บริษัท Hair Monat ผู้ผลิตเกี่ยวกับผลิตภัณฑ์ดูแลเส้นผม ได้ทำการฟ้องร้องหญิงสาวที่ชื่อว่า Vickie Harrington อายุ 54 ปี ชาวรัฐโคโรไลนา หลังจากที่เธอกล่าวหาว่า ผลิตภัณฑ์ของบริษัทเป็นส่วนหนึ่งที่ทำให้เธอผมร่วงและเกิดรอยแผลไหม้บนหนังศีรษะ
ทางบริษัทต้องฟ้องร้องเพราะว่าโพสต์ของผู้หญิงคนนี้สร้างความเสื่อมเสียให้กับผลิตภัณฑ์ของบริษัท โดยทางบริษัทได้กล่าวว่า สินค้าของบริษัทผลิตจากสารสกัดจากธรรมชาติ ปลอดภัยสำหรับทุกสภาพเส้นผม
Vickie Harrington
โพสต์ของ Vickie ที่ทำให้เกิดการฟ้องร้องนี้มีใจความว่า “ถ้าคุณรู้ว่าใครใช้สินค้าเหล่านี้ โปรดเตือนพวกเขาว่า มีผู้ใช้กว่า 800 คนสูญเสียเส้นผมและเกิดแผลบนหนังศีรษะ เมื่อคุณหยุดใช้สินค้าชนิดนี้”
Vickie กล่าวว่า เธอซื้อผลิตภัณฑ์ดูแลเส้นผม Monat มาจากเพื่อนบ้าน หลังจากที่เธอใช้ครั้งแรก เธอประทับใจมาก แต่พอเธอหยุดใช้สักพักก็พบว่าผมของเธอเริ่มร่วง เธอจึงถามเพื่อนบ้าน และก็ได้รับคำตอบกลับมาว่า มันคือขั้นตอนของการดีท็อกซ์เส้นผม
เธออ้างว่า การดีท็อกซ์เอาสารเคมีทั้งหลายออกจากเส้นผมตามที่เพื่อนบ้านบอกนั้นมันไม่ใช่ เพราะเส้นผมของเธอคือผมธรรมชาติไม่เคยเปลี่ยนแปลงอะไรใดๆ เลย เธอจึงหยุดการใช้ผลิตภัณฑ์อย่างถาวร
Vickie ได้ทำการขอคืนเงินจากทางบริษัท แต่ทางบริษัทปฏิเสธที่จะคืนเงินเต็มจำนวน เนื่องจากว่าเธอซื้อไปเกิน 30 วันแล้ว Vickie จึงได้มาโพสต์เรื่องราวทั้งหมดลงบนโลกออนไลน์
เธอตั้งกลุ่มบนเฟซบุ๊กรวบรวมหญิงสาวและถ่ายรูปโชว์ความเสียหายที่เกิดขึ้นบนหนังศีรษะของเธอ รวมไปถึงการขอข้อมูลจากผู้ที่ประสบภาวะผมร่วงหลังจากการใช้ผลิตภัณฑ์เหมือนเธอ หลังจากนั้นไม่นานเธอบอกว่าเธอได้รับการติดต่อคืนเงินทั้งหมด แต่เธอก็ยังยืนยันว่าเธอจะยังคอยดูแลกลุ่มที่เธอตั้งนี้ตลอดไป
ส่วนทางด้านบริษัท Monat อ้างว่าได้นำผลิตภัณฑ์ไปทดสอบความปลอดภัยกับทางคลินิกแล้ว ผ่านเกณฑ์ความปลอดภัย ส่วนเหตุที่ Vickie ผมร่วงนั้น เธออาจจะแพ้สารอะไรบางอย่างที่อยู่ในผลิตภัณฑ์ และมันก็ไม่ใช่ความผิดของบริษัท ลูกค้าควรตรวจสอบผลิตภัณฑ์ว่ามีส่วนผสมที่ทำให้แพ้หรือไม่
นอกจากนี้ทางบริษัทยังกล่าวว่าเธออาจจะถูกจ้างวานจากบริษัทคู่แข่งให้มาทำลายชื่อเสียงของบริษัทก็เป็นได้ และเรื่องผมร่วงก็เป็นเรื่องปกติที่มนุษย์จะผมร่วง 150 เส้นต่อวัน ส่วนเรื่องการใช้ผลิตภัณฑ์แล้วแพ้ ลูกค้าควรหยุดใช้แล้วไปพบแพทย์ผิวหนัง MacMillan โฆษกของบริษัทกล่าว
แต่ก็มีลูกค้าหลายรายที่เข้ามาโพสต์ภาพหลังจากการใช้ผลิตภัณฑ์ของบริษัทอีกหลายราย และเรื่องนี้ก็ต้องมีการติดตามกันต่อไปว่าผลจะเป็นอย่างไร
ที่มา buzzfeed
Leave a Reply
You must be logged in to post a comment.