หายนะแห้งแล้งกำลังมาเยือน Cape Town เทียบจากภาพถ่ายดาวเทียมตั้งแต่ 2011 จนถึงตอนนี้…

แม้ในปัจจุบันเทคโนโลยีกำลังก้าวไปข้างหน้า แต่ธรรมชาติกลับสวนทางกับความก้าวหน้าของมนุษย์ เพราะปัจจุบันทรัพยากรธรรมชาติและภูมิประเทศมากมายเริ่มจะเสื่อมถอยไปเรื่อยๆ ตั้งแต่น้ำแข็งที่ละลายไปจนถึงแม้น้ำที่แห่งเหือด

ยิ่งล่าสุดได้มีการเผยแพร่ภาพถ่ายดาวเทียมจากปี 2011 ของเมือง Cape Town ซึ่งเป็นเมืองหลวงของประเทศแอฟริกาใต้ออกมาเพื่อเทียบกับภาพของปี 2018 ซึ่งผลความต่างที่เราได้เห็นนั้นเล่นเอาหลายคนอึ้งไปตามๆ กัน

 

ภาพแรกนั้นมาจากเดือนมกราคมปี 2011 ซึ่งเราจะเห็นว่าตัวเมืองและทะเลสาบยังมีน้ำและความอุดมสมบูรณ์เต็มไปหมด ตัวภาพยังคงโทนสีเขียวไว้อย่างชัดเจน

 

กลับกันในปี 2018 เดือนเดียวกัน ภาพกลับเปลี่ยนโทรสีไปอย่างชัดเจน ทะเลสาบที่เคยมีน้ำอยู่เต็มก็เริ่มจางหายไปจนแทบจะมองไม่เห็นแล้ว

 

ดั่งที่เห็นจากภาพ ตัวทะเลสาบดังกล่าวเคยมีบริมาณน้ำที่มากถึง 126 ล้านแกลลอน แต่ปัจจุบันกลับมีปริมาณแค่ 13% จากที่เคยมีทั้งหมด

 

ในปี 2015 หลายๆ จุดในเมืองก็ยังคงมีสีเขียวให้เราได้เห็นอยู่เยอะพอสมควร

 

ต่อมาในปี 2016 สถานะการณ์รอบตัวเมืองก็ดูเหมือนจะดีขึ้น แต่ว่าน้ำกลับแห้งลงอย่างเห็นได้ชัด

 

จนกระทั่งช่วงปลายปี 2017 น้ำในทะเลสาบเริ่มหายไป อาจจะด้วยการสูบน้ำไปทำเกษตรกรรม หรืออะไรก็ตาม ซึ่งมันดันไปส่งผลระยะยาวให้กับปี 2018 ดังที่เห็นข้างบน

 

ทางการได้คาดการว่าจะเกิดเหตุการณ์ Day Zero ขึ้นในช่วงเดือนเมษา ซึ่งเป็นวันที่น้ำในทะเลสาบจะแห้งจนหมด ฉะนั้นตอนนี้พวกเขาจึงสั่งให้ประชาชนสามารถใช้น้ำได้เพียง 50 ลิตรต่อวันเท่านั้น ซึ่งลดจากเดิมที่เคยอนุญาตให้ใช้วันละ 87 ลิตร

ส่วนสาเหตุที่ทำให้เกิดการเปลี่ยนแปลงที่มากขนาดนี้นั้น ทางการก็ได้คาดว่าเพราะสภาพอากาศของโลกที่เปลี่ยนไปอย่างรวดเร็ว รวมถึงจำนวนประชากรของเมือง Cape Town ที่เพิ่มสูงขึ้นในช่วงที่ผ่านมานั่นเอง

 

ประชากรที่มากขึ้น แต่กลับกันทรัพยากรน้ำกลับน้อยลง

 

แน่นอนว่า Cape Town ไม่ใช่สถานที่เดียวที่กำลังประสบปัญหาภัยแล้ง ยังมีเมืองอีกมากมายที่ต้องเจอกับปัญหานี้ เพียงแต่ว่าเมืองดังกล่าวนั้นในตอนนี้มีอาการที่เข้าขั้นหนักที่สุด และเราก็ไม่อาจทราบว่าทางตัวเมืองจะหาทางออกในระยะยาวกับเรื่องนี้อย่างไร จึงยังคงต้องติดตามดูกันต่อไป…

 

ที่มา dailymail

Comments

Leave a Reply