ในแต่ละประเทศมักจะมีนโยบายเกี่ยวกับการนำเข้าสินค้า เพื่อป้องกันการคอร์รัปชัน และหากใครที่ละเมิดกฎก็ต้องถูกดำเนินการตามขั้นตอน
ล่าสุดในฟิลิปปินส์ได้มีการทำลายรถสปอร์ตและรถหรูอื่นๆ รวมมูลค่ากว่า 37 ล้านบาท ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของนโยบายปราบคอร์รัปชันของประเทศ
การทำลายดังกล่าวนี้เป็นคำสั่งของประธานาธิบดี Rodrigo Duterte ซึ่งทำให้มีทั้ง Jaguars BMWs และ Corvette Stingray ถูกบดขยี้ที่ลานศุลกากรในกรุงมะนิลา
ทางเจ้าหน้าที่กล่าวว่ารถหรูเหล่านี้ถูกยึดโดยรัฐบาล หลังจากมีการตรวจสอบพบว่ารถเหล่านี้ถูกลักลอบนำเข้าจากต่างประเทศอย่างผิดกฎหมาย
หนึ่งในรถที่ถูกทำลายคือ 2000 Jaguar สีฟ้า ที่มีป้ายทะเบียนของอังกฤษ โดยจดทะเบียนเป็นรถออฟโรด และ MOT (คล้ายกับการตรวจสภาพรถประจำปี) หมดอายุไปแล้วในปี 2012
ประธานาธิบดี Duterte ผู้เฝ้าดูการบดขยี้รถหรูด้วยตัวเอง กล่าว่า “เราจะมอบเศษรถเหล่านี้ให้กับผู้รับซื้อเศษเหล็ก พวกเขาอาจจะไม่มีรถแบบนี้ แต่พวกเขาสามารถใช้ชิ้นส่วนบางอย่างในการทำของเล่นออกมาได้”
ทั้งนี้สำนักงานศุลกากรของฟิลิปปินส์ได้ยึดรถลักลอบนำเข้ามูลค่า 92 ล้านบาทในปีที่แล้ว ซึ่งเป็นเพียงส่วนหนึ่งเท่านั้น เพราะสินค้าลักลอบนำเข้าที่ตรวจยึดมาได้มูลค่าทั้งหมดมากกว่า 27,000 ล้านบาท
Carlos Dominguez รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง บอกว่า “ถ้าคุณคิดจะหลีกเลี่ยงภาษีในฟิลิปปินส์ ขอให้หยุดซะ เพราะคุณจะไม่มีทางประสบความสำเร็จ”
ตลอดวาระการดำรงตำแหน่งประธานาธิบดีใน 6 ปีที่ผ่านมา Duterte พยายามกวาดล้างการทุจริตและปัญหายาเสพติดอย่างเข้มงวด
ปกติแล้ว เมื่อมีการจับกุมการลับลอบนำเข้ายานพาหนะได้ ต้องนำไปประมูลขายโดยรัฐบาลเพื่อดำเนินการตามกฎหมายต่อไป แต่ Duterte บอกว่า “เราจะทำให้มันกลายเป็นแค่เศษเหล็ก และผมจะจ่ายให้พวกเขาอย่างแน่อน ไม่ต้องห่วง”
นอกจากนี้โฆษกรัฐบาลยังบอกอีกว่าตอนนี้การทำลายรถหรูนำเข้าผิดกฎหมายกลายเป็นเป็นนโยบายแล้ว ซึ่งเป็นนโยบายที่ละทิ้งแนวทางปฏิบัติเดิมของการประมูลรถลักลอบนำเข้า เพื่อสร้างรายได้เพิ่มเติมแก่รัฐบาล
ประธานาธิบดีเสริมอีกว่าการถ่ายโอนรถยนต์ที่ผ่านการประมูล มักจะเปิดโอกาสให้พวกลักลอบทำให้รถที่นำเข้ามานั้นกลายเป็นรถที่ถูกกฏหมาย และนับเป็นหน่วยงานภาครัฐที่ทุจริตมากที่สุดแห่งหนึ่งของประเทศ
.
.
.
ที่มา dailymail
Leave a Reply
You must be logged in to post a comment.