สุนัขเป็นสัตว์เลี้ยงที่ฉลาด น่ารัก และซื่อสัตย์กับมนุษย์เสมอ จึงไม่แปลกใจเลยว่าทำไมบางคนถึงรักน้องหมามากเท่ากับคนในครอบครัว
อย่างไรก็ตาม มีคนอีกกลุ่มหนึ่งที่เห็นสุนัขเป็นเพียงแค่สัตว์ทั่วไปเท่านั้น และพยายามจะหาประโยชน์จากพวกมัน พร้อมทั้งทารุณมันสารพัดเพื่อให้ได้มาซึ่งสิ่งที่ตัวเองต้องการ
การต่อสู้สุนัข (Dogfighting) เป็นหนึ่งในวิธีที่มนุษย์ทำกับสุนัข เพื่อความบันเทิงและแสวงหากำไรจากผู้เข้าชม ทั้งๆ ที่เป็นการกระทำผิดกฎหมายและไร้มนุษยธรรม
การฝึกสุนัขเพื่อต่อสู้ ไม่เพียงแต่ทารุณกรรมพวกมันเท่านั้นแต่หลายตัวถูกฆ่าตายด้วย
บางคนเรียกกิจกรรมประเภทนี้ว่า “กีฬา” ซึ่งเป็นการบังคับให้สุนัขต่อสู้กันเอง Oogy เป็นหนึ่งในสุนัขเหล่านั้น ที่ผ่านการต่อสู้นับครั้งไม่ถ้วน
Oogy เป็นหมาพันธุ์โดโกอาร์เจนติโน มันได้รับการช่วยเหลือจากตำรวจด้วยสภาพที่ค่อนข้างแย่ เพราะมันถูกทิ้งในกรงที่ไม่มีน้ำ ไม่มีอาหาร และมีเลือดออก
น้องหมาถูกกัดและถูกจู่โจมจนทำให้หูซ้ายของมันฉีดขาด แลเพื่อที่จะช่วยชีวิตมัน เจ้าหน้าที่ตำรวจจึงพา Oogy ไปหาสัตวแพทย์เพื่อรับการรักษา
ต่อมาในระหว่างที่น้องหมาพักฟื้น ครอบครัว Levin อยู่ที่นั่นพอดี เพราะพาน้องแมวที่รักของพวกเขามาเยี่ยมเจ้าหน้าที่ที่นี่เป็นครั้งสุดท้าย
แต่แล้ว เมื่อครอบครัวได้พบกับ Oogy ขณะที่มันถูกพาไปเดินเล่นเพื่อบำบัดหลังการผ่าตัด พวกเขารู้สึกเศร้าและหดหู่อย่างเห็นได้ชัด
ด้วยอดีตที่เลวร้ายของมัน พวกเขาไม่แน่ใจว่าน้องหมาจะก้าวร้าวหรือเปล่า แต่ครอบครัว Levin คิดว่าไว้แล้วว่าไม่ว่ามันจะเป็นยังไง พวกเขาก็จะรักมัน
พวกเขาได้ปรึกษาสัตวแพทย์ในเครื่องนี้ และได้คำตอบว่า “หมาตัวนี้ไม่เคยกัดใครหรอก”
ในที่สุดครอบครัว Levin ก็ตัดสินใจพามันกลับบ้านด้วย ซึ่งมันเข้ากับทุกคนในครอบครัวได้ดี รวมทั้งเด็กชายฝาแฝดวัย 12 ปีด้วย
ขณะเดียวกันน้องหมาก็ค่อยๆ มีน้ำหนักเพิ่มขึ้นและแข็งแรงขึ้น รอยแผลเป็นจากการผ่าตัดก็แทบจะไม่มีให้เห็นแล้ว ที่สำคัญ เรื่องราวของมันแพร่กระจายไปทั่วโลกอย่างรวดเร็ว และได้รับความสนใจในระดับประเทศ
Oogy ไม่เพียงแค่นำความสุขมาให้กับครอบครัว Levin แต่มันยังเป็นแรงบันดาลใจให้พวกเขาเริ่มทำบางอย่างที่ไม่เคยทำมาก่อนด้วย
นั่นคือ ในปี 2008 ขณะที่น้องหมาอายุไม่กี่ขวบ Larry Levin ได้กลายเป็นผู้สนับสนุนเพื่อพยายามจะหยุดยั้งการต่อสู้หมา
แน่นอนว่า Oogy มีความสำคัญต่อการขับเคลื่อนนี้ เพราะ Larry ได้ให้ข้อมูลและเรื่องราวของมันกับกลุ่มช่วยเหลือ ไม่นานหลังงาน ผู้ผลิตรายการ The Oprah Winfrey Show ก็ได้ติดต่อมา
