จระเข้ที่เราเห็นกันทั่วไป มักจะมีผิวหนังเป็นสีดำ สีน้ำตาลเข้ม หรือสีที่ใกล้เคียงกัน นอกจากนี้ยังมีจระเข้สีขาวซึ่งเป็นจระเข้เผือก
แต่เมื่อปี 2008 นักวิจัยได้ค้นพบกลุ่มจระเข้สีส้มความยาว 1.5 เมตร อยู่ในถ้ำในพื้นที่ห่างไกลของประเทศกาบอง ในแอฟริกาตะวันตก
ในช่วงแรกของการค้นพบ ผู้เชี่ยวชาญเชื่อว่ามันคือสายพันธุ์จระเข้แคระแอฟริกา อย่างไรก็ตาม ผลการวิจัยใหม่เผยว่ามันอาจจะเป็นจระเข้สายพันธุ์ใหม่
นักวิทยาศาสตร์ที่นำโดยทีมวิจัย Institute of Research for Development ในเมืองมาร์แซย์ ประเทศฝรั่งเศส ได้พบจระเข้ในถ้ำแห่งนี้กว่า 30 ตัว โดย 10 ตัว มีผิวสีส้ม
พวกมันมักจะซ่อนตัวอยู่ในส่วนลึกของถ้ำที่เต็มไปด้วยน้ำ โดยจะกินเฉพาะค้างคาวและจิ้งหรีดเท่านั้น และมักจะออกหากินในเวลากลางคืน นั่นหมายความว่ามันสามารถมองเห็นได้ดีในที่มืด
ต่อมาในปี 2015 ทีมนักวิจัยไปย้อนกลับไปยังถ้ำเดิมอีกครั้ง แล้วพบว่าพวกมันยังคงอาศัยอยู่ในถ้ำเช่นเดิม ทั้งนี้ได้มีการตรวจสอบเพิ่มเติมโดยผู้เชี่ยวชาญ พบกว่ามันมีลักษณะของยีนที่แตกต่างออกไปจากจระเข้แคระแอฟริกา
Richard Oslisly ผู้นำการวิจัยบอกว่า “เราสามารถพูดได้ว่ามันเป็นจระเข้สายพันธุ์ที่มีการกลายพันธุ์ เนื่องจากมันมียีนที่แตกต่างกัน อาหารที่กินก็ต่าง และยังเป็นสายพันธุ์ที่ปรับตัวเข้ากับโลกใต้ดินอีกด้วย”
ทีมวิจัยยังบอกอีกว่าจระเข้ที่มีอายุน้อยสามารถออกไปนอกถ้ำได้ ผ่านช่องเล็กๆ เพราะขนาดตัวมันพอดี แต่เมื่อพวกมันโตขึ้นและมีขนาดตัวเท่ากับจระเข้ตัวโตเต็มวัย มันจะติดอยู่ในถ้ำ และต้องกินอะไรก็ได้ที่อยู่ในถ้ำเพื่อความอยู่รอด
ส่วนสีผิวที่ผิดปกตินี้ นักวิจัยบอกว่าน่าจะเป็นผลมาจากการใช้ชีวิตอยู่ในที่ที่มีน้ำผสมกับมูลของค้างคาว
ที่มา dailymail
Leave a Reply
You must be logged in to post a comment.