธ์สัตว์น้ำให้น้องๆ เข้าไปดูศึกษาหาความรู้อีกต่างหาก

 

แม้ว่าจะถูกปลูกฝั่งให้มีความเชื่อต่างกัน

แต่เด็กๆ ก็ได้เล่นซนสนุกสนานเหมือนคนประเทศอื่นเหมือนกัน

 

ที่มา: brightside