เชื่อหรือไม่ว่า ครั้งหนึ่ง ยาพิษ นั้นเป็นอาวุธสังหารที่มีประสิทธิภาพสูงที่คร่าชีวิตผู้คนได้อย่างแยบยล โดยเฉพาะอย่างยิ่ง สำหรับผู้ทรงอำนาจที่ล้วนมีผู้คุ้มกันอันตรายอยู่รอบตัว ยาพิษนั้นจึงเป็นตัวเลือกที่ดีสำหรับนักลอบสังหาร
ที่เป็นเช่นนั้น เพราะเพียงแค่นำยาพิษไปผสมกับอาหารหรือเครื่องดื่มของเป้าหมายก่อนที่เขาจะกินหรือดื่มเข้าไป เพียงเท่านั้น บุคคลที่ต้องการกำจัดก็เป็นอันสิ้นใจ
ดังนั้นในยุคสมัยก่อน ความกลัวยาพิษที่ปนเปื้อนมาในอาหารและเครื่องดื่มนั้นได้แพร่กระจายไปทั่ว ผู้สูงศักดิ์และเศรษฐีต่างพากันจ้าง “คนชิมอาหาร” ไว้ป้องกันอันตรายที่จะเกิดขึ้น และความกลัวเหล่านี้ก็ยังคงอยู่ในยุคสมัยปัจจุบัน…
ดังนั้น CatDumb จึงขอพาทุกท่านมาอ่านเรื่องราวอันเป็นตำนานของคนชิมอาหาร ว่าลองได้รับตำแหน่งนี้เข้าแล้ว ชีวิตของคนชิมอาหารจะเป็นอย่างไรกันบ้าง
เฮโลตุส (Halotus) – นักวางยาต้องสงสัย
เฮโลตุสเป็นคนที่มีชื่อเสียงเนื่องจากเขานั้นเป็นถึงคนชิมอาหารของจักรพรรดิคลอดิอุสแห่งโรมัน (Claudius) เขานั้นทำหน้าที่ชิมอาหารและเครื่องดื่มเพื่อทดสอบว่ามียาพิษปนเปื้อนมาหรือไม่ ก่อนนำไปถวายให้แก่องค์จักรพรรดิ
แต่วันหนึ่งหนึ่งจักรพรรดิคลอดิอุสก็สิ้นใจจากยาพิษที่ติดมากับเห็ดที่เฮโลตุสนำมาถวาย เขาจึงถูกขังในข้อหาปลงพระชนม์โดยความจริงแล้วเป็นฝีมือของพระมเหสีนั่นเอง แต่ต่อมาไม่นานขณะที่จักรพรรดิเนโร (Nero) ขึ้นครองราชย์ เขาก็กลับมาเป็นคนชิมอาหารอีกครั้ง
และเมื่อเปลี่ยนยุคสมัยเป็นจักรพรรดิกัลบา (Galba) ผู้ที่ตั้งใจจะฆ่าบ่าวรับใช้ของ อดีตจักรพรรดิเนโรทุกคน แต่เฮโลตุสกลับได้รับการไว้ชีวิต จากนั้นชื่อของเฮโลตุสก็ถูกลืมเลือน
คนชิมผู้โชคร้ายของ มาร์ก แอนโทนี (Mark Antony)
ไม่ใช่ผู้ชิมทุกคนจะโชคดีอย่างเฮโลตุส ตามตำนานเล่าว่า ในยุค 31 ปีก่อนคริสตกาล มาร์ก แอนโทนี กับ คลีโอพัตรา (Cleopatra) นั้นเป็นคู่รักกัน ถึงจะเป็นเช่นนั้น มาร์กกลับไม่ไว้ใจคลีโอพัตราเลย เขาสั่งคนให้คนชิมอาหารอยู่ข้างกายเขาเสมอ เพราะกลัวว่าวันหนึ่งที่เขาหมดประโยชน์ คลีโอพัตราจะวางยาพิษเพื่อกำจัดเขาทิ้ง
เมื่อเรื่องนี้รู้ไปถึงคลีโอพัตรา วันหนึ่งในระหว่างงานเลี้ยง คลีโอพัตราใส่มงกุฎดอกไม้เข้าร่วมงานโดยที่ปลายหนามของแต่ละดอกนั้นอาบยาพิษมาก่อนแล้ว เมื่อเธอนึกสนุก เธอจึงท้าให้มาร์กนั้นกินดอกไม้บนมงกุฎพร้อมกับไวน์ ด้วยกลัวเสียหน้ามาร์กจึงรับคำท้า
ขณะที่มาร์กกำลังจะนำดอกไม้และไวน์เข้าปากนั้น คลีโอพัตราได้ห้ามเอาไว้และบอกให้คนชิมลองชิมดูก่อน มาร์กจึงเรียกคนชิมมาทดสอบ จากนั้น คนชิมก็สิ้นใจทันที คลีโอพัตราจึงกล่าวกับมาร์กว่า วิธีป้องกันยาพิษที่ดีที่สุดคือการที่เขาเชื่อใจนางนั่นเอง
ชิมอาหารให้กับท่านผู้นำและประธานาธิบดี
อาชีพคนชิมอาหารนั้นยังคงหลงเหลืออยู่ในยุคปัจจุบัน โดยในสมัยสงครามโลกครั้งที่ 2 นั้น หญิงสาวจำนวนหนึ่งถูกบังคับให้มาเป็นคนชิมอาหารให้กับฮิตเลอร์ (Hitler) โดยล่าสุดในปี 2014 หญิงคนหนึ่งซึ่งเคยเป็นหนึ่งในกลุ่มคนชิมอาหารให้กับฮิตเลอร์ได้ออกมาเล่าถึงประสบการณ์การเป็นคนชิมอาหารให้กับฮิตเลอร์
โดยในช่วงที่มีการเล่าเรื่องของเธอนั้นเอง ก็ได้มีการเปิดเผยว่าในสมัยนั้นประธานาธิบดีของสหรัฐอเมริกาเองก็มีคนชิมอาหารไว้ข้างกายเช่นกัน
และในปี 2009 ที่ผ่านมา มีรายงานว่าที่ภัตตาคารแห่งหนึ่งที่นาย บารัค โอบามา (Barack Obama) อดีตประธานาธิบดีของสหรัฐอเมริการ่วมรับประทานอาหารกับครอบครัว พบว่ามีคนชิมอาหารคอยชิมเพื่อทดสอบยาพิษเช่นกัน
ดังนั้นจึงเป็นสิ่งที่แสดงให้เห็นว่า ปัจจุบัน ความกลัวการลอบสังหารด้วยยาพิษก็ยังคงอยู่ และอาชีพ “คนชิมอาหาร” ก็ยังคงไม่หายไปจากสังคมปัจจุบัน
ที่มา: Ancient-Origins
Leave a Reply
You must be logged in to post a comment.