นักปีนเขาคนหนึ่งถูกชาวเน็ตโจมตีอย่างหนักหน่วง เนื่องจากเขาทิ้งสัตว์เลี้ยงของตัวเองเอาไว้ท่ามกลางพายุหิมะบนภูเขาในประเทศสก๊อตแลนด์ แล้วหนีไปหลบพายุหิมะคนเดียว ภายหลังก็พบว่ามันตายเสียแล้ว
ในวันที่ 14 มกราคมที่ผ่านมา นาย Paul Finnegan นักปีนเขาจากเมืองช็อตส์ เขตนอร์ธลานาร์คชายร์ ประเทศสก๊อตแลนด์ ตัดสินไปขึ้นไปปีนเขา Beinn Sgulaird ซึ่งสูงถึง 3074 ฟุต (ประมาณ 930 เมตร) กับ Meg สุนัขพันธุ์บอร์เดอร์คอลลี่ของเขา
ทว่าเจ้าสุนัขวัย 12 ปีเกิดหมดแรงขึ้นมากลางทาง ซ้ำร้ายตอนนั้นยังมีพายุหิมะเข้าหนักอีก หลังจากเขาและเพื่อนพยายามแบกมันลงจากเขาสักพัก เขาก็ต้องตัดใจลงไปหลบพายุหิมะแล้วทิ้งมันไว้แล้วกลางทาง
Meg สุนัขของ Paul Finnegan
ญาติของเขาบอกว่าเขาไม่มีทางเลือกอื่นแล้ว เพราะว่าอากาศก็เลวร้ายลงเรื่อยๆ จึงต้องทิ้งมันเอาไว้ก่อนอย่างช่วยไม่ได้ แล้วออกตามหามันเมื่อพายุหิมะสงบลงอีกที
นักปีนเขาที่เชี่ยวชาญเองก็ไม่โทษเขาเหมือนกัน กลับรู้สึกเห็นใจเขาด้วย เพราะแม้ว่าเขาจะตัดสินใจทิ้งสุนัขแสนรักเอาไว้กลางภูเขาหิมะแบบนั้น แต่มันก็เป็นการตัดสินใจในสถานการณ์ฉุกเฉินอย่างหนึ่งที่ช่วยชีวิตเขาไว้ได้
โพสต์ของครอบครัวนาย Paul Finnegan ที่ขอความช่วยเหลือตามหาสุนัข
เมื่อพายุหิมะสงบลงเขากับเพื่อนก็กลับไปหาสุนัขทันที แต่เนื่องจากจำไม่ได้ว่ามันหายไปตรงไหน จึงทำให้การค้นหาเป็นไปอย่างลำบาก สุดท้ายเขาก็หามันไม่เจอ
คนในครอบครัวของเขาจึงโพสต์ในเฟซบุ๊กเพื่อขอความช่วยเหลือว่า “ฉันอยากขอคำแนะนำหน่อยค่ะ เมื่อวานคนในครอบครัวไปปีนเขา Beinn Sgulaird กับสุนัขแต่ว่ามันหมดแรงเสียก่อน สามีพยายามช่วยมันลงมาแล้วแต่อากาศมันเลวร้ายมาก แล้วมันก็มืดมากแล้วด้วยเขาก็เลยต้องทิ้งมันไว้
เขาหนีมาหลบอยู่ในรถแล้วหลับพักจนกระทั่งพระอาทิตย์ขึ้น จากนั้นจึงขึ้นไปตามหามัน แต่ก็เพราะเมื่อวานมันมืดเลยไม่รู้ว่าพลัดหลงกันตรงไหนเลยหามันไม่เจอ พอจะรู้ไหมคะว่าฉันจะโทรขอความช่วยเหลือจากใครได้บ้าง”
โพสต์เฟซบุ๊กของ Morag McNeill
ทว่าหลังจากชาวเน็ตเห็นโพสต์ขอความช่วยเหลือ คนบางส่วนก็รู้สึกไม่พอใจอย่างมากที่ชายนักปีนเขาทิ้งสุนัขเอาไว้แบบนั้น พวกเขาคิดว่านั่นเป็นการตัดสินใจที่ผิดมาก
ผู้ใช้เฟซบุ๊กที่ชื่อ Morag McNeill บอกว่า “ตอนนี้ฉันทั้งโกรธและก็เสียใจด้วย ฉันขอประณามนาย Paul Finnegan จากเมืองช็อตส์คนนี้ เขาพาสุนัขชื่อ Meg ไปปีนเขา Beinn Sgulaird ด้วยเมื่อสุดสัปดาห์ที่แล้ว มันอายุ 12 ปีแล้วก็เลยหมดแรงกลางทาง เขาก็เลยทิ้งมันให้ตายอยู่ที่นั่น
คนแปลกหน้าจำนวนหนึ่งกำลังช่วยตามหามัน แต่ว่าฉันกลับไม่เห็นเขาทำอะไรเลย ใครที่รู้จักนายคนนี้ช่วยด่าแทนฉันที ฉันขอให้เจอเจ้า Meg ไวๆ และขอให้มันปลอดภัยด้วย ฉันอยากจะให้มันไปเจอบ้านใหม่ที่มีเจ้านายที่ดีกว่านี้ นายคนนี้ทิ้งมันไว้จึงไม่คู่ควรกับสุนัขตัวนี้เลย ใครรู้ว่าบ้านนายคนนี้อยู่ไหนก็ลองเรียกองค์กรสัตว์เลี้ยงเข้าไปตรวจดูบ้างนะ”
Paul Finnegan นักปีนเขาชาวสก๊อตแลนด์
นอกจากเขาแล้วชาวเน็ตอีกหลายคนก็รู้สึกว่าเขาตัดสินใจได้ไม่ดีพอเช่นกัน ผู้ใช้งานเฟซบุ๊กที่ชื่อ Heidi Blasiuis บอกว่า “ตัดสินใจได้แบบไม่มีสามัญสำนึกเลย เขาทำให้หมาผิดหวัง”
ผู้ใช้งานเฟซบุ๊กอีกท่านก็พูดว่า “เขาทิ้งสัตว์เลี้ยงไว้แบบนั้นได้ยังไง? ถ้าเป็นฉันยังไงก็จะหาทางช่วยสุนัขให้จงได้ ฉันว่าสัตว์เลี้ยงสำคัญกว่าตัวฉันเสียอีก สัตว์เลี้ยงต้องพึ่งพาเจ้าของนะ จะทิ้งมันไว้แบบนั้นไม่ได้เด็ดขาด!”
