ต้องยอมรับว่าตั้งแต่มีการปรากฏตัวของ BNK48 มันก็เริ่มทำให้นิยามของคำว่า “ไอดอล” ในบ้านเราค่อยๆ เปลี่ยนไปทีละหน่อยๆ จากที่แต่ก่อนต้องน่ารัก เรียนเก่ง หรือเซ็กซี่เพียงอย่างเดียว ก็เริ่มมีมิติอื่นๆ เข้ามาด้วย ทั้งเรื่องของความพยายาม การแข่งขัน มิตรภาพ ความคิดความอ่าน ไหวพริบ เพราะยิ่งไอดอลมีคุณสมบัติเหล่านี้เยอะเท่าไหร่ มันก็ยิ่งเพิ่มมูลค่าให้กับตัวเองมากขึ้น
และเพราะมันเริ่มมีการพูดถึงกลุ่มไอดอลอย่าง BNK48 บ่อยขึ้นๆ จนคนในบ้านเราเริ่มมองว่านี่มันคือกลุ่มอะไร? ทำไมถึงมีกฎเกณฑ์เยอะแยะ? ทำไมถึงมีผู้คนให้ความสนใจเยอะขนาดนี้? มันมีเรื่องเพศเข้ามาเกี่ยวข้องหรือเปล่า? ไอ้ที่เกริ่นๆ มามันมีคำตอบหมดเลยในสารคดี “โตเกียวไอดอล” ที่#เหมียวฟิ้นเพิ่งดูไปใน Netflix ต่อไปนี้จะเป็นการสรุปเนื้อหาสำคัญบางช่วงบางตอนนะครับ
1. ในญี่ปุ่นมีคนที่เรียกตัวเองว่าไอดอลราวๆ หมื่นคน มีทั้งกรุ๊ปใหญ่ๆ แบบพวก AKB48, NMB48, SKE48 ไปจนถึงกลุ่มที่เล็กมากๆ ตามเมืองเล็กๆ หรือแม้แต่ไอดอลเดี่ยวๆ ที่มีกลุ่มคนไปดูไม่มากมายอะไรก็ยังมี
2. ในบรรดาไอดอลทั้งหลาย มีไม่น้อยเหมือนกันที่ไม่ได้ตั้งใจจะเป็นไอดอล แต่มองว่านี่คือทางผ่านไปสู่อาชีพนักร้องหรือนางแบบ เลยเลือกที่จะใช้เวทีไอดอลเพื่อฝึกปรือฝีมือ
3. สาเหตุที่เหล่าโอตะ (แฟนคลับ) ของไอดอล (หรือที่เรียกว่าโอตะ-ที่มาจากคำว่าโอตาคุ) ให้ความสำคัญกับไอดอลมาก ส่วนหนึ่งมาจากความชื่นชอบ ส่วนหนึ่งอาจมาจากความผิดหวังในชีวิต ที่ไม่ประสบความสำเร็จในด้านใดเลย พวกเขาจึงหันมาให้การสนับสนุนไอดอล เพราะมองว่านี่คือการทำบางสิ่งที่เป็นชิ้นเป็นอันที่ประสบความสำเร็จได้ง่ายๆ อย่างหนึ่ง
4. สิ่งที่ทำให้โอตะรู้สึกมีอารมณ์ร่วมมากๆ เวลาเชียร์ไอดอลของตัวเองในคอนเสิร์ต ก็เพราะว่ามันคือสถานที่เดียวที่ทำให้พวกเขาได้แสดงพลังร่วมกัน เพราะในชีวิตจริงชาวญี่ปุ่นมองเห็นคุณค่าในตัวเองได้น้อย
5. มีการคาดการณ์ว่าวงไอดอลอย่าง AKB48 หรือ 48Group สามารถทำรายได้สูงถึง 1,000 ล้านเหรียญต่อปี (ราวๆ สามหมื่นหนึ่งพันก้าวร้อยล้านบาท) ส่วนใน Wikipedia มีข้อมูลเสริมระบุว่าแค่ในปี 2012 กลุ่ม AKB48 ก็สามารถทำเงินได้มากถึง 7,000 ล้านบาท
6. หนุ่มๆ หลายคนที่เลือกจะเชียร์ไอดอลมากกว่ามีแฟนจริงๆ เพราะพวกเขาคิดว่าการมีแฟนนั้นยุ่งยากเกินไป ในขณะที่ไอดอลจะไม่ต่อล้อต่อเถียงกับคุณหรือสร้างเรื่องลำบากใจให้คุณเลย มีเพียงการให้กำลังใจและเอนเตอร์เทนแฟนๆ
7. โอตะบางคนยอมเลิกกับแฟนของตัวเอง เพื่อจะได้เอาเวลามาติดตามไอดอลที่พวกเขาชื่นชอบแบบจริงๆ จังๆ
8. ชาวญี่ปุ่นไม่ได้ชื่นชอบไอดอลไปซะหมด เพราะบางคนก็มองว่าไอดอลควรถูกแบน เพราะเป็นส่วนหนึ่งที่ทำให้ผู้ชายไม่กล้ามีความสัมพันธ์จริงๆ ส่งผลให้คนแต่งงานและมีลูกน้อยลง
9. โอตะบางคนยอมรับว่าการติดตามไอดอลที่พวกเขาชื่นชอบ บางทีก็เป็นเรื่องที่เหนื่อยมาก บางคนต้องเสียเงินเดือนละกว่า 5-6 หมื่นบาท โดยที่ไม่เหลือเงินเก็บเลย
10. โอตะบางคนยอมรับว่าความรู้สึกของตัวเองที่มีต่อไอดอลนั้น บางทีก็มีความรู้สึกทางเพศเข้ามาเกี่ยวข้องด้วย
หากใครอ่านมาถึงตรงนี้อาจจะคิดว่าวงการไอดอลนั้นมีแต่เรื่องเลวร้ายและนำพาแต่เรื่องชวนจิตตกล่ะก็ไม่ต้องแปลกใจไป เพราะตัวสารคดีโตเกียวไอดอลเองนั้นพยายามนำเสนอเพียงแค่บางแง่มุมเท่านั้น จนน่าเสียดายที่เราไม่ได้เห็นด้านดีๆ ของไอดอลสักเท่าไหร่
เพราะอย่าง BNK48 เองก็เคยมีเรื่องราวเกี่ยวกับผู้ป่วยโรคซึมเศร้าที่มีอาการดีขึ้นเพราะมาติดตามผลงานของเหล่าสาวๆ หรือแม้แต่แฟนคลับรุ่นคุณยายที่พอมาติดตามกลุ่มไอดอลกลุ่มนี้ก็ช่วยให้แกมีความสุขในการดำเนินชีวิตมากขึ้นเช่นกัน
หากใครสนใจและอยากดูแบบเต็มๆ ล่ะก็ สามารถหาชมได้แล้วผ่าน Netflix นะจ๊ะ
เรียบเรียงโดย เหมียวฟิ้น
Leave a Reply
You must be logged in to post a comment.