ผู้ผลิตให้น้องหมาไปปรากฏตัวในรายการ Valentine’s Day ซึ่งทุกคนที่เห็นต่างหลงรักตั้งแต่แรกเห็น จนทำให้ Oogy ได้รับความสนใจเป็นอย่างมาก
นอกจากนี้ Levin ยังได้เขียนหนังสือ Oogy เพื่อบอกเล่าเรื่องราวของมัน ก่อนจะประสบความสำเร็จและกลายเป็นหนังสือที่เป็นแรงบันดาลใจให้กับมูลนิธิสัตว์หลายแห่ง
แต่ครอบครัวไม่ได้หยุดอยู่แค่นั้น Larry ไปเยี่ยมโรงเรียนหลายแห่งเพื่อพูดให้เด็กๆ ฟังเกี่ยวกับเหตุผลว่าทำไมต้องต่อต้านการต่อสู้สุนัข แน่นอนว่าเธอยกตัวอย่างชีวิตของ Oogy ประกอบการบรรยายเสมอ
เมื่อเวลาผ่านไป สุขภาพของ Oogy ก็เริ่มแย่ลงเรื่อยๆ เพราะอายุของมันเริ่มมากขึ้น บวกกับบาดแผลจากการต่อสู่ในอดีต และการผ่าตัดนับครั้งไม่ถ้วน ทำให้มันไม่สามารถเดินทางไกลๆ ได้มากนัก
แต่ไม่ว่าจะเกิดอะไรขึ้น Oogy ก็ยังดูมีความสุขเสมอ โดยเฉพาะรอยยิ้มของมัน ที่ย้ำเตือน Levins เสมอว่าไม่ว่าโลกจะเลวร้ายแค่ไหนพวกเขาก็ยังสามารถมีชีวิตอยู่ได้ ตราบเท่าที่ยังมีความรัก
กระทั่งน้องหมาอายุ 100 ปี (อายุน้องหมาเทียบกับคน) วันแห่งการจากลาก็มาถึง ในวันนั้น มันได้กินขนมโปรด จากนั้นก็ให้มันใส่เสื้อโค้ทอุ่นๆ ก่อนจะพาไปนั่งรถเล่น
ในช่วงเวลาสุดท้ายของการบอกลา ทั้ง Oogy และครอบครัว Levin ได้ตระหนักว่าที่ผ่านมานั้นพวกเขามีความสุขมากเพียงใด และแน่นอน มันเป็นช่วงเวลาที่พวกเขาจะไม่มีวันลืม
แม้น้องหมาจะจากไปแล้ว แต่เรื่องราวของมันไม่เคยหายไปไหน เพราะหนังสือของ Oogy ที่เขียนโดย Levins ยังคงเป็นแรงบันดาลใจให้ผู้คนทั่วโลก และถูกแชร์ในโลกออนไลน์มากขึ้นเรื่อยๆ
จนถึงปัจจุบันนี้ Oogy ล่วงลับไปแล้ว 2 ปี แต่เพจเฟซบุ๊กของมันยังมีบันทึกความทรงจำเกี่ยวกับมันทุกวัน และบางคนโพสต์รูปภาพอื่นๆ เพื่อระลึกถึงมันด้วย
พร้อมกันนี้ Levins ยังคงเดินหน้าต่อสู้เพื่อหยุดยั้งการต่อสู้สุนัขอย่างต่อเนื่อง เธอเดินทางไปให้ความรู้กับผู้คนในสถานที่ต่างๆ และระดมเงินเพื่อช่วยเหลือสุนัขที่ตกเป็นเหยื่อ
เรื่องราวของ Oogy ยังแพร่กระจายไปสู่เรือนจำด้วย เพื่อให้คนที่อยู่ในนั้นบอกต่อเพื่อนของพวกเขาที่อยู่ข้างนอกให้หยุดการต่อสู้หมา ในกรณีที่มีคนรู้จักอยู่ในวงการดังกล่าว
การขับเคลื่อนด้วยพลังฝูงชนขนาดใหญ่นี้ Levins หวังว่าการต่อสู้สุนัขจะสิ้นสุดลงในสักวันหนึ่ง และต้องขอบคุณ Oogy ที่ทำให้เกิดการเคลื่อนไหวที่ยิ่งใหญ่นี้
ที่มา lifebuzz
Leave a Reply
You must be logged in to post a comment.