ถ้าใครเคยได้ไปเที่ยวประเทศญี่ปุ่น เคยสังเกตกันไหมว่ามีแต่คนหุ่นดีเต็มไปหมด ไม่ค่อยได้พบเห็นคนอ้วนเลย แต่ในประเทศสหรัฐอเมริกา กลับตรงกันข้าม
จากการสำรวจพบว่าอัตราเฉลี่ยของคนวัยผู้ใหญ่ที่เป็นโรคอ้วนในประเทศสหรัฐอเมริกานั้นสูงถึง 30% ในขณะที่ประเทศญี่ปุ่นนั้นมีเพียง 3.5% เท่านั้น
.
อาหารการกินของคนในประเทศญี่ปุ่นนั้นมีความแตกต่างจากของอเมริกามาก จำนวนร้านอาหารจานด่วนในประเทศญี่ปุ่นนั้นมีน้อยกว่าถึง 15 เท่า จึงทำให้คนชาวญี่ปุ่นเลือกที่จะกินอาหารอย่างอื่นที่หลากหลายกันมากกว่า
แม้ว่าจะมีร้านอาหารจานด่วนอยู่บ้าง ก็ยังมีร้านข้าวสำหรับคนวัยทำงานที่มีเมนูง่ายๆ อย่างข้าวหน้าเนื้อ ซุปมิโสะ และอีกหลายเมนูที่ให้สารอาหารอย่างครบถ้วน มีราคาประหยัดและสะดวกรวดเร็ว หรือแม้กระทั่งในร้านสะดวกซื้อของประเทศญี่ปุ่นก็มีอาหารที่ดีต่อสุขภาพและราคาถูกให้เลือกมากมาย เช่น ข้าวปั้น สลัด หรือซุป
เปรียบเทียบกับร้านสะดวกซื้อของอเมริกาในราคาเดียวกัน จะเลือกซื้อได้เพียงไม่กี่อย่าง ซึ่งส่วนใหญ่จะเป็นของทอดที่เต็มไปด้วยไขมัน ของหวาน และของที่ไม่ดีต่อสุขภาพอีกมากมาย
นอกจากนั้นร้านสะดวกซื้อของญี่ปุ่นมีอยู่แทบจะทุกที่ มีจำนวนกว่า 55,000 ร้าน ซึ่งหมายความว่ามีจำนวนร้านสะดวกซื้อต่อพื้นที่ 1 ตารางกิโลเมตรมากกว่า 10 เท่าเมื่อเทียบกับอเมริกา
ถ้าหากคุณเพิ่งเลิกงาน คุณสามารถเลือกว่าจะเข้าร้านเบอร์เกอร์คิง หรือเลือกที่จะเข้าร้านซูชิข้างๆ หรือแม้กระทั่งร้านข้าวหน้าเนื้อที่มาพร้อมกับซุปเต้าหู้ หัวหอมและผักกาด ซึ่งความหลากหลายนี้จะทำให้ง่ายต่อการกินอาหารที่สุขภาพดีกว่า เนื่องจากคุณจะไม่ต้องทนเบื่อกินอาหารแบบเดิมในร้านเดิมๆ ทุกวัน
แม้กระทั่งตอนที่คุณออกไปดื่มสังสรรค์กับเพื่อน ก็ยังคงมีร้านอาหารดีๆ หลากหลายให้เลือก ซึ่งร้านที่สามารถดื่มสังสรรค์ได้ในย่านอิซากายะมีให้เลือกถึง 10,000 ร้าน แม้ว่าจะเป็นร้านที่ขายเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ แต่ก็ยังมีเมนูอาหารดีๆ ให้ได้เลือกเป็นกับแกล้มอีกด้วย ซึ่งส่วนใหญ่ก็เป็นอาหารที่มีคุณภาพมากกว่าในร้านสะดวกซื้อ
ในส่วนของเครื่องดื่มนั้น จากการสำรวจจาก 80 ประเทศพบว่าอเมริกานั้นมีการบริโภคน้ำอัดลมเป็นอับดับ 1 ที่อัตราการบริโภค 170 ลิตรต่อคน และญี่ปุ่นอยู่ในอันดับ 56 ที่อัตราการบริโภค 32 ลิตรต่อคนในปี 2011 ซึ่งในประเทศญี่ปุ่นมักจะเสิร์ฟชาพร้อมกับอาหาร และเครื่องดื่มในตู้กดอัตโนมัติก็มีความหลากหลายให้เลือก ทำให้น้ำอัดลมไม่ค่อยเป็นที่นิยมเท่าไร
.
สรุปแล้วไม่ว่าจะอาศัยอยู่ในประเทศไหนก็ตาม ปัจจัยหลักในการมีสุขภาพที่ดีคือการเลือกกินอาหารที่หลากหลาย ทำให้ได้สารอาหารครบถ้วนและไม่น่าเบื่อ แม้กระทั่งคนที่ไม่ค่อยสนใจเรื่องอาหารการกินก็ยังมีสุขภาพที่ดีได้จากการซื้ออาหารที่มีคุณภาพจากร้านสะดวกซื้อ
ที่มา Youtube
Leave a Reply
You must be logged in to post a comment.