ว่าด้วยเรื่องราคาอาหารในบ้านเราที่กลายเป็นประเด็นเด่นในโซเชียลหลายต่อหลายครั้ง เพราะบางร้านโดยเฉพาะร้านที่อยู่ในย่านท่องเที่ยว มักจะตั้งราคาที่แพงเกินไปจนผู้คนรับไม่ได้
ล่าสุดเกิดประเด็นดราม่าอีกแล้วและไม่ใช่แค่ในไทย เพราะข่าวนี้ดังไกลไปถึงประเทศเพื่อนบ้านอย่างประเทศจีน จนทำให้ชาวจีนบางคนถึงกับลั่น ‘ไม่อยากมาไทยแล้ว’
เรื่องของเรื่องเกิดจากร้านอาหารแห่งหนึ่งในย่านประตูน้ำ ได้ขายข้าวกะเพราหมูกรอบ-ไข่ดาว จานละ 150 บาทให้กับลูกค้า จนลูกค้าคนดังกล่าวรู้สึกว่าราคานี้แพงเกินไปและได้ถ่ายรูปไปโพสต์ลงเฟซบุ๊ก
ต่อมามีชาวเน็ตแห่คอมเมนต์กันว่าราคากะเพราหมูกรอบ-ไข่ดาว จานละ 150 บาทสำหรับคนไทยนั้นแพงเกินไปจริงๆ ก่อนจะกลายประเด็นดังที่สื่อต่างๆ นำไปวิพากษ์วิจารณ์
ในที่สุดเมื่อเรื่องนี้ถึงหูเจ้าของร้าน ทางแม่ค้าจึงได้ออมาชี้แจงว่าที่ขายราคา 150 บาท นั้นเพราะคิดว่าเป็นคนจีน หากรู้ว่าเป็นคนไทยจะขายให้ในราคา 80 บาท
แต่แล้วคำชี้แจงนี้ก็ล่วงรู้ไปถึงหูนักท่องเที่ยวชาวจีน และแน่นอนว่าพวกเขารู้สึกไม่พอใจเป็นอย่างมากที่แม่ค้าคนไทยจงใจตั้งราคาสูงสำหรับคนจีน
ประเด็นนี้ถูกนำไปโพสต์ในเพจในเว็บไซต์ weibo ซึ่งเป็นเพจที่นำเสนอเรื่องราวของเมืองไทยให้คนจีนได้เข้าใจคนไทย จนได้รับความสนใจจากชาวเน็ตจีนเป็นจำนวนมาก
ทางเพจได้เผยแพร่ข่าว “แม่ค้าขายอาหารที่ประตูน้ำ ขายราคาแพง แบ่งเรทราคา ราคาคนจีน (ต่างชาติ) และคนไทย” โดยต้องการบอกให้คนจีนรู้ว่าชาวไทยเองก็ไม่พอใจกับเหตุการณ์นี้เหมือนกัน
ชาวเน็ตจีนหลายคนเข้ามาแสดงความคิดเห็นด้วยอารมณ์โมโหว่า ‘ไม่อยากมาไทยอีกแล้ว’ ‘ไม่กล้าไปไทยแล้ว’ บ้างก็บอกว่า ‘รู้แล้วว่าทำไมตอนไปเกาะสมุยถึงรู้สึกว่าราคาอาหารแพงมาก ที่แท้แบ่งแยกราคาคนจีนกับคนไทยนี่เอง’
อย่างไรก็ตาม มีชาวจีนอีกจำนวนหนึ่งที่แสดงความคิดเห็นอย่างเป็นกลางว่า ‘ทุกที่มีทั้งคนดีและไม่ดี สถานที่ท่องเที่ยวของจีนเองก็ขายราคาแพงแบบนี้ให้คนต่างชาติเหมือนกัน’ บางคนบอกว่า ‘ไปเที่ยวไทยมา คนไทยเป็นมิตรมากเลยนะ’
นอกจากนี้ยังมีบางคนแสดงความคิดเห็นว่า ‘ตอนนี้ทุกคนมักมองว่าเศรษฐกิจของจีนดี คนจีนเป็นคนมีเงิน มองคนจีนเหมือนตู้ ATM เคลื่อนที่ ดังนั้นไม่ว่าจะไปที่ไหน พ่อค้าแม่ค้าก็จ้องแต่จะเอาเงินกับคนจีน’
แน่นอนว่าหลังจากที่มีการพูดถึงคนไทยในต่างประเทศในด้านที่ไม่ค่อยดีสักเท่าไหร่ ส่งผลให้เรื่องนี้ยิ่งทวีความรุนแรงมากขึ้นไปอีก โดยคนไทยจำนวนไม่น้อยให้ความสนใจและวิพากษ์วิจารณ์ถึงประเด็นนี้
ต่อมาทีมข่าวอมรินทร์จึงได้ลงพื้นที่ไปยังตลาดนีออน ย่านประตูน้ำ และได้สัมภาษณ์ นางธัญสินี ไมตรี หรือ “ธัญ” เจ้าของร้านอาหารไทย Bangkok Street seafood ที่ขายกะเพราหมูกรอบ-ไข่ดาว จานละ 150 บาทดังกล่าว
คุณธัญเผยว่าตนไม่เคยแบ่งราคาอาหารระหว่างคนไทยและคนต่างชาติ แต่ที่ขาย 80 บาทให้คนนั้น เรียกว่าเป็นการลดราคาให้มากกว่า
และยังบอกว่าอีกว่าก่อนหน้านี้ทางร้านขายข้าวกะเพราหมูกรอบ-ไข่ดาว จานละ 150 บาทจริง แต่ ณ ปัจจุบันนี้ได้ปรับลงให้เหลือ 80 บาทแล้ว และไม่แบ่งแยกคนไทยกับต่างชาติด้วย แต่คิดให้ในราคาเท่ากัน
ทั้งนี้หลังจากที่โดนกระแสวิพากษ์วิจารณ์ทั้งในไทยและจีน ทางร้านได้ปรับลดราคาและติดป้ายทุกเมนูเรียบร้อยแล้ว โดยบอกว่าเรื่องนี้ไม่ได้ส่งผลกระทบทำให้ลูกค้าน้อยลงแต่อย่างใด
ส่วนที่คนจีนแสดงความคิดเห็นว่าคนไทยมองคนจีนเป็นตู้ ATM เคลื่อนที่นั้น คุณธัญบอกว่าไม่เคยคิดเช่นนั้น ไม่มีการแบ่งกลุ่มลูกค้าหรือเจาะเป้าหมายแค่กลุ่มลูกค้าชาวจีน เพราะทางร้านมีลูกค้าหลายเชื้อชาติ ทั้งชาวสิงคโปร์และชาวมาเลเซีย
สุดท้ายเจ้าของร้านบอกว่ารู้สึกผิดกับนักท่องเที่ยว แต่ตอนนี้ปรับราคาแล้วและอยากให้สังคมเข้าใจว่าทางร้านมีต้นทุนสูง ต้องจ่ายทั้งค่าที่และค่าจ้างพนักงานอีกด้วย
Leave a Reply
You must be logged in to post a comment.