โพสต์เฟซบุ๊กของ Karen Mills
ผู้ใช้เฟซบุ๊ก Karen Mills เองก็บอกว่า “ทุกครั้งที่ฉันได้อ่านอะไรเกี่ยวกับ Meg ที่หายไป ฉันรู้สึกโกรธเจ้าของมันมากขึ้นเรื่อยๆ ถ้าเกิดเขาบาดเจ็บแทนล่ะก็รับรองเลยว่าเจ้าหมาจะไม่ทิ้งเขาแน่นอน เขานั่นหละที่ควรจะถูกทิ้งไว้แทน หลังจากที่เขาทิ้งมันไว้ในวันเสาร์ เขาก็ยังไม่ออกไปตามหามันเลยขลุกตัวอยู่แต่ในบ้าน แย่จริงๆ”
Emma Hardy ผู้ใช้งานเฟซบุ๊กอีกท่านก็บอกว่า “ฉันไม่อยากเชื่อเลยว่ามีคนปกป้องคนใจร้ายแบบนี้ด้วย ดูสิ คนอื่นเขาช่วยกันตามหาเจ้าหมานะแต่เขายังใช้ชีวิตประจำวันตามปกติอยู่เลย”
เมื่อเห็นชาวเน็ตต่อว่าเขาแบบนั้นแล้ว ญาติของเขาจึงพยายามอธิบายว่าเขาไม่ได้อยากทิ้งมันไว้แบบนั้นหรอก เธอโพสต์ว่า “เขาไม่ได้ตั้งใจทิ้งมันไว้จนตาย ตอนนั้นเขาไม่มีสัญญาณโทรศัพท์แล้วก็พยายามช่วยมันสุดความสามารถแล้ว เขาแบกมันจนกระทั่งเขาเองก็ทนสู้กับพายุและสายฝนไม่ไหว”
เธอยังบอกอีกว่า “Paul ทิ้งมันไว้เพื่อไปขอความช่วยเหลือต่างหาก ถ้าคุณไม่รู้เรื่องทั้งหมดล่ะก็อย่าเอาแต่ฟังความอย่างเดียวสิ ฉันไม่อยากเห็นคอมเมนต์ที่มีคำด่าว่าพวกนั้นอีกแล้ว”
แต่ก็ไม่ได้มีแต่คอมเมนต์ว่าร้ายเขาเพียงอย่างเดียว มีหลายคอมเมนต์ที่ให้กำลังใจเขาและพยายามจะช่วยเหลือเขาให้ตามหา Meg เจอด้วย
ชาวเน็ตจำนวนหนึ่งได้พยายามรวบรวมเงินกันเพื่อให้ทีมค้นหาได้ช่วยเหลือเจ้าสุนัข และเงินที่รวมกันนั้นก็เกินเป้าที่ตั้งไว้เพียง 500 ปอนด์ (ประมาณ 22,000 บาท) ไปมากกว่าเท่าตัวเลยทีเดียว
แต่น่าเสียดายที่สุดท้ายแล้วเจ้าสุนัขก็ไม่ได้มีชีวิตรอดกลับมา หลังจากเกิดเรื่องไม่นาน Paul และเพื่อนก็ได้ออกตามหามันอีกครั้ง เมื่อพวกเขาเจอมันในที่ที่คิดว่าเป็นจุดที่พลัดหลงกัน ก็พบว่ามันตายไปแล้ว
ภูเขา Beinn Sgulaird
Andy Ravenhill หัวหน้าทีมช่วยเหลือจากภูเขา Oban Mountain กล่าวว่า “การตัดสินใจของเขาไม่ได้ผิดหรือถูกแต่อย่างใดเลย ไม่มีใครบอกได้หรอกว่าเราควรจะทำอย่างไรในสถานการณ์แบบนั้น”
เขายังบอกอีกว่า “การที่เขาตัดสินใจทิ้งมันไว้ เป็นเรื่องที่ทำได้ยากมาก และในเมื่อเขาตัดสินใจแบบนั้นแล้วเขาก็คงต้องยอมรับผลที่จะตามมาด้วยเช่นกัน”
ที่มา: dailymail
Leave a Reply
You must be logged in to post a comment.